ทั่วไป

"ประชาธิปัตย์" แท็กทีมฝ่ายค้าน หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญ สอบใช้เงินกู้

Thai PBS
อัพเดต 29 พ.ค. 2563 เวลา 11.11 น. • เผยแพร่ 29 พ.ค. 2563 เวลา 11.11 น. • Thai PBS

เข้าสู่วันที่ 3 การถก พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท เป้าใหญ่ที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน หรือแม้แต่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ร่วมถลุงหมัดตรวจสอบ คือการใช้ “เงินกู้” 1 ล้านล้านบาท ที่ใช้ไปกับ การแก้ไข เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ

จึงเป็นเป้าใหญ่ที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน รุมถลุง หรือแม้กระทั่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่ร่วมตั้งข้อสังเกตด้วย โดยเฉพาะ ส.ส.จากพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลอย่าง “ประชาธิปัตย์”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันนี้จึงเป็น 1 วันสำคัญ ที่ประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนชัดเจนกลางสภาฯ ว่าควรตั้ง กมธ.วิสามัญ ตรวจสอบการใช้ “เงินกู้” ซึ่งตรงกับ 1 ในเงื่อนไขของฝ่ายค้านที่รับปากจะโหวต “ผ่าน” พ.ร.ก.เงินกู้ ต่อเมื่อรัฐบาลรับเงื่อนไข

หวั่นมี "ฮั้ว" ปัดฝุ่นโครงการเก่าถลุงงบฯ

เหตุผลที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ แสดงจุดยืนไว้อย่างน่าสนใจ คือ การอภิปรายของ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ตั้งข้อสังเกตการใช้เงินไว้ 3 ประการ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1.การอนุมัติโครงการ (ที่จะรับเงินจาก “เงินกู้” เกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ) ต้องระวังไม่ให้มีการฮั้วกับผู้รับเหมา ปัดฝุ่นโครงการเก่าของบฯ ใหม่ ซึ่งคาดว่าแต่ละจังหวัดจะได้เงินจากเงินกู้กองนี้ จังหวัดละ 5,000 ล้านบาท

2.ควรจัดสัดส่วนภาคประชาสังคม ติดตามการทุจริต และอยู่ใน คกก.กลั่นกรองการใช้เงินกู้ด้วย และ 3.ควรเปิดเผยข้อมูลโครงการที่มีการเสนอมาของบฯ

ฝ่ายรัฐบาลด้วยกันน่าจะเห็นประโยชน์ตรงกัน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดผลกระทบกับเงิน 400,000 ล้านบาท ได้ใช้เงินแต่ไม่เกิดประโยชน์

ด้วยเหตุผลนี้ นายสาธิตย์ จึงเสนอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้งบฯ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ตามสำทับด้วย นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างว่าเป็น “มติพรรค” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

ถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจ ใจกว้าง และเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ก็ควรตั้ง กมธ.ฯ ประชาธิปัตย์เองก็เชื่อมั่นในนายกฯ แต่คนรอบข้างนายกฯ ไม่สามารถตรวจสอบได้

ซึ่ง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันแล้วว่าพรรคมีมติจริง เท่ากับว่า 52 ส.ส.ของประชาธิปัตย์มีมติหนุนญัตตินี้

กางกลไกจ่าย "เงินกู้"

เบื้องหลัง ประชาธิปัตย์ และ ฝ่ายค้าน ต้องย้ำประเด็นนี้ เพราะมีช่องโหว่ที่การใช้เงินอาจรั่วไหล โดยเฉพาะกลไกการตรวจสอบที่ยัง “ไม่เข้มข้น”

ผู้สื่อข่าว-อธิบายขั้นตอนการใช้เงินกู้ เมื่อมีผู้ขอใช้เงินจากเงินกู้กองใหญ่ สมมติเป็นการขอเงินจากก้อน “ฟื้นฟูเศรษฐกิจ”
ผู้ขอ ต้องตั้งเรื่องมายัง “คกก.กลั่นกรอง” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการและคนที่ นายกฯ แต่งตั้ง

ไม่มีคนนอก ไม่มีคนของสภาฯ และไม่มีภาคประชาชน

เมื่อ คกก.ชุดนี้เห็นชอบ จะส่งเรื่องไปยัง ครม. ซึ่งหาก ครม. เห็นชอบ เรื่องการใช้เงินจะถูกส่งต่อไปยัง “สนง.บริหารหนี้สาธารณะ” ที่มีหน้าที่บริหารจัดการ -เบิกจ่ายเงินกู้

สนง.บริหารหนี้สาธารณะ สังกัด ก.คลัง จึงเป็นหน้าที่ ก.คลัง ที่จะรายงานให้รัฐสภา “รับทราบ”

 

มาถึงขั้นตอนนี้ สิ่งที่รัฐสภาทำได้ มี 2 ทาง

1.“ทางการเมือง” คือตรวจสอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งกระตู้ ตั้ง กมธ.ตรวจสอบ และ 2. “ทางกฎหมาย” ผ่านกลไกองค์กรอิสระ เช่น การตรวจสอบของ สตง. และ ป.ป.ช. เป็นต้น

กลไกการตรวจสอบที่ถูกครหาว่า “ไม่เข้มข้น” นอกจากจะถูกท้วงติงประเด็นที่มี คกก.กลั่นกรอง ไม่กี่คน อาจเป็นช่องโหว่ของการใช้เงินกู้ไม่ตรงเป้า

กว่าขั้นตอนเหล่านี้จะเข้าสู่การรายงานให้สภาฯ รับทราบ (60 วัน หลังสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งทางปฏิบัติจะได้รายงานปีละ 1 ครั้ง) อาจทำให้การตรวจสอบล่าช้าไม่ทันการณ์ เพราะเงินนั้นถูกใช้ไปแล้ว

นายกฯ โยน ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ตกลงกัน

แม้นายกฯ จะเน้นเรื่องกลไกการตรวจสอบที่รัดกุมตั้งแต่วันแรก และวันนี้ (29 พ.ค.2563) นายกฯ ก็ยังคงย้ำประเด็นเดิม ก่อนการร่วมประชุมสภาฯ

ยืนยันว่ามีหน่วยงานช่วยกลั่นกรองละเอียดยิบ มีทั้ง สตง.- ป.ป.ช. ที่ตรวจสอบการทุจริต และโครงการที่จะเสนอขึ้นมา ต้องผ่าน คกก.นโยบายการบริหารจังหวัด (ก.น.จ.) เท่ากับเป็นการตั้งเสนอโครงการมาจาก “ข้างล่าง”

 

ฟังเหมือน นายกฯ ไม่อยากจะให้ตั้ง กมธ.วิสามัญตรวจสอบการใช้เงิน แต่พอผู้สื่อข่าวถามย้ำก็ได้คำตอบดังนี้

เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม เป็นเรื่องของฝ่ายค้านกับรัฐบาลไปว่ากันเอง

ตามขั้นตอนที่แนบท้ายกลไกการใช้เงินกู้ที่ นายกฯ อ้าง ฝ่ายค้าน –ประชาธิปัตย์ คงไม่เถียงว่ารัฐบาลมีกลไกตรวจสอบ ทว่ากลไกนั้นอาจยังไม่เข้มข้น

ยิ่งตรวจทานกับการใช้ เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักตรวจสอบมืออาชีพ-ยี่ห้อประชาธิปัตย์ จึงกล้ากระโดดย้ายขั้วมาหนุนญัตตินี้

ท้ายสุดการตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาตรวจสอบ ต้องอาศัยเสียงเกิน “กึ่งหนึ่ง” ของสภาฯ เมื่อเช็กเสียงฝ่ายค้าน 211 บวกกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์ 52 คน

ถ้า ส.ส.ประชาธิปัตย์โหวตครบ และไม่มีงูเห่าจากฝ่ายค้าน… มีลุ้นที่สภาฯ จะคลอด กมธ.วิสามัญ ติดตามและตรวจสอบการใช้เงินกู้

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 35
  • Ken 🙏 904
    กูไม่เคยคิดมาก่อนว่า ชีวิตนี้กูจะเกลียดได้มากมายถึงเพียงนี้ สิ่งที่กูเกลียดที่สุดคือ ประชาธิปัตย์ ยุคนี้แหละ
    29 พ.ค. 2563 เวลา 12.50 น.
  • 𝙅𝙚𝙖𝙣 𝙈𝙤𝙘𝙝𝙞𝙧𝙞
    จะบ้าหรอคับ !!! ❌ เงินกู้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่กับม่มีตั้งกรรมาธิการมาตรวจสอบมันต้องมีสิ✅
    29 พ.ค. 2563 เวลา 12.14 น.
  • poonyani
    ตั้งกรรมาธิการเพื่อขอส่วนบุญ กู้เยอะขนาดนี้กูต้องได้ด้วย มึงไม่แบ่งกูๆแฉ
    29 พ.ค. 2563 เวลา 12.45 น.
  • ..
    ดีมากๆเลยครับ เพราะไม่ไว้ใจพรรคที่รวมแหล่งสรรพสัตว์ไว้มากมาย จนวันนี้ยังกัดกันไม่เบิกเพื่อแย่งเป็นใหญ่หวังแดกตามน้ำกัน อ้อ ขอประชาธิปัตย์อย่าเอาไอ้จุลินทรีย์มาร่วมทีมนะ ไอ้ตัวนี้ก็แดกทุกอย่างยกเว้นผ้าอนามัย
    29 พ.ค. 2563 เวลา 12.38 น.
  • krit
    ก็สมควรที่จะตั้งเพราะประชาชน​กลัวถึงมือประชาชนแค่เศษเงิน.. เอาคณะกรรมาธิ​ที่ทำงานจริงๆไอ้คณะกรรมการเพื่อการเมืองอย่าเอามาไม่อยากเจอคณะกรรมาธิ​การ​เหมือนที่ท่านเสรีพิศุทธ์​เป็นประทานอยู่กลัวว่าประชาชนจะอดตายเสียก่อนที่พวกท่านจะทะเลอะกันจบ.. เอาตรงนี้.. สาปแช่งไว้เลยว่าถ้าใครทุจริต​หรือ​โกงเงินช่วยเหลือ​ประชาชน1.9ล้านล้านบาทก็ขอให้คนที่มันรักและตัวมันตายโหงภายในเจ็ดวันก่อนตายขอให้มันเจ็บปวดทุกข์​ทรมาน​อย่างแสนสาหัส..เกิดชาติต่อไปต้องไปเกิดเป็นสัตว์​เดรัจฉาน​ชั้นต่ำกินขี้เป็นอาหาร
    29 พ.ค. 2563 เวลา 12.48 น.
ดูทั้งหมด