ทั่วไป

ไฟไหม้ฟอร์จูน ไร้บาดเจ็บ-เสียชีวิต จนท.เร่งหาสาเหตุ คาดต้นเพลิงจากปล่องระบายอากาศ

MATICHON ONLINE
อัพเดต 19 ม.ค. 2563 เวลา 10.44 น. • เผยแพร่ 19 ม.ค. 2563 เวลา 10.35 น.

ไฟไหม้ฟอร์จูน ไร้บาดเจ็บ-เสียชีวิต จนท.เร่งหาสาเหตุ เผยต้นเพลิงเกิดจากปล่องระบายอากาศ

เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านพระราม 9 ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ห้วยขวาง เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ภายในอาคาร ฟอร์จูนทาวน์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขต ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลง รถดับเพลิง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกันควบคุมเพลิงไหม้ พร้อมทั้ง อาสาสมัครกู้ภัย และ หน่วยกู้ชีพ คอยให้การช่วยเหลือปฐมพยาลผู้ได้รับบาดเจ็บ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในเบื้องต้น ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้เพลิงสงบแล้ว มีเพียงกลุ่มควันฟุ้งกระจายในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในอาคารบริเวณที่เกิดเหตุและเร่งระบายควัน โดยขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินรถในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุดังกล่าว

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง จะสามารถเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ภายหลังจากเพลิงสงบลงและอุณหภูมิภายในที่เกิดเหตุลงลด เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ตลอดจนพิสูจน์ทราบ ต้นเพลิงว่าเกิดจากที่ใดและกลุ่มควันที่เกิดจากเพลิงไหม้นี้เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเหตุต้นเพลิงน่าจะมาจากบริเวณปล่องระบายอากาศ ภายในบริเวณห้างฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งยังคงต้องรอการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ต่อไป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการเร่งอพยพ ช่วยเหลือ ประชาชน ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุโดยเร็ว ด้วยความปลอดภัย ประกอบกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกการจราจร โดยรอบ ให้เกิดการปัญหาจราจรติดขัดน้อยที่สุด ให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมสั่งการอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ระทึก! เพลิงไหม้ห้างฟอร์จูน ควันพวยพุ่งทั่วบริเวณ เร่งอพยพคนออกจากตึก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ดูข่าวต้นฉบับ