ทั่วไป

“ค่าครองชีพสูง” จนโงหัวไม่ขึ้น! ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่? ถึงจะอยู่รอดในกรุงเทพฯ!

Another View
เผยแพร่ 08 ก.พ. 2562 เวลา 13.00 น.

“ค่าครองชีพสูง” จนโงหัวไม่ขึ้น! ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่? ถึงจะอยู่รอดในกรุงเทพฯ! 

BY : TEERAPAT LOHANAN

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากผลการรายงานของ"เว็บไซต์ Numbeo" ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดเผยฐานข้อมูลฟรี เกี่ยวกับค่าครองชีพของเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ได้เปิดเผยตัวเลขค่าครองชีพของประเทศไทยออกมาว่า เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพแพงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน!!!! (น้อยกว่าสิงคโปร์ที่ครองแชมป์อันดับหนึ่งลำดับเดียว)

โดยประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตกอยู่ที่เดือนละ 2.1 หมื่นบาท เฉลี่ยมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องแต่งกาย การเดินทาง ร้านอาหาร การกีฬา สาธารณูปโภค การดูแลเด็ก ความบันเทิง ที่อยู่อาศัย ฯลฯ (ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ https://www.numbeo.com/cost-of-living/in/Bangkok)

เรื่องค่าครองชีพของคนไทยนั้น เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากเกินกว่าที่จะปล่อยปละละเลยมันไปได้ จะทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ก็ใช่ว่าจะเกิดผลดี เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวและส่งผลกระทบกับเราในทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องปากท้อง ไปจนถึงเรื่องส่งลูกส่งหลานไปเรียน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นับว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นลำดับต้น ๆ ของคนไทย รวมไปถึงเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดตัวต่ำลงเรื่อย ๆ 

ตัวเลขเหล่านี้คือสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนทั้งประเทศจริง ๆ เพราะระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศไทยให้ตายยังไงก็หนีไม่พ้นเมืองศูนย์กลางของประเทศอย่างกรุงเทพมหานคร ฉะนั้นแล้ว เมื่อค่าครองชีพของคนเมืองสูงขึ้น ก็ย่อมต้องมีผลกระทบกระจายไปสู่ภูมิภาคเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว อย่างที่เรามีคำเปรียบเทียบว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว(Butterfly Effect) 

เมื่อลองพิจารณาดูดี ๆ แล้ว เราจะพบว่าในตัวเลขค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่วของชาวกรุงเทพ ที่อยู่ที่ 2.1หมื่นบาทนั้น ไม่ได้เป็นตัวเลขที่สูงอะไรเมื่อเทียบกับประเทศเจ้าของค่าครองชีพอันดับหนึ่งของอาเซียน ซึ่งก็คือสิงคโปร์ ที่มีดัชนีค่าครองชีพอยู่ที่ 91.40 ส่วนเมืองไทยดัชนีค่าครองชีพอยู่ที่ 48.91 เพราะว่ามันมากกว่าเป็นเท่าตัวเลย!

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญที่เราอาจจะลืมสังเกตไป นั่นก็คือ "รายได้เฉลี่ย"

รายได้เฉลี่ยของประเทศสิงคโปร์ที่ค่าครองชีพแพงกว่าคนกรุงเทพฯ นั้น ก็มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่าคนกรุงเทพฯ ถึง 290.29% (คนกรุงเทพฯมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 24,755 บาท)

นั่นหมายถึงความสอดคล้องกันของการดำเนินชีวิตประจำวัน ว่าเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีแค่ไหน ในเมืองที่เราอาศัยอยู่ เพราะถึงแม้ว่าสิงคโปร์จะมีรายจ่ายที่มากกว่าเราเป็นเท่าตัวก็จริง แต่รายได้ของพวกเขาก็สูงกว่าเรานำลิ่วอยู่เหมือนกัน

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทีนี้ก็เราก็คงจะต้องย้อนกลับมาถามที่ตัวเราเองว่า ในเมื่อค่าครองชีพสูงขนาดนี้ แต่รายได้กลับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ในท่ามกลางระบบการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ว่า เราควรจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร? ให้เหมาะสมกับมาตรฐานชีวิตที่เราควรจะได้รับ 

นั่นเป็นคำถามที่ดูเหมือนว่าคนเมืองกรุงน่าจะต้องตอบตัวเองให้ได้

 

อ้างอิง : https://thematter.co/brief/brief-1548496801/69540

https://thematter.co/thinkers/cost-of-living-in-thailand/5029

ความเห็น 61
  • Chumroen..
    จะอยู่รอดได้ไงในเมื่อเงินเดือนพนักงานราชการ กระทรวงทรัพยากรฯ ยังไม่ออกให้เลย ผู้ใหญ่ในกระทรวงทำอะไรกันอยู่ งานให้ทำแทบไม่ได้หยุดครอบครัวเขาจะกินอะไร
    10 ก.พ. 2562 เวลา 01.44 น.
  • ต้องเจียมตัว พอเพียง มีน้อยใช้น้อย เก็บออม
    10 ก.พ. 2562 เวลา 01.37 น.
  • Nicky
    ออกมอไซด์ ขับไปทำงาน กินข้าวร้านข้างทาง ใช้ของตลาดนัด มันต้องเหลือสิวะ
    09 ก.พ. 2562 เวลา 19.06 น.
  • song tae hee
    วันๆไม่พอจะแดก
    09 ก.พ. 2562 เวลา 15.52 น.
  • Patchara
    อย่าฟุ่มเฟือยสิ เรา 18,000 อยู่กรุงเทพได้สบาย เราไม่เดินห้าง ไม่กินอาหารฝรั่ง กินอาหารไทย สบายๆ
    09 ก.พ. 2562 เวลา 14.46 น.
ดูทั้งหมด