ตั้งแต่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 600,000 คนอพยพหนีตายจากรัฐยะไข่ไปยังค่ายอพยพบริเวณแนวชายแดนบังกลาเทศ ถือเป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยที่ขยายตัวเร็ว ฉุกเฉินและรุนแรงที่สุดในโลก ในการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด มีความลำบากของคนอีกกลุ่มซุกซ่อนอยู่อีกชั้น คนกลุ่มที่ถูกจัดไว้ต่ำเตี้ยติดดินที่สุด นั่นคือผู้หญิง
ยะไข่หรือชื่อเดิมคืออาระกัน เป็น 1 ใน 14 รัฐของพม่าที่ยากจนที่สุด อยู่ทางชายแดนด้านตะวันตกของประเทศ มีชาวโรฮิงญาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมอาศัยอยู่
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคม จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธให้ชาวโรฮิงญาเพื่อให้ช่วยต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ในขณะที่กองทัพพม่าร่วมมือกับญี่ปุ่นเพราะต้องการเป็นอิสระจากอังกฤษ การช่วยอังกฤษรบทำให้ชาวพม่าจำนวนหนึ่งรู้สึกว่า โรฮิงญามีส่วนในการขัดขวางการเรียกร้องเอกราช
หลังพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษ เกิดสงครามกลางเมืองในบังกลาเทศทำให้ชาวมุสลิมอพยพเข้าสู่รัฐยะไข่อีกเป็นจำนวนมาก จุดกระแสการต่อต้านมุสลิมขึ้นมา โดยเฉพาะรัฐบาลเผด็จการทหารของนายพลเนวินที่ได้อำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 1962 ปลุกกระแสชาตินิยมสุดโต่งโดยใช้ศาสนาพุทธเป็นประเด็นนำ
ปี 1982 มีการออกกฎหมายพลเมืองฉบับใหม่ ระบุว่าชาวโรฮิงญา ไม่ใช่ชาวพม่าแต่เป็นชาวต่างชาติ การสูญสิ้นสถานะพลเมืองทำให้โรฮิงญาหมดโอกาสรับการศึกษาหรือทำงานในระบบ ถูกจำกัดการเคลื่อนย้าย ใช้ชีวิตภายใต้ความลำบากและไร้อนาคต
ความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมโรฮิงญา ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อ ปี 2012 เกิดการจลาจลระหว่างชาวพม่าพุทธและชาวโรฮิงญามุสลิม มีการฆ่าและเผาทำลายบ้านเรือนจำนวนมาก นำไปสู่การจัดตั้ง “กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งรัฐอาระกัน” จนกระทั่ง 25 สิงหาคม 2017 สมาชิก ARSA โจมตีด่านตำรวจพม่า เหตุปะทะกันทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยคน ทำให้กองทัพพม่าส่งทหารเข้าปฏิบัติการกวาดล้างอย่างรุนแรง จนมีอพยพออกจากรัฐยะไข่กว่า 6 แสนคน ในจำนวนนี้ กลุ่มผู้หญิง ดูเหมือนจะได้รับความลำบากมากที่สุด หลายคนถูกข่มขืนหรือละเมิดทางเพศ
ใน กูตูปาลอง ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยใกล้ชายแดนบังคลาเทศ หญิงสาวคนหนึ่งเล่าว่า เธอมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองมองดอว์ของรัฐยะไข่ในสหภาพเมียนมาร์ จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาสามีของเธอถูกทหารจับตัวไป และมีทหารพม่า 3 คนบุกมาที่บ้านก่อนลงมือข่มขืนเธอ
หลังทหารถอนกำลังกลับไป เธอจึงเดินทางข้ามชายแดนมา พร้อมกับลูกอีก 5 คน ใช้เวลา 2 สัปดาห์ ต้องกินใบไม้และน้ำฝนประทังชีวิต จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานอิสระใดที่จะพิสูจน์สิ่งที่หญิงสาวเหล่านี้เล่าหรือบอกกล่าวได้ เพราะการเข้าถึง รัฐยะไข่ขณะนี้ยากลำบากและถูกจำกัด
โรฮิงญากลายเป็นคนไร้รัฐ ไร้แผ่นดิน กลุ่มคนที่โลกผลักไสไม่ต้องการ จำนวนเป็นล้านคนที่อพยพหนีตายจากบ้านเกิด บางส่วนอพยพไปยังประเทศที่สาม บางส่วนอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย ส่งเสียงอ้อนวอนขอความเมตตา แต่ในสังคมที่ผู้หญิงมีสถานะแค่สมบัติอย่างหนึ่งของครอบครัวเมื่อยังเด็กและของสามีเมื่อแต่งงาน พวกเธอจึงอยู่ล่างและต่ำที่สุด เสียงแห่งความเจ็บปวดของพวกเธอไม่มีใครได้ยิน
โชคดีที่เราได้มาเกิดบนผืนแผ่นดินไทย
19 พ.ย. 2560 เวลา 10.59 น.
ช่างเล็กครับ แล้วไอ้พวกผู้ดีอังกฤษตรางูไปหลบอยู่รูไหนไมเห็นทำห่าไร
19 พ.ย. 2560 เวลา 03.00 น.
อังกฤษนั่นแหละตัวดีพอหมดประโยชแล้วทิ้งเขาเหมือนขยะ
19 พ.ย. 2560 เวลา 02.45 น.
ISIS เข้ามาช่วย บันเทิง
19 พ.ย. 2560 เวลา 02.31 น.
ในไทยเราก็มีอยู่ในสถานพักพิงนั่งกินนอนกินฟรี.. เรียกร้องเงินเดือน .. เรียกร้องจะดูหนังX อีกอื้อเลย .. เอาทางประเทศเราให้รอดก่อนดีกว่ามั้ง
19 พ.ย. 2560 เวลา 02.01 น.
ดูทั้งหมด