สังคม

ช่วงนี้ต้องระวัง โรคระบาดที่มากับฝน

THE ROOM 44 CHANNEL
เผยแพร่ 07 ก.ย 2565 เวลา 08.46 น.

เตรียมตัวให้พร้อมป้องกันตัวเอง รวมโรคระบาดที่มากับฝน แต่ละปีมีผู้ป่วยนับแสนราย

1.) โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อย เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารที่ลำไส้ รวมไปถึงโรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อาการ ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดบิดในท้อง และหากติดเชื้อ บิดอาจมีมูกหรือเลือดอุจจาระปนได้

คำแนะนำ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

2.) โรคไข้หวัดใหญ่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย ซึ่งปัจจุบันมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ H3N2 และโรคไข้หวัดนกที่มีแหล่งแพร่ระบาดมาจากสัตว์ปีก เชื้ออาจมีการผสมข้ามสายพันธุ์กับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคนที่อยู่ในช่วงระบาดในฤดูฝนได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อาการ ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูกและไอร่วมด้วย ภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงคือ ภาวะปอดอักเสบ

คำแนะนำ ใช้ผ้าปิดจมูก ล้างมือบ่อยๆ

3.) โรคฉี่หนู (Leptospirosis) กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง มักพบการติดเชื้อชนิดนี้ได้ในสุนัขหรือสัตว์ตามฟาร์ม เช่น สุกร โค กระบือ รวมถึงสัตว์จำพวกหนู ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ เกษตรกร คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ คนหาปลาตามแหล่งน้ำจืด ผู้ที่ทำงานขุดท่อระบายน้ำ และคนที่ย่ำน้ำในที่น้ำท่วมขังนานๆ เป็นต้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อาการ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง ตาแดง ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการรุนแรง เช่น ดีซ่าน ไตวาย หรือช็อกได้

คำแนะนำ ไม่ลุยน้ำขัง ใส่รองเท้าบูท

4.) โรคไข้เลือดออก กลุ่มโรคที่มาจากยุง มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกว่าร้อยละ 80 เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้าน ซึ่งจะวางไข่ในน้ำที่ขังอยู่ตามที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโรคไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis) และโรคมาลาเรียที่ต้องระวัง

อาการ ผู้ป่วยระยะแรกจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป ได้แก่ อาการไข้ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดกระดูกมาก ไข้จะสูงอยู่ประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นไข้จะลดลง พร้อมกับอาการเลือดออกผิดปกติ มือเท้าเย็นหรือช็อกได้

คำแนะนำ ทายากันยุง อยู่ห่างจากที่ยุงชุม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์