ไอที ธุรกิจ

หมูทอดไข่ตูม เติมข้าวฟรี น้ำซุป ผักสด น้ำพริกกะปิไม่อั้น

เส้นทางเศรษฐี
อัพเดต 04 ส.ค. 2563 เวลา 02.16 น. • เผยแพร่ 04 ส.ค. 2563 เวลา 02.16 น.

ดาราดังคืนกำไรให้สังคม เปิดร้าน “หมูทอดไข่ตูม” หมูทอดเนื้อฉ่ำๆ กินกับไข่ยางมะตูม น้ำจิ้มแจ่ว น้ำพริกกะปิ ผักสด ทีเด็ดร้านนี้ เติมข้าวฟรี น้ำซุป ผักสด น้ำพริกกะปิไม่อั้น 

แน่นอนว่าการทำธุรกิจนั้น เรื่องผลประกอบการย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาเป็นอันดับ 1 แต่คงจะดีมากกว่าหากธุรกิจที่ทำได้มีโอกาสให้อะไรคืนกลับแก่สังคมบ้าง อย่าง “ร้านหมูทอดไข่ตูม” ที่ตั้งอยู่ ณ ลานก้ามปู ซอยวิภาวดีรังสิต 60 ของนางร้ายหน้าหวาน มะปราง-วิรากานต์ เสณีตันติกุล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เราไม่ใช่ธุรกิจเพื่อสังคมขนาดนั้น” สาวสวยวัย 30 บอกพลางยิ้มเมื่อถูกถามถึงร้านข้าวหมูทอดที่ให้เติมข้าวฟรี มีน้ำซุป ผักสด น้ำพริกกะปิให้ทานแกล้มแบบไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

ด้วยเธอแจงว่า “ธุรกิจก็ยังเป็นธุรกิจอยู่ แต่สิ่งที่เราคำนึงถึงคือ คนทำงานประจำที่รายได้จำกัด เราอยากหาอะไรที่ทำให้เขาอิ่มท้อง สบายกระเป๋าได้โดยที่อร่อยด้วย นี่คือแนวคิดหลักที่เราตัดสินใจทำอะไรที่ง่ายๆ แต่กินได้ประจำ พวกเราก็เป็นคนทำกับข้าวอยู่แล้ว มีสูตรหมูทอดเด็ดๆ เนื้อฉ่ำๆ ไม่แห้งเลยออกมาเป็นข้าวหมูทอดกินกับไข่ยางมะตูม น้ำจิ้มแจ่ว น้ำพริกกะปิ ผักสด”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยร้านหมูทอดไข่ตูมที่มี 12 โต๊ะ รองรับลูกค้าพร้อมกันได้ 60 คน นอกจากมะปรางเป็นเจ้าของ ยังมีหุ้นส่วนอีก 2 คน เป็นเพื่อนสนิทนอกวงการที่คบกันมา 17 ปี อย่างปอยและป่าน ซึ่งแม้ต่างคนจะต่างมีธุรกิจ แต่เพราะชอบเป็นผู้ให้ พวกเธอจึงตัดสินใจทำร้านนี้อย่างไม่ลังเล

“เป็นธุรกิจที่เราอยากทำกันอยู่แล้ว ด้วยจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเราก็เลยทำ โดยใช้เวลาตัดสินใจประมาณไม่เกินเดือนหนึ่ง”

“เรา 3 หุ้น ลงทุนเริ่มกันที่หลักหมื่น ลงทุนไม่เยอะแต่ลงแรงเยอะมาก เราทำทุกอย่าง คือ สับหมูเอง เสิร์ฟเอง จ่ายตลาด ซื้อหมู ซื้อของ ซื้อไข่ ซื้อผักเอง แม่ค้าที่ตลาดสี่มุมเมืองรู้จักปรางขึ้นเยอะ ฐานแฟนคลับจากที่นั่นเยอะขึ้นมาก” มะปราง บอกพลางหัวเราะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เราต้องถอดหัวโขนความเป็นดารา ความเป็นเจ้าของกิจการอะไรพวกนี้ไปให้หมด แล้วลงมือทำทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะว่ามันเป็นธุรกิจใหม่ โดยป่านจะคุมครัว คุมคน คุมสูตร ปอยดูเรื่องการบริหารร้าน ส่วนปรางจะเป็นการตลาดและพีอาร์ ทุกครั้งที่ปรางไม่มีงานละคร ปรางก็จะเข้าร้านตลอด”

“ถ้าเทียบกับธุรกิจอื่น อย่างของปรางมีแบรนด์เสื้อผ้าพิ้งค์ เลดี้ สไตล์ ขายออนไลน์ทางไลน์ @pinkladystyle มันก็เหนื่อยหนักเหมือนกัน แต่แค่คนละแบบ อันนี้จะเป็นการเหนื่อยที่มีเหงื่อ ไม่ได้เหนื่อยใจ เหนื่อยความคิด แต่เราพยายามเซตระบบให้ทุกอย่างมันลงตัวมากที่สุดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเริ่มเปิดตอนเดือนพฤษภาคมพอเข้าเดือนที่ 4 ถือว่าลงตัวได้เร็วมาก เพราะเรามีประสบการณ์จากธุรกิจอื่นด้วย”

อย่างไรก็ตาม เมนูที่ร้าน นอกจากข้าวหมูทอด ราคา 35 บาท ถ้าเพิ่มไข่ต้มยางมะตูมเป็น 45 บาท ซึ่งเติมข้าวฟรี มีน้ำซุป ผักสด น้ำพริกกะปิให้แล้ว ยังมีหมูทอดจัดเป็นชุดๆ ขนาด S สำหรับ 1 คน ราคา 55 บาท ขนาด M สำหรับ 2-3 คน ราคา 150 บาท ขนาด L สำหรับ 3-5 คน ราคา 250 บาท ขนาด XL สำหรับ 5-8 คน ราคา 500 บาท ไว้ให้บริการคนที่อยากทานหมูแบบจุใจ รวมถึงเมนูทานเล่นเป็นพวกยำต่างๆ

“แล้วที่ร้านจะมีพวกปลาร้าบอง น้ำพริกต่างๆ ขายด้วย เป็นสินค้าโอท็อป 5 ดาวของชุมชนต่างๆ เพราะว่าปรางมีโอกาสไปต่างจังหวัดไปทำรายการเกี่ยวกับชุมชนอยู่แล้ว เราก็กระจายรายได้เข้าชุมชน เรารู้สึกว่ามันดีก็กระจายรายได้ช่วยเขา ลูกค้าน่าจะแฮปปี้มากถ้าได้กิน ซึ่งจะเลือกที่เหมาะกับอาหารเรา ที่มันโอเค แล้วก็เป็นชุมชนที่น่ารัก อย่างที่เราเอามาเป็นปลาร้าบองของชุมชนบ้านศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด อร่อยแซ่บมาก เข้ากับหมูเรามาก” เจ้าของสาว เล่าเพิ่มเติม

พร้อมบอกถึงร้านที่เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่ 08.30-15.00 น. ว่า กระแสตอบรับ “ดีมาก” และยังคงดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาทานที่ร้าน ลูกค้าที่โทรสั่งที่เบอร์ร้าน (083) 166-5654 หรือสั่งทางแอพพลิเคชั่นส่งอาหารดีลิเวอรี่ ซึ่งพวกเธอมีกล้วยน้ำว้าและน้ำดื่มไว้บริการคนส่งอาหารทั้งหลายด้วย

“ตอนแรกเข้าใจว่าคนมาด้วยกระแสที่ทำการตลาดไป แต่ปรากฏว่าคนมากินติดใจเลยเกิดบอกปากต่อปาก ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นคนทำงาน พนักงานออฟฟิศ ซึ่งแรกๆ เมนูขายดีเป็นข้าวหมูทอดจานเดียว แต่พอมีลูกค้าประจำ เมนูที่ขายดีจริงๆ คือพวกหมูไซซ์ M ไซซ์ L เพราะเขาสั่งแค่หมูก็ได้ข้าวฟรี หรือสั่งไข่เพิ่ม ก็จะกินมันส์กว่า”

“ถามว่าธุรกิจอยู่ได้ไหม ปรางว่าสบาย” คนเล่าบอก พลางยิ้ม

“เพราะนอกจากข้าวหมูทอด เรายังมีเมนูอื่นอีก อย่างหมูไซซ์ต่างๆ ในราคาของพวกนี้สามารถมีช่องว่างที่เอามาหล่อเลี้ยงเราได้ หรืออย่างบางคนที่มากิน อย่างอาจารย์ที่เขาเมตตามาช่วยเรา เขาบอกว่าจริงๆ ธุรกิจนี้เหมือนธุรกิจที่ลูกค้ารวยเลี้ยงลูกค้าจน ส่วนที่ขาย 35-45 บาท เราได้กำไรถึงขนาดนั้นไหม ไม่หรอกค่ะ เราให้ข้าวฟรี ผักฟรี น้ำซุปฟรี น้ำจิ้มฟรี มันมีกำไรไหม มันได้ แต่ไม่ได้เยอะ ได้ปริมาณ แต่ส่วนที่ขายเป็นไซซ์ก็สามารถมาจุนเจือกันได้”

เมื่อผลลัพธ์เป็นไปด้วยดีจึงมีการขยายกิจการ โดยไปเปิดสาขา 2 ที่ตลาดบองมาร์เช่ ย่านประชานิเวศน์ 1 จากนั้นก็จะทยอยเปิดสาขาอื่นๆ ที่ลูกค้าได้มาซื้อแฟรนไชส์ไว้

“เราไม่เพิ่มไลน์สินค้าเพราะกลัวจะควบคุมคุณภาพไม่ได้ เราอยากทำให้ดีเฉพาะอย่างไป แต่จะมีการขยายแฟรนไชส์ ขั้นแรกเราทำเองก่อนเป็นโมเดล เริ่มสาขาแรกเดือนกันยายนที่ตลาดบองมาร์เช่ เมนูเดียวกันแต่จะเน้นดีลิเวอรี่มากกว่า ราคาเท่าเดิม มีเป็นจานเดียว เป็นไซซ์ แล้วก็จะมีเป็นชุดสุดคุ้มด้วย นอกนั้นจะเป็นคนอื่นที่เขาจะมาจองพื้นที่ไว้แล้ว แต่เราอยากเซตระบบของเราให้ลงตัวไว้ก่อน แล้วค่อยเปิดสาขาอื่นที่เป็นลูกค้าจะเริ่มช่วงปลายปี-ต้นปีหน้า”

“โดยเราจะมีการควบคุมหมดเลย ทั้งคุณภาพ ทั้งราคาขาย เราใช้หมูที่ได้มาตรฐาน ใช้ของเบทาโกร มีการหมักจากโรงงาน แพ็กออกมาเป็นถุงซีล ทุกขั้นตอนผ่านกรรมวิธีจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ได้การรับรองจาก อย. เราเลยควบคุมรสชาติได้ทั่วประเทศ ส่วนน้ำจิ้มเราก็พยายามจะเป็นมาตรฐานเดียวกันให้มากที่สุด ส่วนร้านค้าที่จะเปิดต้องแล้วแต่ลูกค้าว่าเป็นไซซ์แบบไหน บางร้านไม่มีที่นั่ง เพราะส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้สะดวกเป็นดีลิเวอรี่ หรือบางที่อาจจะเป็นตู้คีออส เมนูอาจจะมีการปรับแต่หมูยังเหมือนเดิม เราถึงได้บอกว่าเราจะไม่ขยายเมนู แต่เราจะขยายสาขาแล้วรักษาเมนูเดิม”

“เราทำธุรกิจอื่นๆ มา เรามองว่าธุรกิจอาหารมันเป็นธุรกิจที่ขายได้ตลอดอยู่แล้ว และถ้าเรามีจุดยืนว่าเป็นธุรกิจที่เห็นใจ เห็นแก่ปากท้องของลูกค้า แล้วตอนนี้นอกจากมันเป็นกระแส มันยังค่อนข้างโอเคมาก ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะขายแฟรนไชส์ขนาดนั้น แต่มีคนมาขอซื้อเยอะมาก เราเลยพยายามสร้างมาตรฐานขึ้นมา”

“ถามว่าเร็วไหม ปรางรู้สึกว่าเราไม่ได้รีบ เราดูทุกอย่างที่เราทำไหว สมมติถ้าปรางรีบจริงๆ ปรางสามารถขยายตอนนี้ได้เลย แต่ปรางไม่ให้คนอื่นทำเพราะอยากสร้างมาตรฐานที่เป็นมาตรฐานเดียวกันก่อนจนกว่ามันจะเสถียรแล้วปรางถึงจะให้คนอื่นทำ”

ดังนั้น สำหรับเป้าหมาย ดาราสาวว่า “ธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ทั้งคนกินและคนขาย”

“ถึงแม้เราจะอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ยังไงคนก็ต้องกิน คนต้องกินของอร่อย ของที่ราคาเขารับไหว เราก็จะเป็นอะไรที่ตอบสนองคนกลุ่มนี้ได้ตลอดเวลา ธุรกิจหมูทอดในไทยอัตราเติบโตมันสูงตลอด คนไทยมันคู่กับหมูเลยคิดว่าจะเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนของปราง”

“ถ้าบอกว่าหมูทอดกินที่ไหนก็ได้ แสดงว่าคนต้องกินหมูทอดตลอดเวลา แต่ของเราต่างจากที่อื่นตรงเป็นหมูมีน้ำใจ รสชาติหมูอร่อยแต่อาจจะไม่ได้อร่อยโดดเด่น เด้งจากคนอื่น เพราะว่าหมูทอดอร่อยมันก็คือหมูทอดอร่อย แต่ร้านเราขึ้นชื่อเรื่องมีน้ำใจ คนที่มากินก็จะรู้สึกแฮปปี้กับการที่เราเป็นแบบนี้ และที่สำคัญ ตัววัตถุดิบเน้นเรื่องการรักษามาตรฐาน ดังนั้น มากินที่ร้านเราก็จะเป็นรสชาติแบบนี้ทุกครั้ง”

รสชาติของ “หมูทอดไข่ตูม” ที่คนกิน…อิ่มอร่อย ส่วนคนขาย…อิ่มใจ

เผยแพร่ครั้งแรก 31 ธันวาคม 2019

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • ยุคนี้ใครลดราคาลูกค้าก็จะเทไปร้านคุณ ส่วนร้านที่เหลือหมดโอกาสเพราะลูกค้าอิ่มแล้ว
    19 ธ.ค. 2562 เวลา 11.45 น.
  • หมูทอดน่ากินมาก
    01 ก.พ. 2563 เวลา 10.03 น.
ดูทั้งหมด