สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ถูกตำรวจเรียกตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และขอตรวจปัสสาวะ ในขณะที่กำลังนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อกลับที่พัก แต่เนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ได้พกบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย และไม่ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะ โดยเห็นว่าตำรวจไม่มีสิทธิ์ขอตรวจบัตรประชาชน และไม่มีสิทธิ์ตรวจปัสสาวะ จึงเกิดการโต้เถียงกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร ชายคนดังกล่าวจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมด และได้นำไปโพสต์ขอความเป็นธรรมจากสื่อสังคมออนไลน์จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ตำรวจมีสิทธิ์ขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และมีอำนาจยึดบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไว้หรือไม่
ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชนพุทธศักราช 2526 กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
แม้หลักกฎหมายข้างต้นจะกำหนดให้ผู้ที่อายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี จะต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนก็ตาม แต่กฎหมายกำหนดให้บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่จะต้องพกบัตรประชาชน เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงาน ดังนั้นผู้ที่มีอายุระหว่าง 7 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่ได้พกบัตรประชาชนก็ไม่มีความผิด
ส่วนผู้ที่อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ไม่สามารถแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้เจ้าพนักงานตรวจสอบได้ มีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน มาตรา 17 ผู้ถือบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ผู้ใดไม่สามารถแสดงบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ เมื่อเจ้าพนักงานตรวจบัตรขอตรวจ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท
ส่วนในกรณีที่เจ้าพนักงานหรือตำรวจยึดบัตรประจำตัวประชาชน โดยไม่มีเหตุสงสัยตามสมควร และชอบด้วยเหตุผล ไม่แจ้งข้อกล่าวหา และไม่ดำเนินคดีอย่างใดๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เป็นเจ้าของบัตร กรณีนี้จึงถือว่าเป็นการยึดเอาบัตรประชาชนไว้โดยลุแก่อำนาจ และมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้เป็นเจ้าของบัตรได้รับความเดือดร้อนเสียหาย การกระทำของเจ้าพนักงานหรือตำรวจจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เป็นเจ้าของบัตร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 15366/2557
จากอุทาหรณ์ครั้งนี้ทำให้ชายคนดังกล่าวนั้นต้องถูกเชิญตัวไปสถานีตำรวจเพื่อเปรียบเทียบปรับกรณีไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งมีตัวอย่างหลายกรณีที่มีการโต้เถียงกับเจ้าพนักงานหรือตำรวจ และบันทึกภาพเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน แต่มีการใช้คำพูดที่รุนแรงจนทำให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอื่นๆ ตามมา เช่น ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เป็นต้น
ดังนั้น การโต้เถียงเจ้าพนักงาน หรือตำรวจ ในขณะปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นผลดีนะครับ ทางที่ดีควรปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน หรือตำรวจไปก่อน หากมีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง หรือสงสัยก็ปรึกษาผู้รู้กฎหมายครับ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลล์มาหาผมที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ หรือ Facebook: ทนายเจมส์ LK Instagram : james.lk
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- สามีค้ำประกันหนี้ให้คนอื่น ภรรยาต้องรับผิดชอบร่วมหรือไม่
- ทำผิดกฎจราจร ตำรวจไม่ยึดใบขับขี่ มีเสียวกว่าโดนตัดแต้ม พึงระวัง อย่าห้าวเป้ง
- ยุติธรรมชาติไทย สะท้อนความมั่นคง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
ร.ต.อ.สมทัย คงกระพัน ตำรวจทุกนาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ มีอำนาจขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชนได้อยู่แล้ว หากคุณไม่พกพาบัตรฯ. หรือ ไม่ให้ตรวจ บัตรฯ มันก็ผิดเต็มๆ แต่โทษมันน้อย คือแค่ปรับ. อย่างเดียว มันเป็นความผิดลหุโทษ ถามนักกฎหมายได้เลย.
15 ต.ค. 2562 เวลา 02.51 น.
Kai เป็นข่าวรู้ที่ดีและมีสาระสำหรับประชาชนชาวบ้านตาดำๆครับ
สมัยนี้อยู่ยากถ้าคุณๆไม่รู้ กฎหมาย
15 ต.ค. 2562 เวลา 02.53 น.
... ห้าวนัก จัดความรู้ให้มันหน่อย
15 ต.ค. 2562 เวลา 02.27 น.
ชาญ ถ้าตำรวจไม่พกบัตรขัาราชการผิดใหม
15 ต.ค. 2562 เวลา 05.04 น.
TT กฎหมายเขามีไว้ให้รักษา. ไม่ใช่เอาไว้แหก
15 ต.ค. 2562 เวลา 04.00 น.
ดูทั้งหมด