เจ็บกันมาเยอะกับหุ้นไทยปีที่ผ่านมา ขึ้นปีใหม่หลายคนก็หวังว่าหุ้นจะดีขึ้นบ้าง บล.กสิกรไทยเปิดคาดการณ์ว่าไตรมาส 1/2019 นี้ดัชนีหุ้นไทยจะขึ้นแตะ 1,650 จุด แล้วหุ้นตัวไหนน่าซื้อ?
บล.กสิกรไทยหวังหุ้นไทย Q1/2019 แตะ 1,650 จุด
กวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย (บล.กสิกรไทย) บอกว่า ทางบริษัทเห็นโอกาสในดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ไตรมาส 1 ปี 2019 จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,650 จุด เพราะผลดีจากจากนักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ทของตัวเอง และแบ่งเงินทุนในประเทศพัฒนาแล้วมาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ อย่างไทยที่มีข่าวว่าจะมีการเลือกตั้ง
ในช่วงต้นปีตลาดหุ้นไทยอาจจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศ หลังจากนักลงทุนลดความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และมองว่าสงครามการค้าผ่อนคลายลง แต่ยังเห็นเทรนด์ประเทศพัฒนาแล้วมีประเด็นต้องจับตา เช่น เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว ความไม่แน่นอนของกรณี Brexit และกำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐลดลง จึงเห็นการปรับพอร์ตโยกเงินจากตลาดพัฒนาแล้วมาตลาดเกิดใหม่ แต่จะเกิดชั่วคราวเพราะยังไม่มีเม็ดเงินใหม่มาลงทุน
ส่วนทั้งปี 2019 ตั้งเป้าหมายว่าดัชนีหุ้นไทยสูงสุดจะอยู่ที่ 1,750 จุด แต่จะเห็นช่วงปลายปี และมองว่าปีนี้ดัชนี SET จะไม่มี New High เพราะไตรมาส 1 แม้จะมีเงินจากต่างประเทศไหลมาไทย แต่ไตรมาส 2-3 ตลาดจะกลับมากังวลเรื่องเดิมๆ เช่น เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐไม่เติบโต รวมถึงความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยดอกเบี้ยของสหรัฐ
ถ้าหุ้นไทยแตะ 1,400 จุด แนะ 13 หุ้นต้องช้อป
กวี ยอมรับว่าปีนี้ตลาดหุ้นจะผันผวนแรงที่สุด อาจจะแกว่งถึง 300 จุด หรือเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 – 1,750 จุด
“ถ้าตลาดหุ้นไทยลงไปแถว 1,400 จุด ถือเป็นจังหวะเข้าลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งปีที่แล้ว บล.กสิกรไทย ก็มองว่า ตลาดจะปรับลดลงแต่ยังไม่แนะนำให้ซื้อ แต่ปีนี้แนะนำให้ซื้อ เพราะราคาที่ปรับลดลงมาจากปัจจัยภายนอก แต่ปัจจัยในประเทศยังแข็งแกร่ง”
แนะนำให้ลงทุนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนในประเทศ 6 กลุ่มด้วยกัน คือ
- กลุ่มธนาคาร ได้แก่
BBL – ธนาคารกรุงเทพ, TISCO – ธนาคารทิสโก้ - กลุ่มค้าปลีก ได้แก่
CPALL – บมจ.ซีพี ออลล์, CPN บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และ HMPRO บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ - กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่จะกลับมาบวกในปีนี้ ได้แก่
CENTEL – บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา , ERW – บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป, AOT – บมจ.ท่าอากาศยานไทย - กลุ่มโรงไฟฟ้าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้ประโยชน์จากโครงการ EEC ได้แก่
BGRIM – บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ - กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่
CK – บมจ.ช.การช่าง, STEC – บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น - กลุ่มพลังงานที่จะได้ประโยชน์หากราคาน้ำมันไม่ผันผวนมาก ได้แก่
PTT – บมจ.ปตท.
สรุป
แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องดีให้เงินต่างชาติไหลเข้ามาไทยมากขึ้นจนไตรมาส 1 ปี 2019 บล.กสิกรไทยมองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะขึ้นถึง 1,650 จุด และมองว่าปีนี้ถ้าหุ้นแตะ 1,400 จุดก็น่าซื้อหุ้นเพิ่มในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ธนาคาร ค้าปลีก กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว พลังงาน ก่อสร้าง
Jantra เห็นแต่ลงแล้วลงอีก ยังจะมีหวังอยู่รึ
19 ม.ค. 2562 เวลา 06.04 น.
Teerawat เลอะเทอะ
19 ม.ค. 2562 เวลา 02.13 น.
เปิ้ล แนะนำไปก่อนพอไม่เป็นตามคาดก็ออกคำแนะนำใหม่ให้ผู้ลงทุน
19 ม.ค. 2562 เวลา 12.48 น.
POM ให้แตะ 1600 จุดก่อนเถอะ
19 ม.ค. 2562 เวลา 03.50 น.
สัมมนาออนไลน์ฟรี หากคุณต้องการเรียนรู้การทำออนไลน์ในยุค 4.0 คุณจะเห็นถึงอิสรภาพทางการเงิน มีเวลาท่องเที่ยวตามที่คุณปรารถนา ลองมาเรียนรู้ด้านการทำออนไลน์ ลงทะเบียนตามลิงค์นี้ https://successbusiness123.weebly.com
19 ม.ค. 2562 เวลา 07.52 น.
ดูทั้งหมด