ทั่วไป

ยันไม่ได้ไล่ออก! เจ้าของร้านเครื่องปั่นดินเผา โต้พ่อตกงานพาลูกเดินเท้าเข้าระยอง

สยามรัฐ
อัพเดต 20 ต.ค. 2562 เวลา 13.18 น. • เผยแพร่ 20 ต.ค. 2562 เวลา 13.09 น. • สยามรัฐออนไลน์

จากกรณี นายสมปอง สีสังข์ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ได้ให้ข่าวว่าก่อนหน้านี้ตนเองนั้นเป็นลูกจ้างทำงานอยู่ที่ร้านเครื่องปั้นดินเผาในเขตพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยที่ตนกับลูกชายอีก 2 คนนั้น ได้พักอาศัยในที่พักของที่ทำงาน ซึ่งลูกชายอายุ 6 ปี เรียนหนังสืออยู่ในพื้นที่ ส่วนภรรยาของตนนั้นได้เลิกรากันไปนานแล้วต่อมาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปทำธุระและกลับมาทำงานไม่ทัน จนนายจ้างได้สั่งให้ออกจากงาน และได้ให้ออกจากที่พักอาศัย ตนจึงตัดสินใจหอบข้าวของ และพาลูกทั้ง 2 คนเดินเท้ามาจากเขตถนนข้าวหลาม จ.ชลบุรี เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง ซึ่งเดินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม ตลอดการเดินทางมาไม่มีเงินติดตัว ตนกับลูกๆ ก็ยังไม่ได้กินข้าว แต่อดทนเดินต่อ ซึ่งตนเองไม่ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือไปขอเงินใครซื้ออาหารแต่อย่างใดตามที่ได้มีการ นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ล่าสุดในวันนี้ 20 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายนภัค วิวัฒนะ อายุ 20 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน เครื่องปั่นดินเผาว่า ตามที่มีข่าวออกไปนั้นทำให้ทางร้านเสียหาย ซึ่งนายสมปอง ให้ข้อมูลนักข่าวไม่เป็นความจริงโดยแต่งเรื่องทั้งหมดขึ้นมาและได้นำหลักฐานทั้งหมดที่มีไม่ว่าจะภาพจากกล้องวงจรปิด สมุดการจ่ายเงิน พร้อมทั้งภาพห้องพักของนายสมปอง ที่กล่าวอ้างว่าทางร้านพังประตูเข้าไปนั้น ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนายสมปอง ได้พาลูกๆ ทั้งหมดขี่รถ จยย.ที่ขอยืมจากทางร้านไปเที่ยวชายหาดบางแสน แต่กลับพากันขี่รถ จยย. มายังเมืองพัทยา ก่อนที่จะมีคนเห็น แม่ของตนจึงส่งข้อความไปบอกแค่ว่าไม่ชอบคนโกหก ต่อมานายสมปอง ได้เก็บเสื้อผ้าและเดินออกจากร้านไป ก่อนที่จะติดข้อความไว้ที่โต๊ะทำงานของที่ร้านระบุข้อความว่า เจ๊ผมขอหยุดงานอีกหนึ่งวัน ส่วนโทรศัพท์ที่ร้านให้ใช้นั้นได้ทำหล่นบนถนนรถเหยียบแตกใช้งานไม่ได้แล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จนกระทั่งมาเห็นข่าวว่านายสมปอง ถูกทางร้านไล่ออกนั้น จึงขอออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งทางร้านขอยืนยันว่าตามที่เป็นข่าวนั้นไม่เป็นความจริง จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวของตน และฝากถึงนายสมปอง ด้วยว่าหากรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ก็อยากให้ออกมาขอโทษหรือรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป จนทางบ้านถูกคนในโลกโซเซียลเข้ามารุมด่าอย่างรุนแรงเช่นนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 16
  • Lek
    สรุป โลกโซเชียลเชื่อถืออะไรไม่ได้เลย ใครนึกอยากจะกุข่าวออกมา แล้วคนก็เชื่อ กรรมจริงๆ
    20 ต.ค. 2562 เวลา 13.42 น.
  • Natalie ณัฐณาฬี
    เหรียญมีสองด้าน มีขาวก็มีดำ ทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่มีสองด้านเสมอ!
    20 ต.ค. 2562 เวลา 13.51 น.
  • JET
    เอาจริงๆไม่เชื่อแต่แรกแล้วอ่ะ ได้แต่ฟังหูไว้หู เพราะเราไม่รู้ความจริงมันเป็นอย่างไร อย่าออกตัวแรงมากพวกโซเชียล
    20 ต.ค. 2562 เวลา 14.04 น.
  • MINDFULNESS
    คนที่ทำย่อมรู้ตัวดี คนเราหลอกใครก็ได้ยกเว้นตัวเอง
    20 ต.ค. 2562 เวลา 13.45 น.
  • เด็กเลี้ยงแกเอีกราย
    20 ต.ค. 2562 เวลา 13.38 น.
ดูทั้งหมด