ทั่วไป

หนุ่มวัย 53 ตามหารักแท้ เปย์สาวจนหมดตัว สูญ 4 ล้าน หน้ายังไม่เคยเห็น

ไทยรัฐออนไลน์ - Social
อัพเดต 09 ก.ค. 2563 เวลา 14.07 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. 2563 เวลา 14.06 น.
ภาพไฮไลต์

หนุ่มวัย 53 ปี ตามหารักแท้ เข้าร้องทนายรณณรงค์ อ้างถูกสาววัย 32 ปี หลอกให้โอนเงิน 4 ล้าน ใน 2 ปี ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า อุตส่าห์เชื่อใจหลงเชื่อคำสัญญาสาวว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา

วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจ ทนายคู่ใจ ระบุข้อความว่า นายเอก (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ชาวสระบุรี เดินทางพร้อมน้องสาวและคุณแม่ เข้าร้องต่อ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ย่านแจ้งวัฒนะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้ นายเอก เปิดใจว่า ตนได้รู้จักกับ น้องแจง (นามสมติ) อายุ 32 ปี ผ่านเฟซบุ๊ก และคุยมาตลอด 2 ปี ขณะนั้นตนทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ด้วยความที่ตนเป็นพ่อม่าย ตามหารักแท้ จึงตกลงคบหากับแจง โดยที่ฝ่ายน้องแจงได้มีการเขียนหนังสือสัญญาว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา จึงทำให้หลงรักและเชื่อใจ อยากใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน รวมถึงอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ หลังจากที่เริ่มคบสักระยะก็มีเหตุการณ์ที่น้องแจงเอามากล่าวอ้างว่าพ่อเสียชีวิต ขอค่าทำศพ ไม่นานก็ส่งรูปงานศพแม่ ให้โอนค่าจัดงานศพให้อีก

จากนั้นน้องแจงก็อ้างอีกว่า จะเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โดยจะต้องใช้เงินประกันการทำงาน หลังจากนั้นอีก 4-5 เดือนก็บอกจะมาทำงานที่สุวรรณภูมิเพื่ออ้างขอเงินกับตนอีก รวมทั้งยังอ้างถึงที่ดินจังหวัดเชียงรายติดธนาคาร ธ.ก.ส. ขอเงินไถ่ถอนเพื่อเอาออกมาขาย และจะใช้หนี้ให้ทั้งหมด

แต่หลังจากโอนไปก็ยังอ้างต่อว่าติดปัญหาคนที่จะมาซื้อที่ดินผืนดังกล่าวไม่พอใจทางเข้าที่คับแคบ ถ้านายเอกโอนเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท ซื้อที่ข้างเคียงเพื่อเป็นทางเข้าจะสามารถขายได้และเอาเงินมาใช้หนี้ ตนจึงหลงเชื่อ และโอนให้เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ยังมีประเด็นที่น้องแจงบอกว่าโดนคดียักยอกทรัพย์ที่ถูกฟ้องจากไฟแนนซ์รถยนต์ ทำให้ต้องโอนเงินอีก 4.4 แสนบาท ด้วยความสงสารจึงโอนเงินให้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายเอก เปิดใจอีกว่า เงินนั้นเป็นเงินที่ได้จากการเออรี่จากบริษัทที่ตนทำงาน และส่วนหนึ่งก็เป็นการจำนำรถยนต์และจากบัตรเครดิต ปัจจุบันตนเหลือเงินติดตัวหลังเออรี่เพียงหมื่นกว่าบาท ซ้ำร้ายยังต้องเป็นหนี้อีกมากมายด้วยความหลงรักและอยากช่วยเหลือคนรัก ยิ่งไปกว่านั้นพักหลังมาเริ่มติดต่อน้องแจงยากขึ้น โดนบล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกเบอร์โทร เหลือเพียงไลน์ แต่ก็ไม่ค่อยตอบเหมือนก่อน โดยน้องแจงอ้างว่าทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โทรศัพท์พังต้องยืมโทรศัพท์ของเพื่อนเพื่อติดต่อกับตน

แต่สืบทราบมาว่าน้องแจงมีผู้ชายคนใหม่แล้ว ตนจึงเริ่มหมดความเชื่อใจ และได้ปรึกษากับครอบครัวได้รับคำแนะนำไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา และที่เดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ วันนี้ต้องการสอบถามประเด็นที่สามาถดำเนินการทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้

ด้านทนายรณณรงค์ เเก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบหลักฐานที่คุยเพิ่มเติมว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หรือเป็นการให้โดยเสน่ห์หา แต่เบื้องต้นมีการแจ้งความในพื้นที่ไว้เเล้วต้องตามต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร ยอมรับว่าไม่เคยเจอการโอนเงินให้อีกฝ่ายเป็นจำนวนเงินมากขนาดนี้ทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มีเพียงการคุยผ่านเฟซบุ๊ก ผ่านไลน์ ไม่เคยแม้แต่วิดีโอคอลหากัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะหาคู่ผ่านสื่อออนไลน์ให้พิจารณามากๆ และควรที่จะเจอตัวจริงกันก่อน หรืออาจจะลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสักระยะก่อนจะเชื่อใจและโอนเงินให้จากหลายๆ กรณี.

(ดูคลิป คลิกที่นี่)

ข้อมูลจาก แฟนเพจ ทนายคู่ใจ

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 52
  • นายธำมรงค์ แขวงเพ็ชร
    ขอบคุณข้อมูลครับบางครั้งผมไม่มีเวลาแต่บางครั้ง มีโอกาศได้อ่านททันข่าวครับขอบคุณครับผม
    09 ก.ค. 2563 เวลา 21.00 น.
  • Sirot
    โง่ดีจริง55555
    09 ก.ค. 2563 เวลา 17.17 น.
  • ทำไงอ่ะถึงได้ เปิดสอนป้าที5555
    09 ก.ค. 2563 เวลา 17.15 น.
  • หน้าไม่เคยเห็น..แล้วรักเค้าจากตรงไหน ไอ้นี้ท่าจะจิตหลอนน พิกลคน...
    09 ก.ค. 2563 เวลา 17.10 น.
  • Pat L.
    “ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่มีอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว” ก็ต้องถือว่ากรรมเก่าที่ผูกพันกันมา ต้องชดใช้ให้เขา ไม่ใช่เจ้าตัวจะไม่รู้หรอก บางทีอาจเหมือนน้ำท่วมปากก็ได้... ขอให้ถือว่าใช้กรรมให้เขาแล้ว เสียเงินมากขนาดนี้ และต้องลำบากอีกเยอะ ต่อไปชีวิตก็จะดีขึ้นแล้วค่ะ
    09 ก.ค. 2563 เวลา 17.04 น.
ดูทั้งหมด