กีฬา

แลกคนละหมัด! ส.บอล โต้ “บังยี” ชี้แจงเหตุบอกเลิกสัญญาสิทธิประโยชน์

Soccersuck
เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 09.59 น. • Soccersuck


สมาคมฟุตบอลฯ โต้ “บังยี” ชี้แจงสาเหตุบอกเลิกสัญญาผู้บริหารสิทธิประโยชน์ และยังไม่เกิดความเสียหายจากการถูกฟ้องร้อง
ตามที่ปรากฏข่าวจากการแถลงของ นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กรณี การบริหารงานของสภากรรมการชุดปัจจุบัน ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเกิดความเสียหาย ถูกศาลพิพากษาให้สมาคมฯจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แก่บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ( มหาชน ) ตามความทราบแล้วนั้น
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอชี้แจงให้ทราบว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด สมาคมได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น พร้อมคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับเป็นอุทธรณ์แล้ว สมาคมยังไม่ได้จ่ายเงิน จึงยังไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคม
ทั้งนี้ สภากรรมการ มีความจำเป็นต้องให้สมาคมบอกเลิกสัญญาเนื่องจากไม่สามารถลงมติได้ว่าสมาคมจะยึดถือสัญญาฉบับใด เพราะพบว่าสัญญาที่ทำไว้ในสมัยของนายวรวีร์ มะกูดี มีสัญญา “แต่งตั้งผู้บริหารสิทธิประโยชน์ฟุตบอลลีกอาชีพ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” 2 ฉบับลงวันที่เดียวกัน (วันที่ 8 กุมพาพันธ์ 2556) ฉบับหนึ่งให้ผลตอบแทน 5 เปอร์เซ็นต์ แต่อีกฉบับหนึ่งให้ผลตอบแทน 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนฉบับที่ 3 หลังจากสมาคมถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึง ได้รับสัญญาฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2558 จากโจทก์ (ตามเอกสารประกอบ 4) สัญญามีลักษณะนำสิทธิประโยชน์ของสมาคมไปเป็นทุนโดยรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากการบริหารสิทธิประโยชน์หักด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น หากมีกำไรจะแบ่งกันคนละครึ่ง หากขาดทุนสมาคมจะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เลย การลงทุนลักษณะดังกล่าวเปรียบประดุจการลงทุนในห้างหุ้นส่วน สุ่มเสี่ยงต่อการทำให้สมาคมเกิดความเสียหายถึงขั้นล้มละลายได้
นอกจากนั้นสัญญานี้มีลักษณะเป็นการมอบการบริหารจัดการทั้งปวงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของสมาคมให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคู่สัญญาอีกฝ่ายแต่ผู้เดียว การที่สภากรรมการบอกเลิกสัญญาจึงได้พบความเป็นจริงดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการปกปักษ์รักษาสมาคมไว้อย่างทันท่วงที สามารถรักษาผลประโยชน์อันเกิดจากสิทธิประโยชน์ของสมาคมไว้เพื่อนำมาพัฒนากีฬาฟุตบอลของชาติต่อไป
สภากรรมการ เข้ามารับตำแหน่ง ไม่ปรากฏหลักฐานการรับค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ ประกอบกับสัญญานี้กำหนดผลตอบแทนเพียง 5 หรือ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งยังยกอำนาจในการบริหารจัดการสมาคมให้กับบริษัทดังกล่าวทั้งหมด ทำให้สภากรรมการไม่สามารถกำหนดทิศทาง หรือนโยบายในการบริหารจัดการสมาคมได้ และสัญญาดังกล่าวไม่เป็นธรรม ที่ให้สมาคมได้รับค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ 5 หรือ 50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
นอกจากนี้ ในระหว่างการสืบพยานในคดีดังกล่าว สมาคมยังพบหลักฐานการโอนเงินระหว่าง บริษัท คู่สัญญากับอดีตนายกสมาคม เอกสารการสั่งจ่ายระบุให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ รายการ ค่าดำเนินการ TPL 2013 ลงวันที่ 25 เมษายน 2556 จำนวนเงิน 7 ล้านบาท แต่เงินดังกล่าวถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตนายกสมาคมฯ ซึ่งนำมาสู่การที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ศาลแขวงปทุมวัน หมายเลขคดีดำที่ อ.4/2562 ในข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • Redstar503
    ลุงบังคงกลับมาได้ยากเขาเขียนข้อห้ามคุณสมบัติมาปิดโอกาสไว้แบบนั้น และอีกอย่างมันเป็นยุคของลุงยุด ทีมงานบอลยุคของลุงบังแทบหมดโอกาส จะมีก้อจิ้งจกไม่กี่คนที่ปรับตัวได้ แต่ผลงานยุคลุงบังดีกว่าแน่นอน ไทยแลยด์เป็นจ้าวอาเซี่ยน แต่ตอนนี้หล่นไปแล้ว
    21 ม.ค. 2563 เวลา 11.04 น.
  • เงาะน้อย
    ยังงัยยังงัยลุงลูกอ๊อดก็แต่กว่าบังยีนะ55แจ่ถ้ามีคนใหม่ก็น่าจะดี
    21 ม.ค. 2563 เวลา 11.01 น.
  • ธีระศักดิ์
    หยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อ โถๆๆช่างคิดได้ไอเดียบรรเจิด
    21 ม.ค. 2563 เวลา 10.59 น.
  • นิรันดร์
    นับว่า.. โชคดีของสมาคมบอล.. ที่สองคนนี้.. มาแฉ.กันและกัน.. ขอให้สโมสรสมาชิก.. เลือบุคคลที่สามไปเลย555
    21 ม.ค. 2563 เวลา 10.55 น.
ดูทั้งหมด