รีบขึ้นจากน้ำ! นักท่องเที่ยวหนีตายระทึก เขื่อนเปิดประตูน้ำไม่แจ้ง ซัดแพล่องแก่งหวิดล่ม(คลิป)

รีบขึ้นจากน้ำ! นักท่องเที่ยวหนีตายระทึก เขื่อนเปิดประตูน้ำไม่แจ้ง ซัดแพล่องแก่งหวิดล่ม

วันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขึ้นเมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เขื่อนสิรินธร เปิดประตูน้ำโดยไม่แจ้งผู้ประกอบแพท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า ทำให้กระแสน้ำไหลหลากเข้าใส่แพพานักท่องเที่ยวล่องแก่งพักผ่อนเล่นน้ำถูกกระแสน้ำพัดจนเชือกผูกแพขาดแล้วไหลไปปะทะกับแพที่ให้บริการรายอื่น ทำให้แพเอียงข้าวของหล่นลงไปในลำน้ำ ก่อนถูกสายน้ำพัดหายไป ขณะที่นักท่องเที่ยวพากันหนีตายขึ้นฝั่งอย่างโกลาหล

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

นายวุฒิชัย คำจุล อายุ 33 ปี ผู้ประกอบการและเป็นนายท้ายแพท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์กระแสน้ำพัดแพจนเกือบล่มครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่พานักท่องเที่ยวล่องแพดูธรรมชาติและมาจอดแพใกล้หน้าเขื่อนสิรินธร เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำระหว่างนั้นจู่ๆ กระแสน้ำที่ไหลออกจากประตูหน้าเขื่อนไหลแรงกว่าปกติ และมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น

" ผมจึงตะโกนแจ้งให้นักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำอยู่ในแก่ง และที่นั่งอยู่ในแพให้รีบขึ้นจากน้ำ พร้อมออกจากแพขึ้นมาอยู่บนบกเพื่อความปลอดภัย ซึ่งกระแสน้ำที่พัดแรงทำให้เชือกผูกแพขาดไหลไปปะทะกับแพลำอื่นที่อยู่ด้านล่างได้รับความเสียหายประมาณ 1 หมื่นบาท และทำให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการพากันเสียขวัญ

สาเหตุเกิดจากเขื่อนสิรินธรเปิดประตูระบายน้ำโดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า เพราะปกติเขื่อนจะเปิดประตูระบายน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงเช้า และมีการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบผ่านทางกลุ่มไลน์ เพื่อให้ระมัดระวังกระแสนน้ำที่จะไหลแรงขึ้นแต่วันนี้ เขื่อนเปิดประตูน้ำในช่วงบ่าย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการแพทราบก่อนล่วงหน้า ทำให้เกิดเหตุขึ้น "

ด้านนายสังวาล พรมสำลี หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบปิดประตูระบายน้ำทันที และต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ประกอบการเข้ามาในพื้นที่แนวกั้นที่ห้ามไว้หรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุกรมเจ้าท่าและอำเภอสิรินธรได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุ รวมทั้งนายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอสิรินธร ได้นัดผู้ประกอบการให้มาร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกในวันพุธ 8 ก.ค.นี้