คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ให้นำค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ จัดเป็นสินค้าควบคุม และจะมีการตั้งอนุกรรมการเข้ามาดูแลเรื่องนี้เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ประชาชนรวมไปถึงโรงพยาบาล
คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ ให้นำค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ จัดเป็นสินค้าควบคุม และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งประชาชน รวมไปถึงโรงพยาบาล เนื่องจากต้นทุนการให้บริการโรงพยาบาลแต่ละแห่งต่างกัน นอกจากนี้การเข้าเป็นสินค้าควบคุมไม่ได้จำเป็นต้องกำหนดเพดานราคาก็ได้
ทางด้าน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการควบคุมราคาของโรงพยาบาลเอกชน และไม่ได้เข้าไปแทรกแซง และการจัดตั้งอนุกรรมการจะสร้างความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ขณะเดียวกัน สุภัทรา นาคะผิว ตัวแทนจาก คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองภาคประชาชน มีมุมมองว่า การกำกับครั้งนี้จะต้องมีมาตรการห้ามขายยาเกินราคาที่แจ้งข้างกล่อง ซึ่งในอดีตไม่สามารถควบคุมค่ายา และค่ารักษาพยาบาลได้ ทำให้เกิดค่าบริการที่แพง และขอให้มีสัดส่วนในการแต่งตั้งอนุกรรมการนี้มีสัดส่วนอย่างเหมาะสมด้วย
สำหรับมุมมองของ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต มองว่า ประเด็นนี้ยังกดดันหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่อ โดยโรงพยาบาลที่มีรายได้จากกลุ่มลูกค้าเงินสดสูง อย่าง BDMS BH จะได้รับผลกระทบสูงกว่าโรงพยาบาลที่มีรายได้จากประกันสังคม อย่าง BCH CHG RJH
ที่มา – INN News, หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ, บทวิเคราะห์จากหลักทรัพย์ธนชาต
P a n d o r a ยังอีกนานกว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม นี่แค่รับหลักการในครม. ไม่ใช่ กม. บังคับ ถูกต้องมั้ยครับ แต่แค่นี้ หุ้น รพ.เอกชนมั้งหลาย ใน ตลท.วูบเลย หากินเอาเปรียบชาวบ้านมานาน
23 ม.ค. 2562 เวลา 08.29 น.
ทำไมการรักษาพยาบาลจึงกลายเป็นธุรกิจที่สามารถฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้คะ
23 ม.ค. 2562 เวลา 23.08 น.
ดูทั้งหมด