ธนาธร-อนาคตใหม่ ‘ตัดสิทธิ-ยุบพรรค-จำคุก?’

วันนี้เส้นทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำพรรคอนาคตใหม่ และ พรรคอนาคตใหม่ เดินมาถึงขอบเหวของชีวิตอีกครั้ง หลังจากที่ต้องปิดฉากหมดสภาพความเป็นส.ส.ไปจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาล รัฐธรรมนูญที่มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง กรณีถือครองหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ในวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ที่ห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ทำให้สมาชิกสภาพของนายธนาธรต้องสิ้นสุดลง นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 แต่ยังคงนั่งเก้าอี้“หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” อยู่เหมือนเดิม

กระทั่ง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรค 1 (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท เป็นการกระทำอันฝ่าฝืนตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่า ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

กลายเป็นดาบที่กำลังไล่ล่าทั้งตัวนายธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ให้ได้ลุ้นระทึก เพราะถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผิดจริงตามข้อกล่าวหาของกกต.ก็จะสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 (3) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งประกอบด้วย

1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถูกคำสั่งศาลรธน.ให้ต้องพ้นสภาพความเป็น ส.ส.ไปเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล 3.นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 4.นายชำนาญ จันทร์เรือง 5.พล.ท.พงศกร รอดชมภู 6.นางสาวพรรณิการ์ วานิช 7.นายไกลก้อง ไวทยการ

8.นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ 9.นายสุรชัย ศรีสารคาม 10.นายเจนวิทย์ ไกรสิงห์ 11.นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ทั้งหมดเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่อีก 4 ราย ที่ประกอบด้วย 1.นายชัน ภักดีศรี 2.นายสุนทร บุญยอด 3.นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร และ 4.นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ ไม่ได้เป็น ส.ส.ของพรรค

คดีนี้เงินกู้ร้อนฉ่าขึ้นมาหลังจากที่นายธนาธร หัวขบวนพรรคอนาคตใหม่ไปบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย(FCCT) เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ว่า​ ได้ให้พรรคยืมเงิน 110 ล้านบาทเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมของพรรคช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ต่อมานางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคก็ให้สัมภาษณ์สื่อ ยืนยันว่า พรรคทำสัญญากู้ยืมเงินกับนายธนาธรจริง กระทั่งปรากฏหลักฐานชัดเจนเมื่อนายธนาธร​ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)​ กรณีเข้ารับตำแหน่งส.ส.ว่า​ ได้ให้พรรคกู้ ยืมเงินจำนวน​ 191​ ล้านบาท โดยทำเป็นสัญญา 2 ฉบับ

ฉบับแรกทำเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 จำนวน 161.2​ ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ซึ่งในสัญญาได้กำหนดเงื่อนไขให้พรรคต้องชำระหนี้คืนให้กับนายธนาธรพร้อมดอกเบี้ยภายใน 3 ปี แบ่งเป็น​ ปีที่ 1 ชำระเงินต้น 80 ล้านบาท ปีที่ 2 ชำระเงินต้น 40 ล้านบาท และปีที่ 3 ชำระเงินต้น 41.2 ล้านบาท แต่หากผิดชำระจะมีค่าปรับวันละ 100 บาท​

โดยสัญญานี้พรรคอนาคตใหม่ได้รายงานมาว่า ปัจจุบันได้ชำระแล้ว 26.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 งวดห่างกันครั้งละ 10 วัน โดยชำระเป็นเงินสดทั้งหมด อีกฉบับทำเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 วงเงิน 30​ ล้านบาท ดอกเบี้ย 2% ต่อปี โดยทั้ง 2 ฉบับ มีชื่อ​นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรคอนาคตใหม่ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค เป็นผู้รับสัญญาผู้กู้ เป็นเหตุให้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบสัญญากู้เงินดังกล่าว

ดาบสำคัญที่อยู่ในมือ กกต. เวลานี้ อีกเรื่อง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร พ้นจากความเป็นส.ส. เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ จากคำวินิจฉัยดังกล่าวส่งผลให้ต้องมีการดำเนินคดีอาญา ตาม มาตรา 151 ที่กำหนดโทษไว้ว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการ เมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี

โดย กกต.ต้องเสนอเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้อยู่ ระหว่างการสอบสวนสืบสวนของ กกต.

ขณะที่มีดาบกำลังจ่อคอนายธนาธร และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่อยู่ตอนนี้ ที่เข้าสู่กระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ คือ กรณีที่ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรค ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และข้อบังคับพรรคที่เขียนในลักษณะไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 และให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

นี่เป็นเพียงไม่กี่คดีทางการเมืองที่กำลังไล่ล่า“ธนาธร” และ“พรรคอนาคตใหม่” ให้เดินมาถึงจุดพลิกผันครั้งสำคัญอีกครั้ง จะ“ตัดสิทธิ-ยุบพรรค-จำคุก” หรือไม่ คำตอบสุดท้ายอยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลเท่านั้น

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,531 วันที่ 15-18 ธันวาคม 2562