ในขณะที่“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังทุ่มเททุกสรรพกำลังไปกับการแก้ไขวิกฤติที่เกิดจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เผชิญกับแรงกดดันรอบทิศรอบทาง จนทำให้ผู้นำรัฐบาลถึงกับผ่ายผอม อยู่นั้น
กลับพบว่าอีกด้านหนึ่ง แนวรบทาง “กองทัพ” กลับสร้างกระแสที่ออกมาในทางที่เป็น “ลบ” จนทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีรายงานว่า “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมเสนอครม. ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการโครงการจัดหาเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 6,100 ล้านบาท
แน่นอนว่าเม็ดเงินงบประมาณมูลค่า 6พันล้านบาทที่จะถูกจัดสรรไปเพื่อการซื้อเรือยกพลขึ้นบก มีขึ้นในยามที่บ้านเมือง กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติอันเนื่องมาจาก “พิษโควิด-19”ส่งผลกระทบไปยังภาวะเศรษฐกิจที่คนไทยทั้งประเทศ ทุกภาคส่วนต้องรับมือ ชนิดที่เรียกว่า “หนักหนาสาหัส” กันถ้วนหน้า
เมื่อมาตรการต่างๆที่ออกมาโดยรัฐบาล ล้วนมุ่งที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เพื่อไม่ให้สถานการณ์ของประเทศไทย เดินไปในทิศทางเดียวกับหลายประเทศในโซนยุโรป ที่มีอัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งไปแตะหลักแสน มีผู้เสียชีวิต หลักหมื่นราย
เมื่อสังคมมีผู้ป่วยรอรับการรักษา จนล้นโรงพยาบาล ย่อมกระทบกับระบบสาธารณสุข ที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ รวมทั้งหากบุคลากรทางการแพทย์ ต้องเจ็บป่วย ไปด้วย จะยิ่งทำให้แนวโน้มการแก้ไขปัญหาเลวร้ายตามมาในที่สุด
กว่าที่การประชุมครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 จะมีความชัดเจนออกมาว่า กระทรวงกลาโหม ได้ขอถอนวาระการจัดซื้อเรือยกพลขึ้นบก ออกไปก่อน พร้อมทั้ง“พล.ร.ท. ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์” โฆษกกองทัพเรือ ออกมาชี้แจงว่า ไม่ใช่เป็นการขออนุมัติต่อเรือยกพลขึ้นบก เพราะโครงการนี้ผ่านการอนุมัติ และมีการทำสัญญาไปตั้งแต่เดือนพ.ย.2562 แต่เรื่องที่เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรือ เช่น การส่งคณะกรรมการไปตรวจแบบเรือ และการเตรียมส่งทหารไปฝึก เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
“กองทัพเรือไทยทำสัญญาต่อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ลำใหม่จากจีน เพื่อเป็นเรือพี่เลี้ยงให้เรือดำน้ำ และเพื่อภารกิจยกพลขึ้นบก บรรเทาสาธารณภัยเสริมภารกิจเรือหลวงอ่างทอง ด้วย โดยมีพล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รองผบ.ทร.
โดยในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษากองทัพเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯลงนาม กับประเทศจีนในสัญญาการต่อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่จากจีน 1 ลำ เมื่อเดือนพ.ย.2562 ในงบประมาณ 6,100 ล้านบาท”
กว่าที่กองทัพเรือจะออกมาชี้แจง ก็ดูเหมือนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ดังเซ็งแซ่ กระแทกทั้ง“กองทัพ” กระทบไปถึง บิ๊กตู่ ในฐานะ“รมว.กลาโหม” ที่นั่งกำกับดูแลทั้งกองทัพและครม.เข้าเต็มเปา งานนี้ได้กลายเป็น “จุดอ่อน” ช่องโหว่เล็กๆที่ทำลาย “คะแนน” ของตัวพล.อ.ประยุทธ์ ไปอย่างน่าเสียดาย
จนมีเสียงสะท้อนออกมาว่า คนที่ทำให้รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ “เสียรังวัด” กลับกลายเป็น “กองทัพ” ขุมข่ายกำลังที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ กำกับดูแลนั่นเอง !!
ไอ้ลูกหมาเอ้ยยยมึงจะซื้อเผาศพพ่อมึงรึไง
31 มี.ค. 2563 เวลา 17.53 น.
ธี 6 พันล้าน เอาไปรบกับ covid พ่อมึงหรอ
เกรงใจปชช.ดูเวลาหน่อย เกินจะทนกับพวกมึงจริงๆ
ถนนคงเต็มวันที่ covid มีวัคซีน...
31 มี.ค. 2563 เวลา 17.29 น.
PUnakhonbelieve เค้าให้กักตัวทุกคนตั้งแต่ผีน้อยเข้าไทยแล้วไม่ทำ เป็นไงรับผิดชอบไหวหรอ
31 มี.ค. 2563 เวลา 17.36 น.
ต้น ไม่รู้ว่าเวลาไหนควรทำเรื่องไรดีแล้วที่มีคนไร้สมองแบบนี้
31 มี.ค. 2563 เวลา 18.29 น.
พ่อมึงอยากได้เหรอ??เรือยกพล ขึ้นบก ??6พันล้าน เอาไป เติม ให้แพทย์ ให้โรงพยาบาล สู้กับโรคระบาด จะดีกว่าไหม # ไอ้ตัวชั่วพวกนี้ โดนด่าทุกวัน มันยังไม่รู้จักคิด
31 มี.ค. 2563 เวลา 18.13 น.
ดูทั้งหมด