ไอที ธุรกิจ

ชี้ทิศทางเงินบาทอ่อนค่า ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นตามแรงหนุนกลุ่มพลังงาน

ฐานเศรษฐกิจ
อัพเดต 05 เม.ย. 2563 เวลา 03.42 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2563 เวลา 03.32 น. • Thansettakij

 

ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่างวันที่ 6-10 เมษายน 2563 อยู่ที่ 32.70-33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนมีนาคมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 และมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อภาคเอกชนของธปท. ตลอดจนมาตรการรับมือความเสี่ยงจากโควิด-19 ของหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนเมษายน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 มีนาคม นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนมีนาคม ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศออกมาด้วยเช่นกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,115 และ 1,100 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,155 และ 1,170  จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนมี.ค. การพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะ 3 ของครม. เพื่อบรรเทาผลกระทบไวรัสโควิด-19 มาตรการบรรเทาผลกระทบสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ของประเทศชั้นนำ รวมถึงการจัดประชุมฉุกเฉินของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของจีน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อนึ่ง เมื่อวันที่ 3เมษายน ที่ผ่านมา เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.97 หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 17 เดือนที่ 33.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ เทียบกับระดับ 32.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 มี.ค.) ขณะที่หุ้นไทยปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,138.84 จุด เพิ่มขึ้น 3.55% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,852.12 ล้านบาท ลดลง 9.89% ส่วนดัชนี MAI เพิ่มขึ้น 2.62% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 220.22 จุด   

ดูข่าวต้นฉบับ