ไลฟ์สไตล์

คุณหมอเตือน! 'แบคทีเรียกินเนื้อคน' มีโอกาสเกิดกับใครก็ได้

Health Addict
อัพเดต 08 พ.ย. 2562 เวลา 10.20 น. • เผยแพร่ 08 พ.ย. 2562 เวลา 10.20 น. • Health Addict
เมื่อเร็วๆ นี้เราอ่านข่าวที่มีนักแสดงอย่างคุณบอย ปกรณ์ และคุณ แจ๊ค ไรเดอร์ ที่ถูกแมลงกัดที่ประเทศญี่ปุ่น และตรวจพบว่าเป็นโรค ”แบคทีเรียกินเนื้อคน” หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “โรคเนื้อเน่า” เลยทำให้เราไปศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับฤทธิ์ของมัน ซึ่งบอกเลยว่าไม่ธรรมดา

  จากข่าวอาการป่วยของบอย ปกรณ์ และแจ๊ค ไรเดอร์ ที่ถูกแมลงกัดที่ประเทศญี่ปุ่น จนตรวจพบว่าเป็นโรค ”แบคทีเรียกินเนื้อคน” หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “โรคเนื้อเน่า” ถึงขั้นต้องผ่าตัดเอาเนื้อที่ตายออก บอกเลยว่าแค่คิดภาพตามก็ขนลุกไปหมดแล้ว และถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะเคยโดนแมลงเล่นงานกันมาบ้างจนเป็นตุ่มหรือแผลตามร่างกาย ที่ไม่กี่วันก็หายไปเอง งานนี้อาจจะต้องหันมาจูนสติกันใหม่อีกครั้ง เพราะวันหนึ่งเราเองก็อาจโดนโรคนี้เล่นงานได้ง่ายๆ เหมือนกัน
เราเลยถือโอกาสไปขอความรู้จาก นพ. วิชิต ประสานไทย แพทย์อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพญาบาล พญาไท 1 ถึงเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ว่ามันมีอาการอย่างไรบ้าง และพอจะมีวิธีป้องกันยังไงได้บ้าง
  "แบคทีเรียกินเนื้อคน" โรคนี้เกิดจากอะไร? คุณหมอบอกว่าโรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus ที่เมื่อเชื้อเข้าสู่เนื้อเยื่อโดยผ่านทางแผลที่ผิวหนังแล้ว เชื้อจะเจริญอย่างรวดเร็วและหลั่งสารพิษ (Toxin) ออกมา ซึ่งมีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อ มีผลทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นไม่พอ ทำให้กล้ามเนื้อตาย "เชื้อโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคทั้งชนิดที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น คลอสติเดียม และเชื้อชนิดใช้ออกซิเจน เช่น สแตปฟิโลคอคคัส สเตรปโตคอคคัส ชนิดที่สามารถสร้างสารพิษได้ โดยอาการจะมีผิวหนังบวมแดงร้อน ถ้าเชื้อลงลึกกินทั้งชั้นผิวหนัง จะพบตุ่มพุพอง และค่อยๆ เปลี่ยนสีเป็นสีม่วง และถ้าเนื้อตายจะกลายเป็นสีดำ บางรายอาจจะต้องตัดขา หรืออาจจะมีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ไข้สูง และทำให้เสียชีวิตได้    มีวิธีสังเกตยังไง…ว่าเรากำลังโดนโรคนี้เล่นงานอยู่  คุณหมอได้บอกถึงอาการเบื้องต้นของโรคนี้เพื่อเราได้ระวังและสังเกตตัวเอง เอาเป็นว่าถ้าใครมีอาการ ไข้สูง หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออก เป็นลม ช๊อคหมดหมดสติก็ควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าอาการของโรคจะแบ่งออกตามระยะเวลาที่เกิด 

  • วันที่ 1-2 จะมีอาการปวดบริเวณที่เกิดโรค บวม และแดง ลักษณะจะคล้ายกับผิวหนังอักเสบหรือไฟลามทุ่ง แต่ความพีคคือโรคเนื้อเน่าจะเกิดในชั้นที่ลึกกว่าซึ่งมองไม่เห็น โดยอาการปวดจะรุนแรงมากขึ้นซึ่งไม่สอดคล้องกับอาการทางผิวหนังที่ตรวจพบ ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัวหัวใจเต้นเร็ว มีลักษณะอาการขาดน้ำ
  • วันที่ 2-4  จะพบว่าบริเวณที่บวมจะกว้างกว่าบริเวณผิวหนังที่แดง มีผื่นพุพองซึ่งบ่งบอกว่าผิวหนังขาดเลือด และมีเลือดออก ผิวมีสีออกคล้ำเนื่องจากผิวหนังเริ่มตาย เมื่อกดผิวจะพบว่ามีลักษณะแข็ง และไม่สามารถคลำขอบของกล้ามเนื้อได้ หรืออาจจะคลำได้กรอบแกรบใต้ผิวหนัง ซึ่งอาการนี้เกิดจากการมีแก๊สใต้ผิวหนัง
  • วันที่ 4-5 จะมีความดันโลหิตต่ำ และมีภาวะโลหิตเป็นพิษ ผู้ป่วยจะไม่ค่อยรู้สึกตัวนี่แหละ! วิธีป้องกันเมื่อมีแผลเกิดขึ้นแล้ว ส่วนวิธีการป้องกันนั้นคุณหมอเน้นเรื่องของการดูแลแผล เพราะจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อแบคทีเรีย
  • เมื่อเกิดแผล รีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดทันที
  • ทำความสะอาดแผลทุกวัน และใช้อุปกรณ์ทำแผลที่สะอาด
  • ระหว่างที่มีแผลควรหลีกเลี่ยงการใช้สระน้ำ และอ่างอาบน้ำร่วมกับผู้อื่น
  • ล้างมือทุกครั้ง ก่อนและหลังสัมผัสแผลบริเวณที่ติดเชื้อได้ง่าย โรคนี้รุนแรงถึงขั้นตายได้จริงหรอ? คุณหมอเตือนว่าระดับความรุนแรงของโรคนี้ถ้ารักษาแผลไม่สะอาด ดูแลบาดแผลได้ไม่ดี ก็อาจจะมีความรุนแรงมาก อันตรายถึงชีวิตได้ หรือเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ การติดเชื้ออาจจะทำให้เส้นประสาท กล้ามเนื้อและหลอดเลือดถูกทำลาย อาจจะต้องตัดอวัยวะทิ้งเลยก็มี เอาเป็นว่าเราก็ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลแผลที่เกิดขึ้นให้ดี เพราะโรคนี้สามารถเกิดกับส่วนไหนของร่างกายก็ได้ เพียงแต่ที่พบบ่อยๆ จะเป็นบริเวณแขน ขา ฝีเย็บและลำตัว ซึ่งคนที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ักจะมีประวัติในการได้รับอุบัติเหตุมาก่อน เช่น ไปเที่ยวทะเลแล้วถูกก้างปลาตำ 
      แต่ถึงแม้ว่าโรคนี้อาจดูรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ถ้าเรารักษาแผลอย่างดีหรือถ้ามีอาการเบื้องต้นเข้าข่ายตามที่คุณหมอบอกก็ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด 
     
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • ทุกท่านอย่าได้ประมาท มีจริงๆครับ
    08 พ.ย. 2562 เวลา 12.57 น.
  • Book
    ถ้าไม่เกิดกับผม ผมคงไม่ใช่คน หัวข้อข่าวบ้าบอ
    08 พ.ย. 2562 เวลา 12.43 น.
ดูทั้งหมด