ทั่วไป

​"สหรัฐอเมริกา" เชนดัง ’พิซซาฮัท-เวนดีส์’ ‘ ยื่นขอล้มละลาย’ เซ่นพิษโควิด-19

สวพ.FM91
อัพเดต 07 ก.ค. 2563 เวลา 03.37 น. • เผยแพร่ 05 ก.ค. 2563 เวลา 00.24 น.

พิซซาฮัท และเวนดีส์ เป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ของอเมริการายล่าสุด ที่ทนพิษ “โควิด-19” ไม่ไหว ต้องยื่นขอล้มละลายเพื่อพิทักษ์ทรัพย์ และทำให้คนงานเกือบ 40,000 ใน 27 รัฐ อยู่ในสภาพเสี่ยงตกงาน
เอ็นพีซี อินเตอร์เนชันแนล ผู้บริหารร้านพิซซาฮัท กว่า 1,200 สาขา (จากทั้งหมดประมาณ 7,100 สาขา) กับ ภัตตาคาร เวนดีส์ อีกเกือบ 400 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา ยื่นขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม หลังต้องแบกภาระหนี้เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางต้นทุนอาหารและการว่าจ้างแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะประสบปัญหาซ้ำซ้อนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้แฟรนไชส์ ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทอย่าง พิซซาฮัท ต้องปิดร้านชั่วคราว และยอดขายลดลงอย่างมาก
ทั้งนี้ เอ็นพีซี มีพนักงานในส่วนของเชนร้านอาหารทั้งสองแห่งรวมกันเกือบ 40,000 คนใน 27 รัฐ 
ซีอีโอ ของ เอ็นพีซี ระบุว่า การยื่นขอความคุ้มครองครั้งนี้เพื่อประเมินและปรับปรุงพอร์ทโฟลิโอด้านภัตตาคารของบริษัทให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อให้อยู่ในสถานะที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งประเทศได้ และว่าเอ็นพีซี จะยังคงดำเนินกิจการของทั้งพิซซาฮัทและเวนดีส์ ต่อไปขณะที่ทำตามกระบวนการในมาตรา 11 
ข่าวบอกว่า ยอดขายของ พิซซาฮัท ทุกสาขาทั่วประเทศ เริ่มกระเตื้องขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคม แต่ก็เกิดการระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก จนทำให้ยอดขายลดลงอีกครั้ง
เอ็นพีซีเป็นบริษัทอเมริกันล่าสุดที่ยื่นขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลายเพราะวิกฤตโควิด หลังจากที่มีบริษัท “บิ๊กเนม” ของอเมริกาจำนวนมากยื่นขอความคุ้มครองไปก่อนแล้ว เช่น จีเอ็นซี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของร้านพิซซ่าขวัญใจเด็กๆ อย่าง Chuck E. Cheese’s, 24 อาวร์ฟิตเนส, นีแมน มาร์คัส, เจ. ครูว์, เจ.ซี.เพ็นนี, บริษัทรถเช่า เฮิร์ซ เป็นต้น.
ข่าวบอกว่าวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้การยื่นขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายในอเมริกา ตลอดช่วงห้าเดือนแรกของปี 2020 เพิ่มขึ้นถึง 48 เปอร์เซ็นต์ในเมื่อเทียบกับปี 2019 โดยเฉพาะช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการยื่นเรื่องขอล้มละลายต่อศาลมากถึง 165 คดี ถือว่าเพิ่มถึง 30 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว 
เชนร้านอาหาร  เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ในสหรัฐฯ รุนแรงที่สุด โดยสมาคมร้านอาหารแห่งชาติ (the National Restaurant Association) ประเมินว่าจะเกิดความสูญเสียในอุตสาหกรรมร้านอาหารตลอดปี 2020 มากกว่า 240 พันล้านดอลลาร์ เพราะการห้ามให้บริการแบบ ไดน์-อิน หรือการลดจำนวนที่นั่งในร้าน เพื่อปฏิบัติตามระเบียบเรื่องการเว้นระยะห่าง อาจส่งผลให้ร้านอาหารส่วนมากขาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์.
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก siamtownus

ดูข่าวต้นฉบับ

ดูบทความอื่นๆ จาก สวพ.FM91

หน้าหลัก
สวพ.FM91
ความเห็น 8
  • P’ BOb
    ไม่มีดราม่าล้มเพราะวิกฤติทั่วโลก
    05 ก.ค. 2563 เวลา 01.57 น.
  • ลุง
    แค่คนมีคน ฆ่าตัว มีรูปนายกอยู่ใกล้ มันยังเกาะโลงด่าคนอื่น เหมือน เห็บหมา ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดที่ไทยรับรอง เห็บหมา พวกนั้นจะรุมรัฐบาลทันที..
    05 ก.ค. 2563 เวลา 03.26 น.
  • ลุง
    ถ้าเป็นประเทศไทย ข่าวแบบนี้จะมีนัก ประชาธิปไตยทั้งหลายก้อจะออกมาพูดว่ า รัฐบาล บริหารไม่เป็น เพราะมาจากเพด็จการสื่อบางสำนักก็จะประโคมข่าวกันน่าดู เพราะรักปชต5556
    05 ก.ค. 2563 เวลา 03.22 น.
  • Note
    ไอ้ทรัมป์มันโง่ หาเงินไม่เป็น เอาแต่กู้ๆๆ แล้วก็แจกๆๆ กิจการก็ปิด ยอดคนตกงานก็สูงเป็นประวัติกาล 555
    05 ก.ค. 2563 เวลา 02.07 น.
  • Aree
    เสียดายมากๆพิซซ่าฮัท ท่องเที่ยวอเมริกาบ่อย ชอบทานพิซซ่าฮัทอร่อยดี ... ทรัมป์ ทำไมช่วยไม่ใด้วะ หรือไม่ชอบกินพิซซ่าวะ เอาตัวรอดเปนยอดดีจัง
    05 ก.ค. 2563 เวลา 02.44 น.
ดูทั้งหมด