คำขอครั้งสุดท้ายจากน้อง อย่าบอกแม่ว่าหนูฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. พ.ต.ท.วุฒิ พุฒิพานนท์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงกินยาฆ่าแมลงเสียชีวิต ภายในบ้านพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น ภายในบ้านพบร่าง น.ส.แหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นอนน้ำลายฟูมปากเสียชีวิตบนโซฟา ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ข้างโซฟามีขวดยาฆ่าแมลงยี่ห้อหนึ่ง ระบุเป็นวัตถุอันตราย มีพิษร้ายแรง ขนาด 100 มิลิลิตร วางอยู่ข้างขวดนม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี พี่ชายผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า น้องสาวเรียนอยู่ ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ น้องก็กลัวติดเชื้อ ไม่อยากไปเรียนหนัง ประกอบกับมีปัญหาเรื่องส่วนตัว จากนั้นก็เริ่มบ่นว่าอยากตาย ไม่อยากอยู่แล้ว ตนได้แต่ปลอบใจ และพยายามถามว่ามีปัญหาอะไร แต่ผู้ตายก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งแม่ทราบเรื่องจึงพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการจนเริ่มดีขึ้น

"…ระยะหลังอาการน้องสาวแย่กว่าเดิม เคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ครั้งที่สองรมควันในห้องตัวเอง แต่ทั้งสองครั้งก็ช่วยไว้ได้ทัน พอจะบอกแม่ น้องสาวกลับห้ามไม่ให้บอก ว่าหนูพยายามฆ่าตัวตาย จนกระทั่งวันนี้ช่วงบ่าย เดินลงจากชั้นสองเห็นน้องสาวนอนหลับอยู่บนโซฟา มีผ้าขนหนูผืนเล็กปิดหน้า พอตะโกนเรียกกลับไม่ตืน เอามือเขย่าตัวพบว่าตัวเย็นมาก พอดึงผ้าปิดหน้าออกก็รู้ทันทีว่าน้องฆ่าตัวตายอีกแล้ว เพราะน้ำลายฟูมปากไม่หายใจ และยังพบขวดยาฆ่าแมลงวางอยู่ใกล้ ๆ ด้วย…." นายเอก กล่าวทั้งน้ำตา 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้ตายอาจจะมาอาการเครียดเรื่องส่วนตัว โดยไม่ยอมเล่าให้ใครฟังจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และพยายามฆ่าตัวตายซึ่งที่ผ่านมาพี่ชายช่วยเอาไว้ได้ทัน จนกระทั่งสบโอกาสไปซื้อยาฆ่าแมลงมาผสมกับนมดื่ม ก่อนที่จะนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาภายในบ้านดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.