ยกระดับวินัยทางการเงินของคนไทย ดัน กสทช. ส่งข้อมูลคนเบี้ยวค่ามือถือ เชื่อมเครดิตบูโร รวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟ และข้อมูลกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ควรส่งผลพิจารณาเครดิตลูกหนี้
เครดิตบูโร หรือ รายงานข้อมูลเครดิต เปรียบเสมือน “ถังข้อมูลพฤติกรรมหนี้” ที่ใหญ่ที่สุดของระบบการเงินไทย และอีกนัยหนึ่งก็ยังเป็น “สัญญาณเตือนภัยเศรษฐกิจ”…หากเพราะ เครดิตบูโร สามารถนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ระบบการเงิน รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการอ่านสัญญาณเศรษฐกิจของสถาบันต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดความล่มสลายได้อีกด้วย ในขณะที่วงการโทรคมนาคม ก็ประสบปัญหาการเบี้ยวหนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งพฤติกรรมหนี้ แบบตั้งใจไม่จ่ายนั้น สะสมมากขึ้นทุกปี ปีละหลายพันล้านบาท สร้างความเสียหายให้ระบบเศรษฐกิจ และสะท้อนถึงเครดิตส่วนบุคคล ที่ถึงยุคเชื่อมโยงข้อมูลกับเครดิตบูโร ดังนั้น หากคุณคิดจะทำบัตรเครดิต ซื้อบ้าน ออกรถ ขอสินเชื่อ ทำบัตรกดเงินสด ซื้อมือถือแบบผ่อนชำระ เบี้ยวค่าน้ำ ค่าไฟ ข้อมูลจะเชื่อมโยงกันหมด
ทั้งนี้ถือเป็นการเข้าสู่ยุคบิ๊กดาต้า ที่ข้อมูลเชื่อมโยงกันทั้งหมด โดยผลักดันการตั้งบริษัทกลาง ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลาย ๆ แห่งที่มีสมาชิก โดยนำมารวบรวมประมวลผลเป็นข้อมูลเครดิตในภาพรวมของเจ้าของข้อมูลแต่ละราย และเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินหรือลูกค้าเจ้าของข้อมูลต้องการเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทข้อมูลเครดิต ก็จะเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั้นในรูปของรายงานข้อมูลเครดิต เพื่อยกระดับความมีวินัยทางการเงินของคนไทย ทั้งนี้ในอดีต เครดิตบูโรไม่มีการจัดเก็บข้อมูลการชำระ หรือค้างชำระเกี่ยวกับสาธารณูปโภคทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ รายการบัญชีเงินฝาก ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า หรือข้อมูลทรัพย์สินเงินฝากแต่อย่างใด เพราะกฎหมายไม่อนุญาตให้ดำเนินการจัดเก็บ ใครฝ่าฝืนจะมีโทษในทางอาญา และปัจจุบันยังไม่มีการนำส่งข้อมูลจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเข้ามาในระบบข้อมูลเครดิตอีกด้วย ทำให้คนใช้ช่องโหว่นี้ในการเบี้ยวหนี้ ทำให้เกิดหนี้เสียมหาศาลในแต่ละปี จะเห็นได้จากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่คนไทยมักคิดว่า ไม่จ่าย ก็ไม่เป็นไร จึงเกิดคำถามว่า หากไม่เชื่อมโยงข้อมูลเครดิตบูโร คนเบี้ยวหนี้เหล่านี้ ยังสมควรไปสร้างหนี้ใหม่ แล้วไม่จ่ายอีกหรือไม่ ดังนั้น การเชื่อมโยงข้อมูลเครดิตของลูกหนี้ รวมถึงค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ จะทำให้เห็นพฤติกรรมหากใช้การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ทำให้เห็นประวัติและพฤติกรรมอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ปัจจุบัน กยศ.ระบุว่ามีนักเรียนเบี้ยวหนี้กว่า 2.2 ล้านราย มูลค่ากว่า 7.4 หมื่นล้านบาท
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่าสาเหตุที่นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนจบแล้วแต่ผิดนัดชำระหนี้ หรือ ไม่ยอมจ่ายหนี้คืน กยศ.แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
กลุ่มที่ 1นักเรียนนักศึกษาที่ยากจนจริงๆ เมื่อจบการศึกษาไปแล้วยังไม่มีงานทำ หรือ ไปทำงานอยู่ในภาคเกษตรแต่อาจประสบปัญหาสภาพคล่องด้านเงินทุนและเป็นหนี้ภาคเกษตรจึงไม่อาจชำระหนี้ได้ นักเรียนนักศึกษาประเภทนี้จำนวนน้อยมากๆ
กลุ่มที่ 2 "ขาดจิตสำนึก" แม้มีงานทำและมีรายได้แต่ไม่ยอมจ่ายหนี้คืน กยศ.
และ กลุ่มที่ 3 "ขาดวินัยการเงิน" หลังจากเรียนจบและมีงานทำแล้ว แต่ไม่ยอมใช้หนี้คืน กยศ. เพราะขาดวินัยทางการเงิน
ดังนั้น หากมีการเชื่อมโยงข้อมูลจะทำให้ลูกหนี้ มีการพิจารณาการสร้างหนี้อย่างรอบคอบ และลดปัญหาหนี้เสีย ให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงความสามารถในการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมที่ดีในอนาคตอีกด้วย
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO
aun ให้พนักงานเลิกใช้น้ำไฟฟรีด้วยนะ นักการเมืองข้าราชการการเมืองก้ามโดยสารอะไรฟรีนะ
16 ส.ค. 2563 เวลา 02.46 น.
Dr.ploy 🌺PH.D🌺 ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ามือถือไม่จ่ายเขาก็ตัดน้ำตัดไฟอยู่แล้ว ถ้าดึงค่าน้ำค่าไฟ มาลงเครดิตบูโร อาจจะติดบูโรกันเกือบทั้งประเทศ.... ลืมค่าน้ำประจำเลย 🤪
15 ส.ค. 2563 เวลา 15.12 น.
WADEE (Private) แล้วถ้าคนมีบ้านเยอะๆ ลืมจ่ายแบบ ค่าไฟ หลักสิบบาทงี้หละ
15 ส.ค. 2563 เวลา 14.19 น.
Phong 4659 ค่าไฟที่แอบไปซื้อเอกชนแพงๆมาให้เราจ่ายแพงๆ ค่าโทรศัพท์ที่แพงกว่าค่าข้าว กสทช การไฟฟ้า พวกคุณต่างหากที่ปล้นประชาชน
15 ส.ค. 2563 เวลา 14.17 น.
TukKaTa ก็ลองหันไปถาม บ.ทั้งหลาย ที่ยัดเยียด เดินตามบ้าน ขอบัตร ปชช เปิดฟรี พี่เปิดแล้ว ไม่ใช้งานก็ได้ บลาๆๆ ตาสีตาสา ไม่รู้เรื่องก็เยอะ ไปแก้ต้นเหตุก่อนนะ
15 ส.ค. 2563 เวลา 14.13 น.
ดูทั้งหมด