"เทพไท" ใจหาย "หมอวรงค์" ลาออกพ้นจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทพไท เสนพงศ์ สมาชิกสภาแทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความว่า เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์ ระบุว่า…

วันนี้ผมได้เห็นใบลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ของนายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม แล้วรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เพราะหมอวรงค์เคยเป็น ส.ส.รุ่นเดียวกัน ซึ่งหมอวรงค์เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้ง มาจากจังหวัดพิษณุโลก ส่วนผม เทพไท เสนพงศ์ ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาแทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เช่นกัน เราเป็น ส.ส.รุ่นใหม่ ในปี 2548 เราเข้ามาเป็น ส.ส.ในยุคที่ระบอบทักษิณกำลังเข้มแข็งและรุ่งเรืองอย่างสุดขีด แต่เราก็ได้ยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันกับเพื่อน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จวบจนบัดนี้ระบอบทักษิณก็ได้เสื่อมสลายลงเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด การตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ของหมอวรงค์ในวันนี้ ก็เป็นเรื่องสัจธรรมของชีวิตนักการเมือง เมื่อเกิดแล้วก็จากไป

ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ที่ได้ผลิตนักการเมืองคุณภาพคนแล้วคนเล่าที่ประสบความสำเร็จทางการเมืองจำนวนมากมาย มีหลายคนไปสังกัดในพรรคต่างๆ และในสภาผู้แทนราษฎรทุกยุคทุกสมัย ล้วนแล้วมีคนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร หมอวรงค์ก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นผลผลิตของพรรคประชาธิปัตย์ที่พรรคภาคภูมิใจ มีผลงานทางด้านการเมืองเป็นที่ประจักษ์ และผมเชื่อว่าหมอวรงค์ได้ตัดสินใจในทางการเมืองของตัวเองอย่างรอบคอบแล้ว จึงได้ตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปในฐานะที่เป็นเพื่อน ส.ส.คนหนึ่งของหมอวรงค์ ก็ได้แต่ภาวนาและอวยพรขอให้โชคดีในเส้นทางการเมืองต่อไป และเชื่อว่าความเป็นนักการเมืองดาวฤกษ์ของหมอวรงค์ คงจะมีความสำเร็จทางการเมืองและมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน ผมแอบคิดและแอบฝันไว้อย่างนั้นครับ

สำหรับหนังสือลาออกดังกล่าว นพ.วรงค์ เขียนด้วยลายมือสั้นๆเพียง 3-4 บรรทัดเท่านั้น มีข้อความว่า…

"เรียน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข้าพเจ้านายวรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 6116500001 วันที่เป็นสมาชิกพรรค 2 ตุลาคม 2561 ประสงค์ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคฯ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2562 เป็นต้นไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ

ลงชื่อ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม”

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ กล่าวเพียงว่า ในวันเสาร์นี้(23 พ.ย.62) จะแถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง