ทั่วไป

'ฝุ่นพิษ' ในกกรุงเทพฯ-ปริมณฑลลด อากาศคลี่คลายเข้าสู่ฤดูร้อน เหนือ-อีสานยังอ่วม

MATICHON ONLINE
อัพเดต 17 ก.พ. 2562 เวลา 06.28 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2562 เวลา 06.28 น.

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า ปริมาณฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ลดลงจากเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ทุกพื้นที่ โดยมีค่าฝุ่นละอองเฉลี่ย 12-33 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยปริมาณฝุ่นละอองยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.ทุกพื้นที่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้ นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดี คพ. เปิดเผยว่า ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกำลังจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งหน่วยงานต่างต่างๆยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น ซึ่งเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์  คพ.ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจสอบตรวจจับรถควันดำตามมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว และ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดอนเมือง เรียกรถตรวจสอบควันดำรวม 179 คัน ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 129 คัน พบรถควันดำเกินมาตรฐาน 19 คัน และรถยนต์ขนาดเล็กตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 จำนวน 50 คัน ควันดำเกินมาตรฐาน 8 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวกับรถที่มีควันดำเกินมาตรฐานเป็นเวลา 30 วัน และยังดำเนินการตรวจสอบตรวจจับรถควันดำ ไปอย่างต่อเนื่อง

นายประลอง กล่าวว่า เพื่อสร้างความรู้ความเข้าในในเรื่องฝุ่น PM2.5 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) จัดเสวนาทางวิชาการ “สาเหตุและผลกระทบ PM2.5 ต่อความมั่นคงและสุขภาพของคนไทย” จัดโดยชมรมศิษย์เก่าหลักสูตรการบริหารจัดการความมั่นคงขั้นสูง (ศมส.) และได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรอภิปรายร่วมกับอธิบดีกรมอนามัย และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อเผยแพร่สาเหตุและผลกระทบของมลพิษทางอากาศอันเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่มีต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทย นอกจากนี้ ยังเป็นการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของชมรม ศมส. และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์แก่สังคม

อธิบดี คพ. กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กจะคลี่คลายและลดลงในช่วงนี้ ซึ่งนอกจากมลภาวะอากาศที่จะกลับเข้าสู่ฤดูร้อน แต่ด้วยการทำงานในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กของส่วนราชการ ทุกภาคส่วน เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) บก.จร. สตช. กรมการขนส่ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมฝนหลวง กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงคมนาคม ขสมก. ภาคเอกชนทุกฝ่าย รวมทั้ง 5 จังหวัดปริมณฑล ซึ่งทุกฝ่ายได้ทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็กในกรุงเทพฯและปริมณฑลอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงเป็นปัจจัยหลักอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ส่งผลทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝุ่นละอองขนาดเล็กจะลดลงในช่วงนี้ แต่หน่วยงานทุกหน่วยงานดังกล่าวก็ยังดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีให้ทุกฝ่ายเร่งรัดและป้องกันอย่างเต็มกำลังความสามารถรวมทั้ง ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ให้มีการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ให้เป็นวาระแห่งชาติ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้ นายประลอง กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาด้วยยูโร 5 (EURO 5) และระบุว่าน้ำมันบี 20 (B20) ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานและรับประกันจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยทั่วไป ซึ่งใช้ได้กับรถบรรทุกรุ่นเก่าเท่านั้น และการมีชนิดของน้ำมันมากเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนสูงขึ้น และสุดท้ายก็จะผลักภาระมาให้ผู้บริโภค ทำให้เราต้องจ่ายค่าน้ำมันที่แพงขึ้น นอกจากนี้ อนาคตหากน้ำมันปาล์มปรับราคาขึ้น แต่ปรับราคาน้ำมันไบโอดีเซลหน้าปั๊มไม่ได้ ก็ต้องน้ำเงินจากกองทุนน้ำมันไปอุดหนุน ซึ่งก็จะซ้ำรอยการอุดหนุนแก๊สโซฮอล E85 แม้ว่าล่าสุดผู้ผลิต รถยนต์ 9 ค่ายจะตอบรับความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในการผลิตรถยนต์มาตรฐานยูโร 5 ภายใน 1-2 ปี และยูโร 6 ภายใน 3 ปี แต่ปัจจุบันรถยนต์ที่มีมาตรฐานต่ำกว่ายูโรยังมีใช้ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

“ดังนั้น หัวใจสาคัญของการแก้ปัญหาฝุ่น ขณะนี้อยู่ที่เครื่องยนต์ รถจะเก่าหรือใหม่หากเช็คสภาพสม่ำเสมอ ก็สามารถลดมลพิษในอากาศได้” นายประลอง กล่าวและว่า คพ.ได้คาดการณ์สถานการณ์จากแบบจำลองการคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM2.5 ของ คพ. คาดว่าในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ปริมาณฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่จากการดำเนินมาตรการเพื่อลดฝุ่นละอองของหน่วยงานต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง จะช่วยให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 30 – 65 มคก./ลบ.ม. ฝุ่น PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 41 – 92 มคก./ลบ.ม. มาตรฐานยังไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม. โดย จ.เชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 52 มคก./ลบ.ม. จ.ลำพูน ต.บ้านกลาง 65 มคก./ลบ.ม. ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง 69 มคก./ลบ.ม. คพ.ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และ แอพลิเคชั่น Air4Thai

ดูข่าวต้นฉบับ