เมื่อเวลา 21.16 น. วันที่ 18 ต.ค. นายทิม พิธา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายในเรื่องงบประมาณการบริหารจัดการน้ำ ว่า งบกลางแสนล้านที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน นี่คือเหตุผลที่ไม่รับหลักการใน 3 เหตุผล คือ 1.ต้องใช้เวลา 100 กว่าปี รัฐจึงสามารถบริหารจัดการน้ำได้ เพียงพอต่อความต้องการของประเทศอย่างเท่าเทียม 2.ในสภาวะปกติ-งบประมาณน้ำสะท้อนความเป็นรัฐราชการรวมศูนย์ขาดการกระจายอำนาจ และ 3.ในภาวะวิกฤติ-งบประมาณเน้นการเยียวยามากกว่าการเตรียมพร้อมและเตือนภัยก่อนวิกฤติ
ต่อมาเวลา 21.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า ปัญหาการบริหารจัดการน้ำขณะนี้คือฝนตกเพียงพอ แต่มีปัญหากักเก็บน้ำ และการพร่องน้ำเวลาน้ำท่วม แต่ที่ผ่านมาก็พยายามแก้ปัญหาเหล่านี้เต็มที่ เรื่องการกักเก็บน้ำ แต่บางทีก็ติดปัญหาที่ดินของประชาชน ส่วนงบกลางที่จะให้เอามาเยียวยาเรื่องปัญหาน้ำนั้น คงไม่ใช่เอามาใช้เยียวยาอย่างเดียว แต่ต้องไว้ใช้ในเรื่องอื่นๆด้วย ซึ่งแผนงานบริหารจัดการน้ำต้องทำเป็นขั้นๆ ไม่สามารถทำพร้อมกันทั้งหมด เพราะไม่มีเงิน ยืนยันไม่ทอดทิ้งเกษตรกร อย่าเอาหลักการวิชาการเพียงอย่างเดียวมาแก้ปัญหา แต่ต้องเอาความเป็นพฤติกรรมมาจับด้วย จึงจะเป็นการบูรณาการแก้ปัญหา ถ้าคิดกันคนละอย่างสองอย่างก็ไปไม่ได้ ตนไม่ทิ้งใครทั้งสิ้น ต้องลากกันไปอย่างนี้
Saovanit Paerojana เป็นหนึ่งใน 70 คนหรือเปล่าพิธา
18 ต.ค. 2562 เวลา 17.43 น.
นายสุขใจ แบบเบลอเบลอ ไม่ตอบโจทย์ บริหารจัดการน้ำ?
งั้นต้องให้ ยิ่งลักษณ์ นักโทษหนีคดีมาตอบละ :)
18 ต.ค. 2562 เวลา 18.18 น.
👑 P o n z i o 👑 ฝนตกทีก้อระบายทิ้งที เมื่อไหร่จะเต็ม หัดเก็บไว้บ้าง
18 ต.ค. 2562 เวลา 17.53 น.
@mnatton งานแต่ละโครงการ ต้องมีการเสนอแผนขึ้นมาจากท้องถิ่น จากความต้องการในพื้นที่ จากหน่วยที่จะใช้ประโยชน์และรับผิดชอบหรือป่าว ไม่ใช่อยู่ๆ ส่วนกลางจะไปกำหนดนู่นนี่ให้ เท่าที่ทราบมันเป็นอย่างนั้นนะ เมื่อมีการเสนอขึ้นมาแล้ว ข้างบนเห็นชอบก็ใส่งบประมาณให้ ดังนั้น ปชช.ในพื้นที่หรือท้องถิ่นจึงมีส่วนร่วม แต่จะเพียงพอหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนการดำเนินโครงการ หน่วยงานของรัฐสามารถจัดหาพัสดุให้หน่วยงานของรฐอื่นได้ ดังนั้นต้องดูว่าใครคือผู้ได้ใช้ประโยชน์จากโครงการ ไม่ใช่ดูว่าหน่วยใดถืองบประมาณ
19 ต.ค. 2562 เวลา 03.25 น.
ดูทั้งหมด