ส.ต.ท. เขียนใบสั่ง “หนิง ปณิตา” เปิดใจ ไม่โกรธ เป็นตำรวจต้องอดทน

จากกรณี หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดาราสาว ได้โพสต์ภาพและข้อความต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจอพฤติกรรมคล้ายกับเจ้าหน้าที่จะเรียกรับเงินจากตัวเอง โดยไม่ออกใบสั่ง พร้อมแคปชั่นยาวฉะเดือดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งภายหลังทางเฟซบุ๊กศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02 ได้ชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการออกใบสั่งให้กับนักแสดงสาว แต่เมื่อไปตรวจสอบฐานข้อมูลเลขทะเบียนรถ กลับพบว่าไม่ตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ จึงคาดว่าน่าจะเป็นการนำรถหรูเป็นรถที่ไม่ได้จดทะเบียน มาขับขี่ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ต.ค. 62 ที่สถานีตำรวจนครบาลวิภาวดี ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก ผู้บังคับหมู่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาดีฯ - รังสิต กก.2 บก.จร. เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากเกิดเหตุการณ์ว่า “ในวันเกิดเหตุตนเห็นรถคันดังกล่าวขับเลี้ยวเข้ามาผิดเลนแล้วกำลังจะหักออก

“ตนจึงได้มีการเรียกรถให้จอด เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที ตนถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าไปเซ็นทรัล ตนจึงขอดูใบขับขี่ แต่เขายื่นบัตรประชาชนมาให้ แล้วบอกว่าเขียนใบขับสั่งเลย ตนก็เขียนไป มาหยุดอยู่ที่ยี่ห้อรถ เนื่องจากตนไม่รู้จัก

“ตนก็เดินมองดูรอบรถ เห็นด้านหลังเป็นตัวภาษาอังกฤษ ตนจึงเดินมาดูที่พวงมาลัย เขาบอกว่าเป็นยี่ห้อรถมาเซราติ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าสะกดยังไง จึงเดินวนไปดูที่แผ่นป้ายภาษี แล้วก็เขียนตาม

“ตอนนั้นป้ายภาษีเลขทะเบียนตรงกัน แต่ว่าป้ายภาษีมันหมดอายุ และพอเขียนใบสั่งเสร็จแล้ว จึงมาคีย์ใบสั่งเข้าระบบในมือถือด้วยตนเอง มันขึ้นมาเป็นรถ BMW”

ส.ต.ท.ธีรพงษ์ กล่าวอีกว่า “ในตอนที่เกิดเรื่อง ตนไม่ทราบเลยว่ากำลังคุยกับคุณหนิง เพราะเขาเปิดกระจกแล้วนั่งอยู่ในรถตลอด และเหตุการณ์มันเกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที คุณหนิงพูดกับตนสุภาพ ไม่ได้มีอารมณ์หงุดหงิด ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนไม่ได้รับสายจากคุณหนิง หรือว่าครอบครัวเลย

“หากถามว่าอยากได้รับคำขอโทษหรือไม่นั้น ไม่เป็นไร ผมไม่โกรธเลย ให้อภัยทุกคน ไม่ได้ติดใจอะไร ยืนยันว่าที่เดินวนรถนั้น ไม่ได้ต้องการเงิน ไม่มีใครจะเอาเงินเลย ตนไม่รู้ยี่ห้อจริงๆ เพราะถ้าสมมติตนกรอกตัวเลขผิด ก็อาจจะทำให้กลายเป็นรถของคนอื่นได้ ส่งผลให้คนอื่นเดือดร้อน”

สุดท้ายนี้ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ได้กล่าวว่า ไม่อยากให้ไปว่าคุณหนิง เพราะในตอนนั้นอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกัน คุณหนิงอาจจะไม่รู้ในช่วงเวลานั้น และที่ผ่านมาอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบที่เขาคิดก็ได้ ผมไม่โกรธเลย เพราะผมไม่ได้จะเอาเงินเขา เป็นตำรวจก็ต้องอดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก” ส.ต.ท.ธีรพงษ์ กล่าว