เปิด 11 อันดับประกันชีวิต ให้ผลตอบแทนสูงสุด ที่คนซื้อควรรู้ก่อนทำประกัน แนะก่อนซื้อควรถามตัวแทนประกันถึงค่า IRR พบคนไทยซื้อเพราะคนใกล้ตัวทำธุรกิจประกันหรือเป็นตัวแทนขาย แต่ไม่รู้เงื่อนไขประโยชน์ที่จะได้รับจริง
สารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อและเลขาธิการ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ผลการทดสอบซื้อประกันชีวิต 11 รายจาก 22 บริษัท แต่ครองส่วนแบ่งการตลาด 93% พบว่าประกันชีวิตที่ได้ค่า IRR คุ้มค่ากับผู้บริโภคมากสุดดังนี้
*อันดับ 1.อาคเนย์ประกันชีวิต แบบประกันทรัพย์กาญจนา ค่า IRR 2.23% *
*อันดับ 2.เมืองไทยประกันชีวิต ค่า IRR 1.64% *
อันดับ 3.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต แบบTreasure+(สะสมทรัพย์25ชำระ15) ค่า IRR 1.17%
*อันดับ5.ไทยประกันชีวิต แบบประกันธนทรัพย์ 20/20(มีเงินปันผล) ค่า IRR 1.13% *
*อันดับ6.กรุงไทย-แอกซ่า แบบประกันสมาร์ท เซฟเวอร์(20SS) ค่า IRR 0.46% *
*อันดับ7.พรูเด็นเชียล แบบประกันสะสมทรัพย์ 3 ค่า IRR 0.34% อันดับ8.ไทยสมุทรประกันชีวิต แบประกันไทยสมุทรคุ้มได้เต็ม ค่า IRR 0.34% *
*อันดับ 9.อลิอันซ์ อยุธยา แบบประกันมาย ดับเบิล พลัส 25/20 ค่า IRR 0.07% *
*อันดับ10.เอฟดับบลิวดี แบบประกันสะสมทรัพย์ 100 เงินคืน 2% 20/20 ค่า IRR -0.42% *
อันดับ 11.กรุงเทพประกันชีวิต แบบประกันกรุงเทพ200 ค่า IRR -2.53%
ตัวชี้วัดคิดจากค่า IRR หมายถึง อัตราลดค่า (Discounted Rate) หรือ อัตราผลตอบแทนภายใน(Internal Rate of Return) จากสูตรดอกเบี้ยทบต้น แต่ไม่ได้คำนวนถึงเงินเฟ้อภายนอก
กรณีตัวอย่างที่ยกมานั้น อายุ 35 ปี เริ่มทำงานมีรายได้และมองถึงความมั่นคงของตนเอง ทุนประกัน 200,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 20-25 ปี และชำระเบี้ยประกันช่วง 15-20 ปี
สิ่งสำคัญของผู้บริโภคคืออย่างน้อยควรถามตัวแทนประกันว่าค่า IRR ของบริษัทเท่าไหร่ ซึ่งควรมากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆด้วย ทั้งคุณภาพการให้บริการ สาขาที่ใกล้เคียง การดูแลหลังการขาย
"พบว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้ซื้อเพราะตนเอง แต่เป็นการช่วยซื้อกับคนใกล้ตัวที่ทำธุรกิจนายหน้าขายประกันชีวิต"
ด้าน ผศ.ประสาท มีแต้ม กรรมการผู้เชี่ยวชาญ ด้านบริการสาธารณะ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ชี้แจงว่าปัญหาการซื้อประกันในประเทศต่างจากในต่างประเทศคือ หากผู้บริโภคต้องการซื้อเพียงประกันสุขภาพ แต่ไม่สามารถซื้อได้ ต้องไปทำประกันชีวิตก่อนถึงจะสามารถทำประกันสุขภาพได้
มีข้อมูลบอกว่าคนเราส่วนใหญ่จะป่วยจนเข้าโรงพยาบาล คือ 5 ปีแรกของชีวิต กับ 5 ปีสุดท้ายของชีวิต ฉะนั้น ปัจจัยแรกที่เราควรคำนึงถึงคือการทำประกันชีวิตในสัญญาหลักว่าได้ผลประโยชน์มากน้อยขนาดไหน
"แต่ประกันสุขภาพที่ทำกันปีต่อปี ซึ่งเราจะไม่ได้เงินคืน เพียงแค่มาชักชวนให้เราหลงเป็นเด็นที่จะคิดถึงความคุ้มค่า"
นฤมล เมฆบริสุทธิ์ อนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคารคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน กล่าวว่าผู้ประกอบการต้องถามถึงโรคร้ายแรงก่อน พร้อมกับชี้แจงเงื่อนไขว่ามีอะไรบ้าง เพราะในปัจจุบันธนาคารเข้ามาเป็นผู้ประกอบการประกันภัยจำนวนมาก การกู้ซื้อสินทรัพย์ต่างๆกับธนาคารก็ทำให้ได้ประกันมาด้วย
เช่น ผู้บริโภคไปทำบัตรเอทีเอ็มกับธนาคารต่างๆ แต่ได้ประกันมาด้วย แต่เมื่อนำไปใช้จริงกลับถูกปฎิเสธ เพราะเงื่อนไขไม่ตรล เนื่องจากไม่ทราบเงื่อนไขที่มาพ่วงมา
ข้อสำคัญที่ผู้บริโภคควรทำ คือการตรวจสอบรายละเอียดก่อนเซ็น หากเราเป็นโรคเบาหวาน ความดัน เราต้องบอกเขาไปเลยเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อกันไม่ให้ถูกบอกล้างสัญญาภายหลัง หรือมีกรณีขีดแย้งใดๆเราจะได้มีข้อโต้แย้งได้
สำหรับปัญหาที่พบมากที่สุด คือ สมัครทำประกันนั้นทำได้ง่าย แต่การยกเลิกทำได้ยาก ปี 59-60 มีการร้องเรียนถึงการโทรมาเชิญชวนสมัครประกันชีวิต และทำการสมัครให้ทันที
Jum+Bimm 😗😙😚😘 คิดง่ายๆ ถ้าเงินคืนมากกว่าเบี้ยที่จ่าย IRR ไม่ควรติดลบหรือป่าวค่ะ แต่รู้สึกว่าจะคิดIRR บางแบบ ไม่ถูกต้อง แล้วจะเชื่อบทความนี้ได้อย่างไรว่ามีความเป็นกลางในการวิเคราะห์
19 ก.ย 2561 เวลา 01.36 น.
โอ๊ต Sarunpon NT696 ทั้ง DJ ทั้งนักข่าว ช่วยขายของกันใหญ่ IRR - ลบ แล้วมันน่าซื้อตรงไหน ทั้งที่บอกว่าควรได้มากกว่าเงินฝาก ปี 59-60 ก็ร้องเรียนเยอะจากปลพวงแบงค์กดดันให้พนัดงานทำยอด จนขายผิดเงื่อนไข ใช้จริงไม่ได้ตามที่เข้าใจ ตามเนื้อข่าวนั่นแหละ
18 ก.ย 2561 เวลา 16.43 น.
Direk J 789 เป็นโรคงอมแงมเลยเขาไม่รับว่ะ
19 ก.ย 2561 เวลา 02.46 น.
Vinit Leeaphorn น่าจะมีการสำรวจลำดับความซื่อสัตย์นะ
19 ก.ย 2561 เวลา 01.14 น.
มีแต่ข่าวโฆณา .
เ
18 ก.ย 2561 เวลา 16.11 น.
ดูทั้งหมด