ในวันตรุษจีน หลาย ๆ ครอบครัวก็คงกำลังวางแผนจับจ่ายใช้สอยเตรียมหาของไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษที่เรานับถือ Eat Better อยากชวนทุกบ้านใช้โอกาสในเทศกาลนี้เรียนรู้การกินเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม ไปด้วยกัน เพราะในทุก ๆ มื้ออาหารของพวกเราที่บริโภคกันอยู่ทุกวันนี้พบว่า กว่า ⅓ ของอาหารทั้งหมด "จะกลายเป็นเศษอาหารเหลือทิ้ง" ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เราสูญเสียทรัพยากรอาหารและน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ อันจะทำให้ทรัพยากรในอนาคตลดลงเรื่อย ๆ
เทศกาลตรุษจีนปีนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พวกเราทุกคนจะได้ลอง "ลดปริมาณอาหารจากปกติ" ที่เคยซื้อเคยทำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด วางแผนการซื้ออาหารหรือประกอบอาหารบนความ "พอดี" เลือกซื้อเลือกหาวัตถุดิบกันอย่าง "พอเหมาะ" เป็นตัวช่วยทำให้พวกเราได้ฉลองเทศกาลต่อๆไป บนโลกที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ สิ่งที่ดีที่สุดจากทุกเทศกาล คือการที่ได้รู้ว่าในอนาคตข้างหน้า โลกของเรายังคงมีทรัพยากรที่เพียงพอต่อเราและลูกหลานของเราในรุ่นต่อ ๆ ไป ปรับเปลี่ยนวิถีการกินให้ดีกว่าเดิม เริ่มต้นคำนึงถึงความยั่งยืนที่เราช่วยกันคนละเล็กละน้อยได้ตั้งแต่บนโต๊ะอาหารของเรา
1 ใน 3 ของอาหารที่เราทาน มักกลายเป็นอาหารเหลือทิ้ง
ถ้าเราจัดสรรการทำอาหารในแต่ละมื้อให้ดี โดยทำให้เกิดการเหลือทิ้งน้อยที่สุด จะเป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่เป็นแหล่งที่มาของอาหาร และถ้าเราสามารถลดปริมาณได้ 1/ 3 จากที่ทำอยู่เป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยประหยัดพลังงาน รักษาทรัพยากรที่จำเป็นเอาไว้ได้
#กินอย่างยั่งยืน #กินไม่เหลือทิ้ง
ลองเริ่มต้นพร้อมกันในเทศกาลตรุษจีนนี้ มาดูกันว่าถ้าทุกคนช่วยกันเราจะช่วยอะไรไว้ได้บ้าง…
ลดปริมาณการทำอาหาร 1/3
จะช่วยรักษาแหล่งน้ำจืดกว่า 250 ล้านล้านลิตร ซึ่งจะเพิ่มปริมาณน้ำดื่มให้ทุกคนบนโลกนี้ได้อีก 30 ปี
ลดปริมาณการทำอาหาร 1/3
ประหยัดพลังงานไฟฟ้ากว่า 11,113 พันล้านกิโลวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้ประชากรอีกกว่าพันล้านครัวเรือนได้มีไฟฟ้าใช้เพียงพอตลอดทั้งปี
ลดปริมาณการทำอาหาร
จะช่วยรักษาพื้นที่ป่าไม้กว่า 18,919 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีค่าเท่ากับพื้นที่สนามฟุตบอลกว่า 2.6 ล้านสนาม หรือคิดเป็นพื้นที่ที่เราสามารถใช้ปลูกต้นไม้เพื่อลดภาวะโลกร้อนได้
-----------
ในแต่ละมื้ออาหารโดยเฉพาะช่วงเทศกาล ลองใช้กฎ 1/3 จัดสรรปริมาณอาหารให้พอเหมาะ ไม่ปล่อยให้เหลือทิ้ง จะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยโลกนี้อย่างยิ่งใหญ่ได้ และจะเห็นผลในอีกไม่ช้า
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.saveonethird.org