นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าววานนี้ (10ส.ค.) ว่า ตามที่มีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของขบวนการนักเรียนนิสิตนักศึกษาและเยาวชนคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศไทยที่ขัดแย้งสะสมมาอย่างยาวนาน นับเป็นข้อเสนอที่รัฐบาลและรัฐสภาจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ก่อนปัญหาต่างๆ จะบานปลายกลายเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาคมครั้งที่ 2
เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขและปฏิรูปโครงสร้างการเมืองและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจัดตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุติการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อาศัยบทเฉพาะกาลสร้างรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 2 ที่อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีมาจากการโหวตร่วมของรัฐสภาหรือ ส.ว.สรรหาได้ ซึ่งขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตยที่ต้องการเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นปัจจัยหลักของความขัดแย้งที่ปฏิเสธเสียงของประชาชน
รวมถึงข้อเสนอเรื่องการยุติการข่มขู่คุกคามแกนนำนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่ผูกขาดเรื่องความมั่นคงฯ ยุติการส่งเจ้าหน้าที่รัฐไปติดตามและข่มขู่คุกคามเพื่อกดดันให้ยุติการเคลื่อนไหว ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารและต่อต้านข่าวกรองในรูปแบบต่างๆ เพราะนอกจากท่านเก็บข้อมูลประชาชน ประชาชนก็เก็บข้อมูลของท่านเช่นกัน สมัยนี้ความลับไม่มีในโลกเพราะเป็นยุคดาวเทียมและเทคโนโลยีดิจิทัล
รัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสังคมประชาธิปไตย รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายภายใต้กติการะหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ โดยเฉพาะกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง(ICCPR) และกฏหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม (ICESCR) ซึ่งเป็นกฎหมายสิทธิมนุษย์ชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีและบังคับใช้อยู่ รวมถึงออกกฎหมายลูกที่สอดคล้องมาบังคับใช้เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษย์ชนในประเทศ
เจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐจะต้องตระหนักและทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ดังนั้นผมจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐไปติดตาม ข่มขู่คุกคามหรือสร้างเงื่อนไขเพื่อไม่ให้เยาวชนคนหนุ่มสาวออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองตามสิทธิในสังคมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมถึงอาจจะขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคีและรับรองไว้หลายฉบับซึ่งจะนำมาสู่การตรวจสอบในอนาคตที่อาจเกิดปัญหาได้ โดยเฉพาะผู้ที่ส่งเสริมและยุยงให้เกิดความรุนแรงและการคุกคาม
เพื่อสนับสนุนการแสดงออกของนักเรียนนิสิตนักศึกษาในการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมืองและสังคมประชาธิปไตยตามครรลองคลองธรรม คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จึงได้เรียกประชุมทางการเมืองเครือข่ายภาคประชาชนและ 30 องค์กรประชาธิปไตย เพื่อระดมความคิดเห็นและทางออกเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยในสถานการณ์วิกฤตทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
โดยร่วมกันนำเสนอทางออกประเทศไทยและแนวทางการแก้ไขหรือผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีวาระสำคัญ 3 วาระคือ
1.แสดงพลังสนับสนุนขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่เรียกร้องประชาธิปไตย 2.เรียกร้องรัฐบาลปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ยุติการติดตามข่มขู่คุกคามนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 3.นำเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้ เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ
ด้วยความคาดหวังว่า รัฐบาลจะตระหนักในปัญหา เจ้าหน้าที่รัฐจะตระหนักในสถานการณ์ และทุกฝ่ายหันมาร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังร่วมกันต่อไป
คมกฤช เทพหนู ถ้าถูกคุกคามจริง แต่ละคนจะมาลอยหน้าลอยตากันแบบนี้เหรอครับ ตลกนะ
11 ส.ค. 2563 เวลา 00.09 น.
ใครโดนข่มขู่คุกคามก็มาแจ้งความดิ พูดลอยๆแบบนี้เหมือนใส่ร้ายกันนะ การแสดงออกทางการเมืองก็ทำได้ ขออย่าผิดกฏหมายก็แล้วกัน
10 ส.ค. 2563 เวลา 23.32 น.
ไหนคะ30องค์กร
11 ส.ค. 2563 เวลา 00.12 น.
ลิขิต สุทธิประภา มีแอกติดคอ พร้อมเชือกจูง ไม่เห็นต้องกลัว มีพรรคการเมืองพร้อมประกันตัว5555
11 ส.ค. 2563 เวลา 00.10 น.
kunkanit ส่วนเด็กยังหาเงินเลี้ยงตัวเงินยังไม่ได้อย่างกร่างเพื่อเอามัน นะคะหนูๆจะโตอย่างมีปัญหานะคะ
11 ส.ค. 2563 เวลา 00.06 น.
ดูทั้งหมด