มีคำกล่าวว่า “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” ที่สำคัญไม่เป็นที่ยอมรับทางสังคม แถมยังทำให้เสื่อมเสียอีกต่างหาก คุณเคยระเบิดอารมณ์โกรธในที่ทำงาน? สนามกีฬา? หรือที่แย่กว่านั้นคือที่การแข่งขันฟุตบอลของลูกๆ เชื่อสิว่าทุกคนต้องจดจำว่าคุณคือคนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ หรือแม้กระทั่งเป็นคนที่โมโหร้ายสุดๆ แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จกลับมีสมาธิแน่วแน่และมีความมั่นใจสูงกว่าคนปกติ เนื่องจากพวกเขาจะอาศัยประโยชน์จากพลังในแง่บวกที่เกิดจากความโกรธ รวมทั้งการปลูกฝังวุฒิภาวะทางอารมณ์ เช่น นิสัยที่บ่มเพาะความสำเร็จ กิจวัตรประจำวัน และการฝึกฝนดังต่อไปนี้
ความนึกคิด
1. พวกเขายอมรับว่าความโกรธเป็นเรื่องธรรมชาติและมีประโยชน์
เมื่อไหร่ที่คุณรู้ว่าอารมณ์โกรธเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น คุณก็จะเลิกกลัวไปเลย และเมื่อเลิกกลัว คราวนี้คุณก็จะสามารถจัดการกับอารมณ์โกรธได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. พวกเขาจะเริ่มต้นที่ตัวเอง
คนส่วนใหญ่เมื่อโกรธก็จะเริ่มเอาแต่โทษคนอื่น เช่น “คุณทำให้ฉันมาสาย” หรือ “คุณยังทำรายงานที่จะส่งวันจันทร์นี้ไม่เสร็จเลย” ซึ่งคำพูดเช่นนี้จะทำให้คนอื่นต่อต้านคุณและไม่อยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ การใช้ตัวเองเป็นประธานในบทสนทนาจะช่วยทำให้คุณมองเห็นวิธีแก้ปัญหามากกว่าที่จะเอาแต่บ่นถึงปัญหา ดังนั้นคุณสามารถใช้คำพูดเหล่านี้แทนได้ เช่น “ฉันไม่ชอบการมาสายเพราะสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนศักยภาพในการทำงานของเรา” หรือ “ฉันต้องการรายงานเล่มนั้น มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”
3. พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงตัวเองในแง่ลบ
การวิจารณ์ตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดหรอก แต่มันจะถ่วงความเจริญในทุกเรื่องของคุณจนอาจต้องย่ำอยู่กับที่หรือแม้แต่ถอยหลังไป เมื่อคุณยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนเพียบพร้อมและมีจุดด่างพร้อย คุณก็ควรคิดถึงการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นมากกว่าที่จะเอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณซึ่งอาจนำไปสู่โรคเครียดหรือภาวะซึมเศร้าได้ในที่สุด การรู้จักคิดบวกจะทำให้คุณประสบความสำเร็จและมีความสุขยิ่งกว่าเดิม
การทำงาน
4. พวกเขาจะมุ่งเน้นไปที่ปัญหาไม่ใช่ตัวบุคคล
อุบัติเหตุและความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน และการโมโหใส่คนที่คุณเชื่อว่าเขาน่าจะเป็นผู้รับผิดชอบก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา เลิกเสียเวลาไปกับการกล่าวโทษและทำงานต่อไป
5. พวกเขาจะไม่เก็บความคับข้องใจ
การเก็บความไม่พอใจไว้ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังต้องเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ ในไม่ช้าคุณก็จะเหนื่อยล้าและจิตใจขุ่นมัว จนกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ดังนั้นจงปล่อยวาง ให้อภัยและลืมๆไปซะ จากนั้นก็จงทำตัวให้มีความสุขยิ่งขึ้น
6. พวกเขาจะไม่ส่งอีเมล์ขณะโกรธ
การสื่อสารกับผู้คนในที่ทำงานสามารถส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานของคุณในอนาคต ส่วนอีเมล์คือบันทึกการสนทนาแบบถาวรที่อาจทำให้คุณได้งานหรือตกงานไปเลยก็ได้ ความโกรธจะบั่นทอนสติของคุณและอาจทำให้คุณเผลอเขียนอะไรบางอย่างลงไปในอีเมล์ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่คุณจะไม่เขียนลงไปในยามที่อารมณ์ดี แต่ถ้าจำเป็นต้องเขียนให้ร่างอีเมล์เอาไว้ก่อนแล้วค่อยกลับมาดูใหม่ในวันรุ่งขึ้น จากนั้นค่อยส่งออกไป
ที่บ้าน
7. พวกเขานั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิทำให้คุณสามารถต่อสู้กับความเครียดและความกังวลซึ่งเป็นสาเหตุของความโกรธได้ นอกจากนี้การนั่งสมาธิเป็นประจำก็จะช่วยรักษาระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่หลั่งออกมาในยามที่เครียดได้ด้วย แถมยังเพิ่มระดับเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดี บวกกับสร้างสมดุลให้กับอารมณ์ของคุณ
8. พวกเขาออกกำลังกาย
เป็นที่รู้กันดีว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างพลังงานและการมีสมาธิ อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้ด้วย ดังนั้นไปวิ่งกันดีกว่า
9. พวกเขาจดบันทึก
การจดบันทึกคืออีกทางเลือกในการระบายอารมณ์ต่างๆซึ่งรวมถึงอารมณ์โกรธด้วย คุณสามารถถ่ายทอดทั้งความคิด ความรู้สึก แนวคิด และอารมณ์โดยปราศจากความเสี่ยงที่จะทำร้ายจิตใจคนอื่นและไม่ต้องถูกใครตัดสินอีกด้วย
Pop Suchada ขอบคุณข่าวสารดีๆมากๆเลยนะคะ
03 ส.ค. 2561 เวลา 14.12 น.
S.CIC พวกบ้าการเมืองชอบหงุดหงิด โกรธไม่รู้แม่งเป็นบ้าไรกัน
03 ส.ค. 2561 เวลา 14.57 น.
ผมไม่ชอบโกรธใคร
หรือเกดึยดใครนะ
แต่ลำคานอะ
เขาไปถึงไหนแล้ว
แต่อีหลายๆคนยัง
หมกมุ้นอยู่กะความคิด
ตัวเอง
เรียนจบมาทำงาน
ไปชึมชับเรื่องแย่ๆมา
เอามาใข้ในชีวิตประจำว้น
คิดว่าดี
ไม่รู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ความวุ้นวายเลยเกิด
03 ส.ค. 2561 เวลา 16.00 น.
ดูทั้งหมด