ทั่วไป

สู้ไม่ไหว แม่ยอมให้ลูกสาวลาออก หลังร้องเรียนถูกครูหั่นผม แต่กลับโดนโจมตีหนัก

TNews
อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 09.44 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. 2563 เวลา 07.25 น. • Tnews
สู้ไม่ไหว แม่ยอมให้ลูกสาวลาออก หลังร้องเรียนถูกครูหั่นผม แต่กลับโดนโจมตีหนัก

จากกรณีที่คุณแม่รายหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยเรื่องราวของลูกสาวถูกครูในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอ.ยางชุมน้อย หั่นผม เพราะเห็นว่าทรงผมของลูกสาว ไว้ยาวเกินคาง ผิดกฎระเบียบของทางโรงเรียน ทั้งที่ไม่เคยตักเตือน หรือพูดคุยก่อน จนเป็นเหตุให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ออกไปเป็นจำนวนมาก

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นใจในความเป็นแม่ และโจมตีในความที่ไม่ปฎิบัติตามกฎกติกาของโรงเรียน โดยเฉพาะนักเรียนในโรงเรียน ทั้งครูบางคน ก็มาโพสต์ด่าทุกวัน อันที่จริงไม่ใช่แค่ลูกสาวตนที่ผมยาว มีนักเรียนอีกหลายคนที่ไว้ผมยาวมาโรงเรียน และโพสต์มาเยาะเย้ยลูกสาวตนในมือถือก็มี หลังลูกตนถูกตัดผม หากปล่อยให้ลูกไปโรงเรียนอีกในวันพรุ่งนี้ ลูกสาวตนคงโดนยำใหญ่แน่นอน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทางที่ดีให้ลูกตนลาออกเลยดีกว่า และไม่ขอคุยตามที่นัดหมายแล้ว ยกเลิกไปเลย เพราะตนเชื่อว่า หากลูกตนขอลาออกจากโรงเรียนนี้แล้ว ทุกอย่างน่าจะจบลง ส่วนตนกับลูกจะไปหาโรงเรียนใหม่เรียนได้หรือไม่ก็ช่างมัน โดยได้โทรศัพท์ขอลาออกให้ลูกกับ ผอ.โรงเรียนดังกล่าวแล้ว ด้าน น.ส.จตุพร แม่ของลูกสาวที่ถูกครูฝ่ายปกครองจับตัดผม กล่าวว่า นับตั้งแต่ตนเห็นลูกสาวตนถูกครูจับแหกผมแบบน่าเกลียด กลับมาบ้านตนใจหาย พยายามที่จะโทรศัพท์กลับไปหาคุณครูฝ่ายปกครอง แต่ไม่มีใครรับสายตนเลย
 

สอบถามลูกก็บอกว่า ครูมาแหกผมตอนอยู่หน้าเสาธง ขณะกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ ซึ่งแหกผมลูกตน กับเพื่อนลูกสาวไปด้วย 3 คน ขณะเดียวกันนักเรียนอีกหลายห้อง ที่ไม่ได้ตัดผมมาโรงเรียน ผมยาวกว่าลูกตนเสียอีก ยืนเข้าแถวด้วยกันไม่ตัด เหมือนจงใจมาตัดลูกตนกับกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นมีเพื่อนครูโทรมาให้ตนลบโพสต์ตนก็ลบ แต่เรื่องก็ไม่จบ เอาจริงๆ เมื่อก่อนตั้งแต่ลูกตนเรียน ม.1 ถึง ม.2 ลูกตนไว้ผมยาวครึ่งหลัง และได้รวมผูกโบมัดเรียบร้อย แต่พอมาขึ้น ม3 ครูแนะนำให้ตัดผม ลูกตนก็ตัดเสมอคาง แล้วไปโรงเรียนกลับโดนจับตัดจับแหกแบบนี้ รับไม่ได้จริงๆ

 

 

และวันนี้ตัดสินใจแล้ว ให้ลูกลาออก เพราะครูไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้ลูกตนได้ หากไปโรงเรียนต่อ อาจจะถูกบูลลี่ได้ ซึ่งน่าจะอันตรายต่อลูกตนมากกว่าให้หยุดเรียน ลาออก ส่วนเรื่องที่นัดหมายที่จะพบปะพูดคุยกันระหว่างครูฝ่ายปกครอง ผอ.โรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษานั้น ตนขอเลื่อนหรือยกเลิกไปเลยก็ได้ เพราะตนให้ลูกลาออกแล้วก็น่าจะจบ 

 

ขณะเดียวกัน น้องเอ (นามสมมติ) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีเรื่องยอมรับคิดมาก บางคืนนอนไม่หลับ และไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนเก่าต่อไปอีกแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่จะให้ลาออกไปเรียนต่อที่ไหน เพราะตนเองก็ต้องการที่จะเรียนต่อให้จบ อย่างน้อยก็ปริญญาตรี ในช่วงหยุดเรียนปิดเทอม หยุดเสาร์ - อาทิตย์ ตนก็ไม่ได้ไปเที่ยวเตรที่ไหน มาช่วยแม่ขายอาหารที่แพปลาตลอด ไม่เคยเกเร ครูให้ตัดผม ตนก็ตัด จากเมื่อก่อนที่เคยไว้ยาวถึงครึ่งหลัง วันนี้เชื่อแม่ แม่ให้ลาออกก็ออก เพื่อให้ทุกอย่างจบ
 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 110
  • Lone-Wolf
    จริงอยู่ทรงผมไม่มีส่วนกับการเรียนแต่ทรงผมมันเป็นการยอมรับในกฏระเบียบยอมรับเพืีอจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันผมสั้นมันรักษาง่ายเห็บเหามันจะได้ไม่ขึ้นนักเรียนชายก็จะได้มีระเบียบขึ้นผมสั่นมันไม่ตายหรอกไม่งั่นทหารตำรวจหรือพระคงตายหมดโลกแล้ว ต้องรู้จักการยอมรับกฏการอยู่ร่วมในสังคมเรียนจบแล่วค่อยไว้ยาวคงไม่ตายหรอกหนา
    08 ก.ค. 2563 เวลา 22.56 น.
  • Prapant w.
    เมื่อแม่ให้ท้าย กฏกติกาก็หายไปจากสมอง
    08 ก.ค. 2563 เวลา 22.26 น.
  • ก็ไปโพสต์เล่นงานครูเขาก่อน ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี คิดแต่ว่า กูถูก สังคมเลยตีกลับ ก็ต้องยอมรับไป...!!!
    08 ก.ค. 2563 เวลา 22.39 น.
  • เรื่องตัดผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วเวลาเรียนทำไมไม่เป็นเรื่องใหญ่บ้างละครับ. ติด0ติดร. สอบไม่ผ่านเรียนซ่ำชั้นเหมือนสมัยโบราณเอาไหมครับ. เอาสมองสำคัญกว่าทรงผมน่าจะดีที่สุดนะผมว่า. ถ้าเรียนดีแล้วจะเอาผมยาวลากดินเลยผมก็ไม่ว่าดอกครับ
    08 ก.ค. 2563 เวลา 22.16 น.
  • wut
    มันน่าเกลียดตรงไหน ไม่ทราบ สมอง ติดบ้าอำนาจมากกว่า
    08 ก.ค. 2563 เวลา 22.24 น.
ดูทั้งหมด