วันที่ 10 ธ.ค. ของทุกปี เป็น “วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ” ที่จัดตั้งโดยหน่วยงานของรัฐบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทีมข่าวเวิร์คพอยท์จึงรวบรวม 3 อันดับแรกของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในเพศชาย-เพศหญิง มาให้ดูกัน
เพศชาย
อันดับ 1 มะเร็งปอดแม้ตัวเลขของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอดในประเทศไทย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ แต่จำนวนของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนไทยจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นประจำ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปอดได้ในทุกช่วงวัย อย่างไรก็ตามหากลดพฤติกรรมการสูบบุหรี่ลงได้ อีกทั้งระมัดระวังอาหารประเภท ปิ้ง ย่าง ที่โดนความร้อนสูง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปอดได้ค่อนข้างมาก
อันดับ 2 มะเร็งตับ
โรคมะเร็งตับสาเหตุที่พบบ่อยมากที่สุดมาจากโรคไวรัสตับอักเสบ ที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าตัวเองเป็น เพราะโรคนี้จะไม่ค่อยแสดงอาการอะไร ทำให้คนที่เป็นไวรัสตับอักเสบ มีโอกาสที่จะเป็นตับแข็งได้ตั้งแต่อายุยังน้อยจนกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด เพราะฉะนั้นหากรู้ว่าคนในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นไวรัสตับอักเสบ ก็ควรรีบไปตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ
อันดับ 3 มะเร็งท่อน้ำดี
โรคมะเร็งท่อน้ำดีส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพยาธิใบไม้ ซึ่งพยาธิใบไม้จะพบได้ในคนที่มีพฤติกรรมชอบรับประทานของดิบ เช่น ปลาร้า ปลาดิบที่เป็นปลาน้ำจืด วิธีป้องกันควรเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ ให้ปรุงสุกก่อนทุกครั้ง
เพศหญิง
อันดับ 1 มะเร็งเต้านม
ปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม มาจากการได้รับฮอร์โมนเพศหญิงในปริมาณมากเป็นเวลานาน เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด การฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้ไข่ตกสำหรับผู้หญิงที่มีบุตรยาก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านพันธุกรรมอีกด้วย ซึ่งมะเร็งเต้านมนั้นสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ง่ายๆ โดยการใช้มือคลำ หรือไปตรวจที่โรงพยาบาลเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป
อันดับ 2 มะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็งปากมดลูก เคยเป็นมะเร็งที่ผู้หญิงไทยเป็นเยอะที่สุด แต่ปัจจุบันมีจำนวนลดลง เพราะผู้หญิงไทยมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น ทำให้หลายคนเปิดใจกล้าไปตรวจมะเร็งปากมดลูกที่โรงพยาบาล และในปัจจุบันยังมีวัคซีนที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ที่สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-12 ปี ซึ่งวัคซีนตัวนี้จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ในอนาคต
อันดับ 3 มะเร็งลำไส้
ผลการวิจัยพบว่า คนที่รับประทานผัก ผลไม้ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้น้อยกว่าคนที่ชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งคนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจอุจจาระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อดูว่ามีเลือดปนมากับอุจจาระหรือไม่ นอกจากการตรวจหาเลือดในอุจจาระแล้ว การส่องกล้องลำไส้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถตรวจหามะเร็งลำไส้ได้ดีอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก :
อ. นพ.ธัช อธิวิทวัส สาขาวิชามะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
May รัตน์ ตั้งแต่จำความได้ ประชาชนแข็งแรงที่สุด ในยุคใช้ปุ๋ยขี้วัว ใส่ดูแลผักผลไม้ หลังจากอนุมัติสารเคมีนำเข้ามา คนป่วยเป็นมะเร็งมากขึ้น
10 ธ.ค. 2562 เวลา 13.17 น.
ไกลโคเซต 😢 เกษตรกรเลือได้ จะเป็นเกษตรกรหรือฆาตกร
10 ธ.ค. 2562 เวลา 13.22 น.
บางครั้งก็อยากจะคิดว่า ตวามเจ็บปวดทรมานจากโรคมะเร็ง เป็นโรคกรรมนะ เคยเห็นคนสูบบุหรี่ตั้งแต่วัยรุ่นจนแก่แต่ไม่เป็นมะเร็งปอด กลอดคอ หลอดลม คนไม่กินเหล้า ดูแลร่างกายอย่างดีแต่เป็นมะเร็งตับ ส่วนคนกินเหล้าหัวราน้ำ ไม่หยุดไม่หย่อน กลับไม่เป็น
10 ธ.ค. 2562 เวลา 13.32 น.
Duang ไม่คอยกินผักสมุนไพรกัน มะเร็งชอบถามหา
10 ธ.ค. 2562 เวลา 13.42 น.
... Nut.Ch ก้อนมะเร็ง ก็เหมือน ไส้กรอก เข้าไมโครเวฟ โดนไฟฟ้าช็อตแล้ว ไหม้เกรียม พอง ควรระวังอุปกรณ์ไฟฟ้า
10 ธ.ค. 2562 เวลา 14.56 น.
ดูทั้งหมด