โหนกระแสวันนี้ (21 ส.ค.) เป็นเรื่องราวของคดีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา-ลุงจรูญ” ที่ใกล้จบ ล่าสุด “ทนายตั้ม” ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยเรื่องที่ทำเอาฮือฮาทั้งประเทศอีกครั้ง ระบุครูปรีชาสารภาพคลิปคนก้มเก็บหวยไม่มีอยู่จริง พร้อมแฮชแท็กปิดเกม คดีหวย 30 ล้าน ล่าสุด “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ทนายตั้ม ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
คุณโพสต์เฟซบุ๊ก ปรีชาสารภาพ คลิปก้มเก็บหวยไม่ใช่ลุงจรูญ แฮชแท็กปิดเกมปรีชา หวย 30ล้าน?
ทนายตั้ม : “ต้องบอกก่อนว่าข้อความนี้ ผมโพสต์ก่อนที่จะมีข้อกำหนดของศาลในตอนบ่าย ก็เป็นข้อความที่ผมโพสต์แล้วนั่นแหละ ส่วนเรื่องจริงเป็นยังไง ก็ย้อนไปอ่านสิ่งที่ผมโพสต์ดีกว่าเพราะผมไม่ใช่คนโกหกอยู่แล้ว”
สรุปแล้วคลิปวีดีโอที่บอกว่าเห็นลุงจรูญก็ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล?
ทนายตั้ม : “ตอนนี้ยังไม่มีเลยครับ ไม่ได้เข้าสู่พนักงานสอบสวน ในชั้นศาลผมก็ไม่เห็น”
เป็นไปได้มั้ย ไม่ได้อยู่ในชั้นนี้ อาจเจอนัดหน้า?
ทนายตั้ม : “เป็นไปได้ว่าเขาอาจเอาพยานคนอื่นนำคลิปเข้าไปก็ได้ แต่ว่าโดยหลักแล้วตัวโจทก์ครูปรีชาเป็นตัวหลัก เขาน่าจะเอาเข้าตอนครูปรีชาแล้วแต่ก็ไม่ได้มีบทกฎหมายห้ามเอาเข้าตอนพยานคนอื่น แต่พยานคนอื่นก็ต้องยืนยันว่าตัวเองเอาคลิปมาได้ยังไง แล้วต้องยืนยันด้วยว่าเป็นใครในคลิป ใช่ลุงจรูญหรือเปล่า”
ตอนนี้สิ่งที่เกิดเป็นเรื่องการไต่สวนมูลฟ้อง ถ้าเรื่องนี้คดีมีมูล ตอนนี้ครูปรีชาฟ้องหมวดจรูญยักยอก ถ้ามีมูลกระบวนต่างๆ เข้าสู่ชั้นพิจารณาก็จะไปนำสืบกัน แต่ถ้าเกิดว่าไต่สวนมูลฟ้องไม่มีมูลก็จบเลย
ทนายตั้ม : “เขามีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ แต่ถ้าศาลอุทธรณ์มีความเห็นว่าไม่มีมูลเหมือนศาลชั้นต้น ก็คือจบ ไม่มีสิทธิ์ฎีกาได้แล้ว ถ้าเขาจะเอาไปใช้ในชั้นพิจารณาถ้าเกิดไม่ได้ใช้ล่ะ ถ้ามีก็ควรต้องเอาเข้ามาตั้งแต่แรก”
เป็นสิทธิ์ของเขาได้มั้ย ว่าเขาเอาคลิปนี้เข้าไป?
ทนายตั้ม : “มีสิทธิ์ครับ ผมก็รอดูอยู่ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เชื่อว่ามีคลิปจริง และถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็น”
เงาตะคุ่มๆ คืออะไร?
ทนายตั้ม : “อันนี้เป็นเรื่องในชั้นพิจารณาเบิกความ ผมไม่สามารถพูดได้ เดี๋ยวโดนละเมิดอำนาจศาล เพราะศาลบอกว่าห้ามเอาเรื่องในห้องพิจารณา หลักฐานต่างๆ เอามาโพสต์ในโซเชียลและในสื่อออนไลน์”
ทนายฝั่งเขา ทนายวรยุทธ์ มีการนำโพสต์ทนายตั้มยื่นต่อศาลช่วงบ่ายวันนั้นเลย?
ทนายตั้ม : “จริงๆ เขาตะแง๊วๆ ตั้งแต่เช้าอยากให้ศาลสั่งห้ามผมโน่นนี่ แต่พอดีมีโพสต์นั้นขึ้นมาและมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ศาลเลยบอกว่างั้นไม่ไหวนะ เพิ่งคุยกันไปเมื่อเช้าทนายตั้มไปโพสต์อีกแล้ว ท่านเลยวางข้อกำหนดเลย ผมก็โอเค น้อมรับท่าน”
นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าจะโพสต์ครั้งสุดท้าย?
ทนายตั้ม : “ผมไม่พูดเรื่องห้องพิจารณา แต่ว่าเรื่องข้อกฎหมายท่านไม่ได้ห้ามอยู่แล้ว มันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล”
ฝั่งโน้นบอกว่าไปโพสต์อย่างนั้นโจมตีเขา เขาไม่ได้รับสารภาพซะหน่อย เขาเป็นโจทก์ไม่ใช่จำเลย?
ทนายตั้ม : “อันนี้เป็นการเล่นคำ คำว่าสารภาพไม่ได้หมายถึงว่าตัวโจทก์จำเลยรับสารภาพว่าทำผิดจริง การที่คนๆ นึงเคยอกว่ามีสิ่งของบางอย่างอยู่ ไม่กี่วันคนไปถาม ด้วยจนต่อหลักฐานเขาบอกว่าไม่มี มันคือการรับสารภาพหรือเปล่า ไม่ได้บอกว่าตัวโจทก์รับสารภาพ อันนั้นคือการเล่นคำ”
ทางฝั่งทนายบอกว่าสิ่งที่ทนายตั้มทำเหมือนกดดันศาลและข่มขู่พยาน?
ทนายตั้ม : “เรื่องกดดันศาล ถามหน่อยว่าศาลท่านแต่ละคนเรียนจบอะไรมา ประสบการณ์ทำงานขนาดไหน ท่านไม่สนใจสื่อโซเชียลหรอก เขาสนใจหลักฐานในคดีมากกว่า เพราะฉะนั้นอย่ามาพูดแบบนี้ เป็นการปรามาสท่าน แล้วการที่มาบอกผมว่าข่มขู่พยาน ถ้าเป็นพยานที่พูดความจริงผมไม่ฟ้องอยูแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นพยานเท็จมาก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ดูนายแผนเป็นตัวอย่าง ตอนแรกบอกเห็นคนก้มเก็บเลย ตอนหลับมากลับคำ ตอนนี้คดีเขาอยู่ในชั้นอัยการ”
เขาว่าพยาน 8 ปากไม่มีนายแผน?
ทนายตั้ม : “ใช่ครับ แผนคงไม่เอาแล้วเพราะคิดดูแล้วคงไม่คุ้ม มาโกหกอะไรหรือเปล่า ไม่ได้ แถมยังต้องติดคุกติดตะราง เงินเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม ผมไม่เชื่อหรอกว่า 8 ปากจะมีคนอย่างนายแผนเพิ่มมาอีก”
เขาว่าทางทนายตั้มสร้างกระแสให้คนกลับมาอุ้ม?
ทนายตั้ม : “ผมไม่ต้องการอย่างนั้น เรื่องนี้อยู่ในชั้นศาล ยังไงศาลก็ต้องพิจารณาตามหลักฐาน ในเรื่องกระแสข้างนอกไม่เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว พยานหลักฐานที่ผมใช้เวลาทำคดี ผมก็เอาไปถามค้าน แต่บางทีเราออกมาพูดข้างนอก ก็ต้องให้ความรู้ประชาชนเรื่องหวย 30 ล้านมีประโยชน์นะ ได้รู้กฎหมาย ได้ทันเล่ห์เหลี่ยมคน เป็นอุทาหรณ์เรื่องนี้เรียนรู้ไปด้วยกัน”
มีการนำคลิปบางส่วนโหนกระแสนำเข้าไปในชั้นไต่สวนมูลฟ้องเขาบอกว่าเขาไม่รับรอง?
ทนายตั้ม : “ไม่อยากพูดมาก เจ็บคอ (หัวเราะ)”
เขาบอกว่ากรณีแบบนี้ฝั่งเขาไม่รับรองได้ แต่ในข้อมูลที่นำเข้าไปเป็นคำพูดลักษณะแต่ละครั้งไม่ตรงกัน?
ทนายตั้ม : “ผมพูดให้เข้าใจง่ายๆ คนมารายการทีวี ยุคนี้เป็นยุค 4G รายการทีวีมีการบันทึกเอาไว้ พยานหลักฐานสามารถเอาไปใช้ในคดีได้ มันจะมีภาพคุณหนุ่มกับผมนั่งคุยกัน เกิดวันหนึ่งมีคดีกันขึ้นมา ผมอ้างว่าไม่ใช่ตัวผม คุณหนุ่มตัดต่อ แบบนี้ทำยังไง คุณหนุ่มต้องไปเป็นพยานให้ผมด้วย”
ผมต้องไปมั้ยเนี่ย?
ทนายตั้ม : “ก็ถ้าขึ้นสู่ชั้นพิจารณา ก็ไม่แน่ว่าอาจต้องไป”
บันเทิงแล้ว?
ทนายตั้ม : “ก็ไปยืนยันว่าคุณหนุ่มตัดต่อผมให้เสียหายหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ตัดต่อ คุณหนุ่มก็ฟ้องผมกลับได้เลย”
วิดีโอคอลหาทนายวรยุทธ์ ทนายครูปรีชา ทนายตั้มโพสต์ว่าปิดเกม ครูปรีชารับสารภาพ พี่มองยังไง?
ทนายวรยุทธ์ : “ก็มองว่าในสิ่งที่ทนายโพสต์ ผมเห็นว่ามันเป็นการจูงใจประชาชน และเห็นว่าน่ามีผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม ในการพิจารณาคดี ผมเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิ่มข้อกำหนด เพิ่มเงื่อนไข ศาลท่านก็เห็นด้วย มีข้อกำหนดไว้แล้ว ในการนำข้อความในศาลออกสู่ประชาชน ตอนนี้ไม่สามรถนำมาเผยแพร่สื่อสารมวลชนทางออนไลน์ได้แล้วนะครับ”
ประชาชนสงสัยว่าสิ่งที่โพสต์ออกมา เป็นไปได้มั้ยไม่ได้อยู่ในนัดนี้ อาจไปโผล่นัดหน้า?
ทนายวรยุทธ์ : “กระบวนการเวลานี้มีคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว มีทั้งโจทก์ จำเลย จำเลยก็มีทนายมาซักค้านหาความจริง จับพิรุธ หาความน่าเชื่อถือความเป็นไปได้ กระบวนการเวลานี้เป็นกระบวนการที่ต่างฝ่ายต่างนำเสนอข้อเท็จจริงในส่วนของตนเอง นำเสนอหลักฐานในส่วนตนเองเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมผู้พิพากษาตัดสินว่าพยานฝ่ายไหนมีความน่าเชื่อถือมากกว่ากัน ดังนั้นทนายความจะนำข้อเท็จจริงในส่วนของสำนวน ผมเห็นว่าไม่ควรนำมาเสนอออกสื่อ ทางคุณหนุ่มจะตั้งข้อสังเกตว่าพยานหลักฐานในส่วนนี้จะมีจริงหรือไม่มีจริง จะโผล่ยังไง ก็เป็นรูปแบบของกระบวนการต่อสู้ในศาล”
ตอนนี้พูดอะไรไม่ได้มาก?
ทนายวรยุทธ์ : “ผมอยากให้ผู้ที่สนใจรอดูผลของคำพิพากษาดีกว่า ว่าโจทก์เองได้นำเสนอพยานหลักฐานเพียงพอว่าที่จะบอกได้ว่าจำเลยเป็นผู้ร้ายในคดีนี้ได้หรือไม่ดีกว่าครับ”
วันที่ 19 ก.ย. กับ 24 ก.ย. พยาน 8 ปากจะขึ้นทั้งหมด?
ทนายวรยุทธ์ : “ผมว่าได้เต็มที่ก็ 4 ปาก เพราะช่วงเช้ากับบ่าย พยานหลหักฐานอาจมีการซักพยานหลักฐานกันยาว เราเตรียมมาแล้วถ้าไม่ได้สืบเหมือนไปรบกวนเวลาทำมาหากินของพยาน”
พี่ยุทธ์พูดว่าตอนทนายตั้มโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก พี่ยุทธ์เอาข้อความนี้ร้องต่อศาลทันที เข้าข่ายกดดันศาลและข่มขู่พยาน ข่มขู่พยานยังไง?
ทนายวรยุทธ์ : “ในส่วนการข่มขู่พยาน มีคำพูดของเขาว่าใครที่จะมาเป็นพยาน ก็ให้ดูนายแผนเป็นตัวอย่าง ซึ่งถูกดำเนินคดีในส่วนมาเป็นพยาน”
ณ วันนี้เรื่องนี้ถูกพูดถึงเกินครึ่งปีเรื่องก็ยังไม่จบ ครูปรีชาเปลี่ยนทนายมาสองสามคน สมมติว่าเรื่องนี้ไม่ผ่านไต่สวนมูลฟ้อง หรือสุดท้ายครูปรีชาแพ้ พี่ยุทธ์จะทำยังไง?
ทนายวรยุทธ์ : “ในส่วนผมก็ไม่ต้องทำอะไรนี่ครับ เพราะโดยหน้าที่และจรรยาบรรณ มีหน้าที่แค่นำพยานหลักฐานคู่ความ ของลูกความนำเสนอต่อศาลให้ทราบเท่านั้นเอง หน้าที่ทนายความมีแค่นี้ อยากอธิบายให้เอฟซีอีกฝั่งเข้าใจที่มาต่อว่าผมด่าว่าผมและคนรอบข้างผม ให้ทราบว่าการทำหน้าที่ทนายความเขามีหน้าที่ มีมารยาท มีจรรยาบรรณ ที่กำหนดควบคุมโดยสภาทนายความ ในตัวบทกฎหมายทนายความมีหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริง นำเสนอกฎหมายต่อศาลเท่านั้นเอง ส่วนการพิจารณาเป็นหน้าที่ของศาลเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่หน้าที่ทนายความ คุณหนุ่มถามว่าถ้าผลมันเป็นยังไง ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล อยู่ที่คำพิพากษา เราก็ทำตามหน้าที่และพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่แค่นั้นเอง”
ทนายตั้ม กรณีนี้เรื่องนี้ยาวนาน สุดท้ายถ้าวันนี้แพ้ ทำยังไง?
ทนายตั้ม : “จริงๆ ต้องบอกว่าทนายที่ดีไม่ควรเอาเรื่องตัวความเป็นเรื่องตัวเอง แต่เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเรื่องที่เดิมพันสูง ไม่ใช่เรื่องเงิน เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยด้วย ผมมองว่าถ้าตัวผมจะลอยตัว ว่าลูกความแพ้ให้ติดคุกไป ผมว่าไม่ยุติธรรมกับเขาแล้ว เรื่องนี้เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลุงจรูญมานานแล้ว เราท้าฝ่ายตรงข้ามดีกว่า ถ้าเรื่องนี้ท้ายที่สุด คำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาที่กำลังสืบอยู่ตอนนี้ ใครแพ้เลิกเป็นทนาย กล้าหรือเปล่าล่ะ ไม่ต้องเอาชื่อเสียงเงินทองกันอย่างเดียว คุณต้องมีส่วนร่วมกับลูกความด้วย เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ทนายประเทศไทยใหม่ รับผิดชอบต่อสังคมรับผิดชอบต่อลูกความ ผมไม่ได้ว่าทนายวรยุทธ์ไม่ดีนะ แต่ผมต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ทนายใหม่ ไม่ใช่ว่าตัวเองเสวยสุข ไม่เกี่ยวข้องกับเรืองที่เกิดขึ้นเลย กล้าหรือเปล่า ใครแพ้ไม่ต้องว่าความเลย กล้ามั้ย”
ทนายวรยุทธ์มองยังไง?
ทนายตั้ม : “พูดแบบนี้เราทำไม่ได้ในฐานะสภาทนายความที่ควบคุมจรรยาบรรณเราอยู่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวผมกับทนายตั้มผมทำได้ แต่เนื่องจากว่าการทำลักษณะนี้ สภาทนายความเขากำลังดูอยู่ ว่าทนายความทั้งสองท่าน เข้าไปเป็นตัวความเท็จเองหรือเปล่า มนเป็นข้อห้าม ข้อบังคับ ของระเบียบสภาทนายความอยู่แล้ว ลักษณะการท้ากันอย่างนี้ในกระบวนการยุติธรรมไม่ควรเกิดขึ้น แต่เอาล่ะ ถ้าท่านคิดว่าการท้ากัน ในส่วนกฎหมายมีในส่วนคดีแพ่งเท่านั้นแหละครับ คดีอาญาไม่มี แต่ส่วนทนายความไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ผมเห็นว่าการท้ากันในลักษณะแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การที่บอกว่าไปร่วมทุกข์ร่วมสุขแล้วต้องรับผิดชอบลูกความ อย่างที่ผมเรียนว่าหน้าที่ทนายความเพียงแต่นำพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ตัวเองได้สืบเสาะและรับรู้รับทราบนำเสนอต่อศาลเท่านั้นเอง ส่วนจะผิดจะถูกชั่งนำหนักพยานจะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของศาล กระบวนการยุติธรรม ผมไม่เห็นด้วยที่มาอบกว่าถ้าแพ้ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ผมไม่รับคำท้าเพราะมันผิดมรรยาททนายความ เขาอยากท้าอะไรค่อยว่ากันหลังไมค์ก็ได้ครับ นอกศาลก็หลังไมค์”
ไปท้าเขาแบบนี้ เขาบอกว่าผิดมรรยาททนายความ?
ทนายตั้ม : “ผิดตรงไหน มีมารยาทข้อไหนกำหนดไว้ ไม่มี แสดงความบริสุทธ์ใจให้ลูกความเห็นว่าคุณมั่นใจจริงๆ คุณไม่ได้ไปหลอกลูกความ คุณดูพยานหลักฐานแล้ว มั่นใจว่าชนะจริงๆ คุณร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลูกความสิทนายยุคใหม่ต้องเป็นแบบนี้”
ก่อนหน้านี้ทนายตั้มไปแจ้งความป้าบ้าบิ่นกรณีป้าบ้าบิ่นขายล็อตเตอรี่แพงให้ลุงจรูญ ทีนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าถ้าแจ้งแบบนี้จะเป็นผลดีเหรอ ในเมื่อลุงบอกว่าไม่รู้ซื้อจากใคร?
ทนายตั้ม : “ดีเลยที่ถาม คนถามมาเยอะในเฟซ ตรรกะง่ายๆ ลุงจรูญบอกว่าซื้อล็อตเตอรี่มา 700 บาท จำหน้าแม่ค้าไม่ได้ว่าคือใคร วันหนึ่งเจ๊บ้าบิ่นบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของล็อตเตอรี่และแผงล็อตเตอรี่ขายให้คนที่ถูกเลยไปแจ้งความเขาแค่นั้นเอง เราไม่รู้ว่าใครแต่คุณมาบอกว่าคุณเป็นคนขาย ก็ดำเนินคดีเขาก็แค่นี้ เหมือนเอาง่ายๆ คุณมาเสนอตัวว่าเป็นคนขาย ก็ถูกดำเนินคดีไป ตรรกะง่ายๆ”
พอผ่านมานานๆ ออกหนังสือเลยเหรอ?
ทนายตั้ม : “ผมคิดมาตั้งนานแล้ว ผมบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้ตอนทำคดี แต่ที่มารวบรวมจริงๆ เพราะเกือบครบ 1 ปีแล้วคดีที่ไม่น่าเป็นคดี ล็อตเตอรี่ 5 ใบแต่ลากยาวเป็นข่าวมา 1 พ.ย. จะครบ 1 ปีแล้ว ผมเลยบอกลุงว่าผมจะทำหนังสือประวัติศาสตร์คดีหวย เพราะประทศไทยไม่มีประเทศอื่นมีคดีเหมือนประเทศไทย ที่บอกว่าตัวเองถูกล็อตเตอรี่แต่ทำหายแล้วมาแจ้งความเขา คดีไม่ยอมจบยอมสิ้นซะที ขนาดกองปราบชี้แล้วก็ยังไม่ยอมรับผิด ยังไปฟ้องเขาในศาลอีก ก็ต้องรอกระบวนการศาลต่อไป”
ตั้งชื่อแล้ว?
ทนายตั้ม : “ตั้งว่าปาฏิหาริย์หวย 30 ล้าน ดังสนั่นเมือง ที่ต้องปาฏิหาริย์เพราะมันมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น เอาง่ายๆตัวผมเอง จากทนายที่ไม่มีใครรู้จัก แต่พอมาทำเรื่องหวยกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่รู้จักผม แฟนคลับก็มี เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต มีอีกหลายๆ คนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ที่มาออกรายการบ่อยๆ อาจารย์เดชา สายดาร์ก แต่ท่านอนุญาตให้ผมเขียนได้ตามความเป็นจริง และมีตัวละครอื่นๆ อีก ผมคิดว่ามันสนุกมาก 3 เจ๊มีแน่นอน ไม่บอกว่าใคร เดี๋ยวโดนฟ้อง ยังมีตัวละครที่เกี่ยวข้องอีก ไปหาอ่านในเล่ม”
ฝ่ายเขาก็ทำนะ?
ทนายตั้ม : “ต้องบอกก่อนว่าหนังสือผมไม่ใช่หนังสือแก้ตัวหรือโกหกถ้าอยากรู้ความจริงมาอ่านปาฏิหาริย์หวย 30 ล้าน เขาบอกว่าของเขาขาย 2,500 เล่มแล้วใช่มั้ย ผมขอความกรุณาเอฟซีที่เชียร์ลุงจรูญ เชียร์ผม เอาให้ได้ 250,000 เล่มเลยแล้วกัน ช่วยซื้อหน่อย อย่าให้แพ้เขา(หัวเราะ)”
คิดว่ามีการพลิกล็อกมั้ย?
ทนายตั้ม : “เรื่องนี้ไม่มีการพลิกล็อกถ้าเกิดการพลิกล็อกเกิดจากความผิดพลาดของผม ถ้าเกิดจากผม ก้อย่างที่ผมท้าไป ผมยินดีเลยเพราะทำให้คนดีๆ ต้องติดคุกและไม่ได้เงิน 30 ล้าน”
ในมุมหมวดจรูญเครียดมั้ย?
ทนายตั้ม : “เขาแค่เบื่อหน่ายว่าเรื่องไม่จบ แต่เขามาฟังทุกนัด เขาพอใจ ในการฟังอีกฝ่ายตอบคำถามของผม”
ชัวร์ SURE! อ้าว
ทนายทำผิดกฎหมายได้ด้วยเหรอแล้วจะเชื่อใครดีหล่ะ
หมดมุกสุดท้ายวางเดิมพันตำแหน่ง
กูละเครียดทนายยุค4.0จริงๆ
22 ส.ค. 2561 เวลา 12.50 น.
สภาทนายความจะไม่ลองเรียกมาคุยหน่อยเหรอ มันห่วยจนอาจทำให้เสียสถาบันทนายความได้ (แต่จริงๆก็อยากรุ้นะว่าถ้าแพ้จะเลิกเป็นทนายจริงรึป่าว)
22 ส.ค. 2561 เวลา 12.42 น.
ไอ้พวกชยะข่าวขยะเลวมากๆทั้งไอ้จรูญและไอ้ปรีชา
22 ส.ค. 2561 เวลา 12.33 น.
Pichit Sareewong บางครั้งผมก็งงกับอาชีพทนายความ
ท่านต้องรู้ว่าใครผิดใครถูก
แล้วท่านจะช่วยคนผิดให้เป็นถูกทำไม
22 ส.ค. 2561 เวลา 12.33 น.
สมโพช ฟายตั้ม สัสสส
22 ส.ค. 2561 เวลา 12.22 น.
ดูทั้งหมด