สัมภาษณ์
โดย ณัฐวุฒิ กรัณยโสภณ
การอภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 3 ฉบับ ที่ใช้สู้ไวรัสโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้าน เป็นเวทีแรกที่ขุนพล “พรรคก้าวไกล” ได้แสดงบทบาท ภายหลังแปลงร่างจากพรรคอนาคตใหม่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คือ ขุนพล “สายบู๊” ที่ทำหน้าที่เปิดอภิปรายในนามพรรค หลัง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค ที่มีอาการบาดเจ็บ
“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนากับ “วิโรจน์” ถึงการพลิกบทจากพรรคอนาคตใหม่ สู่ “ก้าวไกล” ในวันที่ขุนพล-ตัวเอกยุคเก่า ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และการติดตาม-เกาะติดการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้าน ที่ “ก้าวไกล” กัดไม่ปล่อย
พรรคใหม่ อุดมการณ์เดิม
วิโรจน์ยืนยันว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม ทั้งอุดมการณ์ และความมุ่งมั่น เพียงแต่เพื่อนเราบางคนไม่อยู่กับเราแล้วเท่านั้น
“ทุกการอภิปรายของผมยังเหมือนเดิม ไม่ต้องการอภิปรายเพื่อตำหนิรัฐบาลสาดเสียเทเสีย แต่พยายามชี้ประเด็นอยากให้ประชาชนเห็นประเด็นเหมือนที่เรามี สะท้อนสิ่งที่รัฐบาลจงใจมองข้าม จัดลำดับความสำคัญผิดหรือไม่”
แม้ว่าในยุคพรรคอนาคตใหม่ มีชายที่ชื่อ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เป็นหัวหอกในสภา แต่นาทีนี้ไม่มี “ตัวเอก” คนนั้นแล้ว ก็ไม่กระทบกับ “ก้าวไกล”
“อาจารย์ปิยบุตรไม่ได้กำกับทุกอย่างนะพรรคเราใช้ที่ประชุม ส.ส.ในการกำกับ พอเรามีอุดมการณ์เป็นหลักยึด ก็เป็นกรอบใหญ่ ๆ ในการตัดสินใจของเรา หลายครั้งอาจารย์ปิยบุตรก็โหวตแพ้นะ น่าจะส่วนใหญ่โหวตแพ้ด้วยซ้ำไป พรรคก้าวไกลกลายเป็นพรรคที่เป็นระบบ ไม่ใช่เป็นพรรคที่ยึดตัวบุคคลไปแล้ว”
เปรียบ GOT มีตัวเอกหลายตัว
ในฐานะคนที่อยู่ข้างใน ยังรู้สึกว่าทุกคนยังมุ่งมั่นตั้งใจ ทีมกฎหมายก็ยังแข็งแกร่ง เมื่อก่อนอาจารย์ปิยบุตรเป็นตัวเอกที่เป็นคนถือธงนำ แต่เบื้องหลังมีความสำเร็จเป็นการช่วยกัน ทำงานเป็นทีมที่สูงมาก ไม่ได้เสียตรงนั้นไป
“เหมือน Game of Thrones ที่เสียแม่ทัพไปสักคน แต่หนังก็ยังดำเนินต่อไปได้ เพราะยังมีตัวเอก ตัวละครอยู่หลายตัว เรารู้ว่าในพรรคมีคนเก่ง คนมีความสามารถ”
เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด “ก้าวไกล” พิธา-หัวหน้าพรรค ดันบาดเจ็บ ต้องเข้ารับการผ่าตัด ผู้แสดงนำของก้าวไกล ต้อง “ยุติบทบาทชั่วคราว” สถานการณ์นี้เป็นการพิสูจน์ว่า ทุกคนสามารถทดแทนกันได้ เรายังเชื่อมั่นการทำงานเป็นทีม มากกว่าการมีตัวชูโรง ก้าวไกลทำงานเป็นทีมมากขึ้น จากคุณพิธาที่มีปัญหาสุขภาพ การเปิดให้เห็นภาพรวมของพรรคก้าวไกล แม้บอกไม่ได้ว่าได้คะแนนดีมาก แต่ก็ไม่สอบตก
“คุณพิธา 2 เดือนก็เจอกัน ซึ่งจริง ๆ เขาอยากมาทำกิจกรรมกับพรรค แต่ถ้ายังฝืนอาการอาจลุกลาม ให้เขารักษาหาย แล้วกลับมาทำงานอย่างเต็มที่ ดีกว่าทำวันหนึ่ง เจ็บวันหนึ่ง ไม่ดีกับตัวเขา”
กับบทบาท “คณะก้าวหน้า” ที่มี 3 ประสานแนวรุก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร-พรรณิการ์ วานิช” แกนนำอนาคตใหม่เดิม เป็นหัวหอกขับเคลื่อนกิจกรรมมวลชน ทำให้รัศมีไปบดบัง “ก้าวไกล” หรือไม่
วิโรจน์ สวนว่า “ตรงโน้นคือสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนเวทีสภาเป็นเหมือนสนามแอนฟิลด์ของทีมลิเวอร์พูล เมื่อสภายังปิดอยู่ เรายังไม่มีโอกาส ตอนนี้สภาเปิดแล้ว ก้าวไกลจะแสดงบทบาทให้เต็มที่”
ตั้ง กมธ. X-ray ใช้เงินกู้
โอกาสแรกในการประเดิมสนามของ ก้าวไกล “วิโรจน์” อภิปราย พ.ร.ก. 3 ฉบับ 1.9 ล้านล้าน แก้ไขสถานการณ์โควิด เริ่มต้นจากการเยียวยา “เราไม่ทิ้งกัน” เขาคิดค้นวลีเชิงเปรียบเทียบ “เราไม่ทิ้งกัน ส่วนพวกมันก็ให้ทิ้งไป-เอไอกำมะลอ”
แต่สิ่งที่กังวล คือ เม็ดเงิน 4 แสนล้าน จากยอดรวมเงินกู้ 1 ล้านล้าน ที่ใช้ฟื้นเศรษฐกิจ เขาบอกว่า แม้นายกรัฐมนนตรีอภิปราย แต่ยังไม่มีรายละเอียด กรอบการใช้จ่ายที่ชัดเจน ใช้งบฯไม่คุ้มค่า “ก้าวไกล” จึงขอใช้สิทธิ “ผู้แทนราษฎร” ชงตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ตรวจสอบการใช้เงิน-งบประมาณที่ใช้สู้กับไวรัสโควิดทั้งหมด
ดังนั้น การตั้ง กมธ.วิสามัญ ตามตรวจสอบกำกับการใช้งบประมาณ และมาตรการการควบคุมการระบาด และวิกฤตโควิด เป็นทางออกที่ดี เพราะ ส.ส. เป็นตัวแทนประชาชน ซึ่งเป็น ส.ส.ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงมีตัวแทนของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มาร่วม กมธ. การใช้จ่ายงบฯ จะมีความโปร่งใส ข้อสงสัยของประชาชนก็จะถูกติดตามตรวจสอบก่อนการใช้งบประมาณ
“มิติการตรวจสอบไม่ได้ติดตามคอร์รัปชั่นอย่างเดียว แต่มองถึงความจำเป็นในการใช้เงิน กระบวนการใช้งบฯ มีเส้นทางที่เวิ่นเว้อ พิสูจน์ความจนอีกหรือเปล่า ก้าวไกลธงชัดเจนมาก ท่าทีของรัฐบาลต่อการตั้ง กมธ.ชุดนี้สำคัญต่อการโหวตของเรามาก
“อยู่ดี ๆ ฉันจะกู้เงิน แต่ไม่ให้ตรวจสอบ เชื่อในความบริสุทธิ์ใจของฉันเถอะ ปัญหาก็เหมือนเดิม รัฐบาลพยายามทำอย่างนี้มาตลอด คือรับประกันตัวเอง แต่ที่สุดเป็นไง ไปตรวจแผงลอตเตอรี่ แล้วบอกว่าไม่มีขายเกินราคา ตรวจสถานบันเทิงก็ไม่พบการค้าประเวณีใด ๆ”
ถ้าเป็นรัฐบาล ยอมให้ตรวจสอบหลายครั้งที่ฝ่ายค้านเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญ แต่ถูกเสียงข้างมากฟากรัฐบาลลงมติคว่ำญัตติ เช่น ศึกษาผลกระทบรัฐประหาร มาครั้งนี้มั่นใจว่าจะฝ่าด่านเสียงข้างมากหรือไม่?
“ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก้าวไกลยินดี เพราะต้องการให้ประชาชนสบายใจว่าเงินที่เป็นภาระของพวกเขา เราดูแลและทำอย่างดีที่สุด รอบคอบที่สุด คิดถึงประชาชนที่สุด โปร่งใสที่สุด ตรวจสอบได้ที่สุด รัฐบาลควรจะทำอย่างนั้น”
“รัฐบาลจะกลัวอะไร เพราะมีเสียงของ ส.ส.พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล มีตัวแทนคณะรัฐมนตรีมาร่วมอีก เป็นเสียงข้างมากอยู่แล้ว ต่อให้มี กมธ.ชุดนี้ โหวตก็ชนะอยู่แล้ว เพียงแต่เอกสารทางราชการจะถูกดึงมาตรวจสอบมากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นการเมือง แต่เป็นเรื่องความจริงใจ”
“พรรคก้าวไกลไม่เคยตีรวน คนบอกว่าพรรคก้าวไกลเล่นการเมืองไม่เป็น ก็ยอมรับว่าเล่นการเมืองไม่เป็นจริง ๆ ตรงไปตรงมา ทำงาน ไม่ได้คิดเล่ห์สนกลใน ไม่ต้องกลัวเราเลย”
กันงบฯ 1 แสน ล.ช่วย SMEs
วิโรจน์-ก้าวไกล ชงไอเดียเพิ่มเติมต่อรัฐบาลว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำไม่ใช่แค่การเยียวยา เพราะการเยียวยาเป็นการคิดชั้นเดียว เยียวยาอย่างมากคือ 1-3 เดือน แต่สิ่งที่ทุกคนต้องการคืองาน เช่น เรามีเงิน แต่เราตกงาน คนรายล้อมเราทุกคนตกงาน เรากล้าใช้จ่ายไหม ดังนั้น สิ่งที่สำคัญมากกว่าการเยียวยา คือ การทำให้ประชาชนมั่นใจว่า เขาจะมีงานทำ และรัฐบาลปกป้องงานเขาอย่างสุดความสามารถ และพร้อมที่จะเอางบฯฟื้นฟู และสร้างงานใหม่ให้ประชาชนบางคนที่ต้องตกงาน
“รัฐบาลต้องตีโจทย์ให้ออกว่า คำว่างานคือศัตรูของรัฐบาลที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ ไม่ใช่รัฐบาลบอกว่า นายจ้างที่หยุดกิจการด้วยเหตุสุดวิสัย ลูกจ้างสามารถมารับเงินได้ที่ประกันสังคม อย่างนั้นเท่ากับจูงใจให้หยุดกิจการ”
ก้าวไกลเสนอว่า เราเยียวยานายจ้างถ้าไม่เลิกจ้าง ช่วยค่าจ้าง 50% วิธีการนี้ อังกฤษ สิงคโปร์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียก็ทำ แต่ประเทศไทยไม่ทำ แรงงาน 1.2 ล้านคน อาจมีผู้ประกอบการจริง ๆ แค่หลักหมื่น หลักแสนราย เช่น SMEs 1 ราย จ้างงาน 10 คน เท่ากับรัฐบาลทำรายการแค่ 1.2 แสนรายการ ดีกว่าปล่อยให้แรงงาน 1.2 ล้านราย มารุมอยู่ที่ประกันสังคม แทนที่รัฐจะอุดหนุนให้มีการจ้างงานแต่รัฐกลับอุดหนุนให้มีการเลิกจ้าง ซึ่งไม่ถูกต้อง
“ก้าวไกลพยายามผลักดันให้เกิด กมธ.วิสามัญให้ได้ สังเกตไหม ก้าวไกลไม่ฟุ้ง จี้จุดนี้อย่างเดียว นี่คือจุดตัดสินใจ ถ้ารัฐบาลไม่มีท่าทีที่จะทำให้เงินกู้ก้อนนี้มีความโปร่งใส เราก็พร้อมที่จะชัดเจนกับรัฐบาลเหมือนกัน พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เหมือนกัน”
รัฐการ์ดตกแก้เศรษฐกิจ
ธรรมชาติของการระบาดของโรค จะต้องมีระลอกที่ 2 และ 3 แล้วระลอกที่ 3 จะไม่เยียวยาประชาชน จะไม่สมทบการจ้างงานเลยหรือ ทุกวันนี้รัฐบาลบอกว่า การ์ดอย่าตก แต่มันผิดหลัก
“รัฐบาลการ์ดตกมาตรการเศรษฐกิจ ชุดความคิดของรัฐบาลมองความสำเร็จมิติเดียว คือ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้ได้ แต่จะแลกมาด้วยปัญหาปากท้องอย่างไร ไม่สนใจ ดูแค่มิติเดียว เหมือนกับเรียนหนังสือ ฉันจะเอาวิชานี้วิชาเดียว ที่เหลือยอมติด F ติด 0 โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องเป็นวิชาสำคัญ มันไม่ใช่แค่ 3 หน่วยกิต แต่เป็น 6 หน่วยกิตด้วยซ้ำหรือระดับ 24 หน่วยกิต เป็นวิทยานิพนธ์ ดังนั้น รัฐบาลต้องรีบอัดเงิน ช่วยเหลือ”
เศรษฐกิจเป็นพิษ ตายผ่อนส่ง
วิโรจน์ขมวดประเด็นปิดท้ายว่า “ก้าวไกล” ดูกราฟอัตราการดิ่งเหวของเศรษฐกิจพบว่า ขณะนี้กำลังการผลิตต่ำที่สุดในรอบ 100 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลงไประดับ 40 กว่า ๆ ตอบไม่ได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่ต่ำกว่านี้ลงไปถึงปี 2554 ก็ยังไม่มีต่ำกว่านี้
“ปัญหาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาช็อก แต่เศรษฐกิจกำลังถูกวางยาพิษ ตายผ่อนส่งไปเรื่อย ๆ ไม่เหมือนวิกฤตค่าเงินที่มันวูบ พอเศรษฐกิจดีก็วูบขึ้นมา แต่นี่พังที่ฐานราก หากปล่อยให้ SMEs ตาย มันยิ่งลำบาก ทุกวิกฤตมีคนรวยขึ้น นายทุนใหญ่ก็กว้านซื้อของถูก ทรัพย์สินต่าง ๆ ของ SMEs นายทุนใหญ่ยิ่งอยู่บนยอดพีระมิด ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น คือสิ่งที่ไม่อยากให้เกิด”
Nopadol I.A.M ตู้ที่พ่อมึงทำ ส่งให้ รพ หรือยัง หรือที่ทำคือโลงใส่พ่อมึง
01 มิ.ย. 2563 เวลา 00.17 น.
ปพิชญ์สราอ.เมือง(Jui) ยังไงก็มาจากพรรคส้มเน่าความคิดอคติติดมากับสายเลือดกับคนอื่นพรรคอื่นมองเขาเลวส่วนตัวเองพรรคตัวเองมองว่าดีถูกเสมอนอมินีำร้ความคิดของตัวเองอวดเก่ง ตรวจสอบก็ต้องโปร่งใสด้วยไม่ใช่ตรวจสอบเอาความสะใจหากเป็นเยี่ยงนั้นเจอปชช.แน่อยู่ดีไม่ชอบออกมาแสดงตนโตให้เขาเหยีบเหรอปท.ไทยเปิดเสรีใครใคร่ออกจากปท.ออกใครใคร่เปลี่ยนสัญชาติเปลี่ยน#เอาตามสบาย#รออยู่ดูว่าตัวไหนจะออกช่องแคบฮ่าาาา.@@นายกตู่อยู่ยาวววววไปปปปป@@รออยู่ตรงนี้ปชช.รักพปชร.และพรรคร่วมทุกๆท่าน
01 มิ.ย. 2563 เวลา 00.17 น.
ประสิทธิ์ ไอ้ก้าวตกเหวปากไร้สาระไม่มีหูรูดโควิด19 จัดให้หนัก
01 มิ.ย. 2563 เวลา 00.04 น.
กูณฑ ์เมฆะเทวะ เราเป็นนอมินี เราก็ต้องเต็มที่กับเจ้าของพรรคแหละครับ
31 พ.ค. 2563 เวลา 23.50 น.
Tiddy เก่งมาจากไหน
31 พ.ค. 2563 เวลา 23.48 น.
ดูทั้งหมด