'ผอ.กอล์ฟ' พลิกลิ้นกลับคำให้การ เผยหนี้ท่วมหัว-ซื้อรถเถื่อน ชนวนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. ร่วมกับ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ควบคุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี ไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญา

จากนั้น พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. กล่าวว่า ชุดจับกุมได้เตรียมการร่วมกับชุดสืบสวนล่วงหน้า พร้อมตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาในคดีนี้ให้ได้มากที่สุด รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนร้ายเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานจนเสร็จสิ้นไปแล้ว 15 ปาก ส่วนที่เหลือก็น่าจะเสร็จในไม่ช้า และจะสามารถสรุปสำนวน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งอัยการได้ทัน เบ็ดเสร็จไม่เกิน 15 วัน เพราะรูปคดีค่อนข้างจะสมบูรณ์ชัดเจนแล้ว ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำชี้จุดทิ้งของกลางถูกต้อง เหลือเพียงแม็กกาซีนบรรจุกระสุน และลำกล้องเก็บเสียง หรือไซเลนเซอร์ ที่กำลังตามหากันอยู่

สำหรับจูงใจการก่อเหตุนั้นนายประสิทธิชัยให้การอ้างว่า ทำลงไปเพราะต้องการมีสีสันในชีวิต แต่เมื่อพนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างหนัก สุดท้ายผู้ต้องหาก็กลับคำให้การยอมรับว่า ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาเรื่องการเงิน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบข้อมูล จนพบว่านายประสิทธิชัยมีหนี้เงินกู้จากสหกรณ์ครู และธนาคารกรุงไทย กว่า 2 ล้านบาท และก่อนหน้านี้ นายประสิทธิชัยได้นำเงินสดประมาณ 3 แสนบาท ไปซื้อรถยนต์หรู บีเอ็มดับบลิว เอฟ4 แต่รถคันดังกล่าวเป็นรถเถื่อนที่เจ้าตัวซื้อมาสวมทะเบียน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจับกุม ทำให้นายประสิทธิชัยต้องเสียค่าปรับเป็นเงินถึง 6 แสนบาท

อีกทั้งนายประสิทธิชัยยังเป็นคนที่ชอบใช้จ่ายเกินตัว ชอบใช้สินค้าราคาแพงซึ่งไม่ตรงกับอัตราเงินเดือนของตัวเอง เดือนละสามหมื่นกว่าบาท และหลังจากถูกหักเงินที่ไปกู้มาแล้ว ก็จะเหลือใช้เพียงแค่เดือนละ 5 พันบาทเท่านั้น ทำให้ที่นายประสิทธิชัยประสบปัญหาการเงินมาตลอด บางครั้งต้องยืมเงินจากที่บ้าน จึงพอจะสันนิษฐานได้ว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้นายประสิทธิชัยตัดสินใจลงมือก่อเหตุ