“แดน อัครเดช” จากมือทรัมเป็ต วง TEMP มาสู่ร้านกาแฟสุดคูลริมถนน
หลังจากร้านกาแฟมอเตอร์ไซต์ชื่อว่า THE CUP ที่ขายบนฟุตบาท ย่านท่าพระ เป็นดราม่ากระจายไปทั่วโซเชี่ยล ทุกคนก็มุ่งไปที่นักชงกาแฟว่าเขาคือใคร
ดาราเดลี่ลงพื้นที่เช็คข้อมูลพบว่าเขาคือ “แดน-อัครเดช สารอินทร์” อดีตนักดนตรี มือทรัมเป็ต วง TEMP และนักแต่งเพลงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักฟังอินดี้ ล่าสุดได้ร่วมโชว์บนเวทีคอนเสิร์ต แคท เรดิโอ และยังเป็นแบ็คอัพให้อีกหลายวง
“แดน-อัครเดช สารอินทร์” ได้เปิดใจถึงเส้นทางสู้ชีวิตในวันนี้ว่าเขาทดลองเปิดร้านกาแฟแบบนี้เพราะความจำเป็น
เล่าเรื่องของ “แดน” ให้ฟังหน่อยว่าเราคือใคร ?
เดิมทีผมเป็นนักดนตรี ทุกวันนี้ก็ยังทำเพลง อยู่เบื้องหลัง มีวง TEMP ที่ผมเล่นมาตั้งแต่เด็ก จริงๆ ทำดนตรีทุกวันนะ บ่ายๆ ก็ไปทำเพลง คือทุกวันนี้ วงการเพลงได้รับผลกระทบจากโควิด ตอนนี้ถือว่าเป็นชีวิตนิวนอร์มอล ผมเขียนเพลง แต่ส่วนมากจะเป็นเพลงบรรเลง ว่างจากการแต่งเพลงผมเล่นแบ็คอัพให้ เบทเทอร์ เวทเทอร์ และ วงลูกพีช
ทำไมถึงมาขายกาแฟ?
มันเป็นผลกระทบจากโควิด ทำให้เงินที่เราทำงานมาได้หมดลงไปทุกวัน งานดนตรีก็น้อยมาก เราก็ต้องใช้จ่ายทุกวัน ตอนนี้เราต้องหารายได้ทางอื่นบ้าง เมื่อก่อนก็มีรายได้จากการเล่นดนตรีแต่ตอนนี้มันไม่มีเลย
เริ่มขายวันแรก วันไหน ?
วันที่ 3 สิงหาคม 2563 โดยก่อนหน้านี้ผมก็ต้องเตรียมตัวมาก ไปซื้อ ถังน้ำแข็ง เตา หม้อสตีม สิ่งของอีกหลายอย่างที่เราไม่เคยมีก็ต้องมามาติดไว้สำหรับการขายกาแฟ
ทักษะ บาริสต้า ได้มาจากไหน ?
ไม่ถึงกับบาริสต้าหรอกครับ คือผมอยากทำ แล้วก็โตไปพร้อมๆกับคนกิน คนทำกาแฟอื่นๆมีความสามารถมากกว่าผม ผมแค่แยกแยะว่าอันนี้ อเมริกาโน อันไหน ลาเต้ แค่นั้นเอง
อยากให้เล่าถึงเวลาเตรียมของ ?
ตอนนี้ไม่มีงานก็ว่างมากๆ ผมก็สต๊อกของสำหรับขาย ผมซื้อกาแฟมาทำแบบวันต่อวัน ตอนนี้พอเริ่มบูมก็ขายได้วันละ 30กว่าแก้วต่อวัน กำไรนิดหน่อย
จุดเริ่มต้นดราม่า?
ผมไปขายกาแฟบนฟุตบาท พอคนเริ่มแชร์กันมากๆ ก็เป็นประเด็น แรกๆ ผมอยากทำเงียบๆ เพราะผมคิดว่าผมคงไม่ได้มาทำนานอยู่แล้ว แรกๆอยากทำในคอนโด ผมแค่ออกมาข้างนอกมาริมถนนเพื่อมาแจกนามบัตรแบบชั่วคราว แต่พอมาขายบนถนนก็มีดราม่า มีกระแส ผมก็มีความสำนึก ขอรับผิดชอบ ก็อยากแก้ปัญหาดราม่า โดยย้ายมาขายที่หน้าคอนโด ทั้งนี้นิติบุคคลคอนโดเขาบอกว่าขายได้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร แล้วผมก็อาศัยเป็นลูกบ้านในคอนโดนี้ด้วย
ตอนนี้ยังเล่นดนตรีอยู่ไหม ?
ยังเล่นอยู่ครับ คือตอนเช้าผมขายกาแฟ พอขายของหมดก็เก็บ บ่ายๆ ก็ซ้อมดนตรี กลับห้องเปิดคอม
เราได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้?
ชีวิตไม่จำเป็นต้องเครียดมาก วันๆหนึ่งอาจจะไม่มีทางไป คนอื่นอาจจะเครียด แต่ผมก็สบายๆ เดี๋ยวมันก็ดี ถ้าเราไม่เครียดก็คิดออก ถ้าเครียดเราอาจจะไม่มีทางออก
รู้เรื่องที่เป็นข่าวได้ยังไง?
เพื่อนๆ ทักมา แชร์กันเยอะมาก ผมขึ้นไปขายฟุตบาทจริงๆก็ต้องขอโทษด้วยครับ พอย้ายมาตรงนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ใครอยากมาชิมกาแฟผมก็มาได้
อนาคตวางแผนอย่างไรต่อ ?
ทำแบบนี้ไปก่อน ถ้าพัฒนาได้ก็ไม่อยากรบกวนของหลวงมาก อยากจะไปขายที่อื่น เป็นสัดส่วนพอดีของเรา อยากมีที่ให้ลูกค้านั่งรอแบบไม่ร้อนเหมือนทุกวันนี้ ผมอยากขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาซื้อกาแฟผม มารอกันแบบร้อนๆ ถ้าใครสนใจอยากชิมกาแฟฝีมือผมก็มาได้ หน้าคอนโด เดอะพาร์กแลนด์ ท่าพระ อยากให้มารถสาธารณะ เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีที่จอดรถ ส่วนตอนกลางคืน ผมก็กำลังหาที่เล่นดนตรีอยู่ ผับที่ถนนข้าวสารก็ยังนิ่งๆ รอทางร้านประสานมาครับ ขอบคุณครับ
รู้ลึกไม่รู้ละ สุดยอดคับพี่
15 ส.ค. 2563 เวลา 02.30 น.
Tanapron Kumsawat เป็นแนวคิดที่ดีในการหารายได้ ช่วงโควิคและเป็นแบบอย่างให้คนที่กำลังท้อค่ะ
15 ส.ค. 2563 เวลา 00.36 น.
ว่างๆเรามาออกอัลบั้้มแจ๊สเพลงไทยเก่าๆดีมะ แดน
14 ส.ค. 2563 เวลา 15.26 น.
ดูทั้งหมด