ทั่วไป

เปิดเทอมแล้วระวังลืมเด็กในรถ แนะ 3 ข้อควรจำก่อนลงจากรถ

TODAY
อัพเดต 12 พ.ค. 2562 เวลา 07.34 น. • เผยแพร่ 12 พ.ค. 2562 เวลา 07.34 น. • Workpoint News

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังการลืมเด็กไว้ในรถ อาจเสี่ยงทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ซึ่งในช่วง 5 ปีย้อนหลัง พบว่ามีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืม/ทิ้งไว้ในรถเสียชีวิตแล้ว 5 ราย พร้อมแนะ 3 ข้อ ควรจำ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันที่ 12 พฤษภาคม 2562 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศเริ่มเปิดภาคเรียนตามปกติแล้ว ซึ่งผู้ปกครองและครูอาจารย์ต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ โดยเฉพาะในเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและในศูนย์เด็กเล็ก ทั้งรถรับส่งเด็กนักเรียน และรถของผู้ปกครองเอง ที่หากเกิดเหตุแล้วอาจเสี่ยงทำให้เด็กเสียชีวิตได้

จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค พบว่าในช่วง 5 ปี (ปี 2557 - 2561) พบว่า มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถจำนวน 106 เหตุการณ์ เด็กเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย เป็นเพศหญิง 3 ราย เพศชาย 2 ราย อายุอยู่ระหว่าง 3 - 6 ปี โดยเกิดเหตุขึ้นในรถรับจ้างรับส่งนักเรียน 4 ราย และรถยนต์ส่วนบุคคล 1 ราย ทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้ในรถนานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป โดยเกิดขึ้นขณะเด็กนอนหลับและจอดรถไว้หลังจากรับส่งนักเรียนเสร็จ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากข้อมูลการทดสอบกรณีเด็กติดในรถ (จอดรถกลางแดด) ของศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดด 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนไม่สามารถทนอยู่ได้ 10 นาที ร่างกายจะยิ่งแย่ และ 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวมตามมา จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้

ผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับส่งนักเรียน และครูอาจารย์ ขอให้เตือนตัวเอง ใน 3 ข้อควรจำ เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถ ดังนี้ “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” ได้แก่

1.นับ จำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
2.ตรวจตรา ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ
3.อย่าประมาท อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพัง แม้ว่าจะลงไปทำธุระเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้ ครูและผู้ปกครอง ควรสอนให้เด็กรู้จักการร้องขอความช่วยเหลือโดยการกดแตรรถ เป็นต้น หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็ว ถ้าหากไม่พบเจ้าของรถ ก็ขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669 ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • 3ข้อแนะนำ คนคือความผิดพลาด!! แล้วก็คงจะมีเกิดขึ้นอีกไม่ช้าก็เร็ว ควรทำ visual control โดยไม่ต้องมานั่งนับนั่งเช็ค พอคนขับหรือครูคุมรถตัวจริงขาด เจ็บป่วย คนมาแทนก็ออาจพลาดได้ การทำ visual control เช่นทำกล่องพลาสติคใส แยกเป็นช่องๆให้เด็กแต่ละคนช่องใครช่องเธอ ขึ้นรถก็ให้เด็กหยอดเหรียญพลาสติคในกล่อง ตอนลงก็เอาเหรียญคืน เด็กที่ขาดเรียนไม่ขึ้นรถ ให้ครูคุมรถหยอดแทนแต่เป็นเหรียญต่างชนอดต่างสี อย่างนี้เป็นต้น "visual cintrol"
    12 พ.ค. 2562 เวลา 13.57 น.
  • sawat
    คงต้องฝึกให้เด็กช่วยเหลือตัวเองด้วยเช่นกดแตรรถ วิธีเปิดปิดที่ล็อคประตู ไม่อนุญาติให้รถติดฟิล์ม(ใช้ผ้าเป็นม่านกันความร้อนได้) ให้ครูหรือผู้ช่วยคนขับต้องลงจากรถโดยใช้ประตูหลังเท่านั้นเมื่อรับส่งนักเรียนคนสุดท้ายแล้ว ติดกล้องวงจรปิดให้คนขับและครูหรือผู้ช่วยคนขับเห็นเด็กภายในรถทุกคน โรงเรียนต้องย้ำคนขับครูที่ดูแลเด็กให้ปฏิบัติทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเศร้า. ไม่รู้ว่าเยอะไปไหม
    12 พ.ค. 2562 เวลา 09.46 น.
  • Chai Nut
    จัดทำ สติ๊กเกอร์ แปะตรง หน้า คนขับ และ ที่กระจก ประตูปิด เปิด ครับ จะช่วยเตือนได้
    12 พ.ค. 2562 เวลา 09.32 น.
ดูทั้งหมด