เปิดใจแม่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าลูกสาววัย 28 ปี ขอความเป็นธรรม ระบุรู้ดีใครฆ่าแต่ไร้หลักฐาน แฉเหตุขัดขวางการซื้อขายที่ดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานในวันนี้ (3 มิ.ย.63) ถึงกรณี น.ส.ชลธิชา จินดาวงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 3 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ถูกคนร้ายใช้ไขควงแทงเสียชีวิตในบ้านเมื่อวันที่ 11 เม.ย.63 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นนายอนันต์ จินดาวงศ์ และนางประทีป จินดาวงศ์ พ่อกับแม่ของ น.ส.ชลธิชา แจ้งกับตำรวจว่าได้ออกไปกรีดยางพารา ส่วน น.ส.ชลธิชา อยู่บ้านตามลำพัง ถูกคนร้ายงัดประตูบ้านบุกเข้ามาฆ่าชิงทรัพย์นั้น
ล่าสุดหลังเกิดคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนเบื้องต้นและขอหมายจับกุมคนร้ายรายนี้ปรากฎว่าคือคือนางประทีป จินดาวงศ์ อายุ 54 ปี แม่บังเกิดเกล้าของ น.ส.ชลธิชา โดยที่พนักงานสอบสวน สภ.บางขัน ได้นำหลักฐานไปเสนอต่อศาลจังหวัดทุ่งสง เพื่อขอออกหมายจับนางประทีป ศาลได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 143/2563 ลงวันที่ 29 พ.ค.63 ออกหมายจับนางประทีป ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยวานนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าศาลได้อนุมัติหมายจับกุมแล้ว ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันและให้การปฏิเสธพร้อมกันได้ใช้หลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัววงเงิน 200,000 บาท ในชั้นพนักงานสอบสวนและได้ประกันตัวออกมา
โดยวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าติดตามกรณีดังกล่าวที่บ้านหลังเกิดเหตุปรากฎว่าพบนางประทีป อาศัยอยู่กับบุตรสาวคนสุดท้องอายุ 18 ปีที่มีอาการป่วยทางสมองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากนัก เมื่อรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวมาหานางประทีปมีอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัดและยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่าตนเองเลี้ยงลูกมา 3 คน คนที่เสียชีวิตอายุ 28 ปี เลี้ยงลูกมาโดยตลอดรู้หรือไม่ว่าแม้แต่หุงข้าวก็ไม่ต้องทำเอง ก่อนไปกรีดยางได้หุงข้าวไว้ให้ทุกวัน ไม่มีทางฆ่าเขาได้ หรือหากถ้าฆ่าจะฆ่าคนที่พิการทางสมองที่เลี้ยงมาถึง 18 ปีไม่ดีกว่าหรือแม้แต่อุจจาระปัสสาวะแม่ต้องเป็นคนล้างให้เพราะเขาทำเองไม่เป็น
นางประทีป ยังกล่าวอย่างเคืองแค้นว่ารู้ดีว่าใครเป็นคนฆ่าลูกสาวแต่ไม่มีหลักฐาน เหตุเกิดจากการซื้อขายที่ดินแปลงหนึ่งเป็นสวนปาล์มที่ไม่สามารถขายได้ แต่มีเครือญาติคนหนึ่งบีบบังคับให้ขายให้เขาในราคาถูก วันหนึ่งมีคนมาขอซื้อที่ดินแปลงนี้หลังจากตกลงขายปรากฏว่าเขาปิดทางไม่ให้ผ่านทำให้ต้องคืนเงินค่าที่ดินกลับไป และเมื่อขายคนอื่นอีกก็ถุกไปขัดขวางหาว่าข้ามหน้าข้ามตาไม่บอกญาติ ซึ่งมูลเหตุมาจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันนางประทีปยังกล่าวสาบานต่อหน้าผู้สื่อข่าวว่าหากเป็นคนฆ่าลูกขอให้เกิดเหตุตายตกไปตามกันใน 3 วัน 7 วัน พร้อมทั้งพนมมือสาบานต่อพ่อท่านไข่ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอำเภอบางขันเคารพนับถือ
ด้าน พ.ต.อ.สมพร พฤศวานิช ผกก.สภ.บางขัน ได้เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ในระหงว่างเดินทางไปประชุมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จังหวัดภูเก็ตว่าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนนางประทีปฯ พบว่ามีพิรุธหลายอย่าง ผิดกับวิสัยของแม่ที่ต้องสูญเสียลูก ควรติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง แต่เท่าที่ดูพฤติกรรมของครอบครัวนี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ลูกถูกฆ่าตาย ซึ่งแม้นางประทีปฯ จะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานต่างๆ ที่ชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีได้
“ข้อพิรุธที่เก็บหลักฐานชิ้นสำคัญได้คือไขควงที่ใช้ก่อเหตุเป็นของในบ้าน และร่องรอยงัดแงะก็งัดมาจากภายใน ไม่ได้งัดด้านนอก แล้ววางแผนว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนจะมีบุคคลอื่นร่วมหรือไม่นั้นยังต้องสอบสวนด้วย และสาเหตุที่ญาติใกล้ชิดเห็นตรงกับพนักงานสอบสวน พบว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินภายในครอบครัว ขั้นตอนต่อไปจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.สมพร กล่าว.
Saravud หลักฐานที่ ตร ว่ามาก็ไม่ชัดนะ
03 มิ.ย. 2563 เวลา 10.28 น.
ธนิษฐา ถ้ามันฆ่าเสร็จแล้วแกล้งงัดบ้านด้านในล่ะ
03 มิ.ย. 2563 เวลา 11.06 น.
Supot khongtong รอบทสรุปจบยังไง
03 มิ.ย. 2563 เวลา 10.25 น.
P’ BOb ตำรวจก็มั่วข่าวนี้ตรวจดีเอ็นเทีาไขควงรึยัง รอยนิ้วมือแฝง มิใช่คาดคะเนเอา
03 มิ.ย. 2563 เวลา 10.47 น.
ยุ่ที่พยานหลักฐานคับ รอยนิ้วมือแฝงต่างๆ
03 มิ.ย. 2563 เวลา 11.28 น.
ดูทั้งหมด