ก่อนที่เราจะมาใช้เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า ในการปรุงอาหาร ย้อนไปอีกสักหน่อยไม่นานนัก มนุษย์เราใช้เตาถ่านในการก่อไฟให้ความร้อนในการหุงต้มปรุงอาหารให้สุก ซึ่งหนึ่งในเตาไฟที่คนไทยคุ้นเคยเพราะถูกใช้กันมานานและยังพบได้อยู่บ้างตามบ้านเรือนและร้านอาหารที่ยังถนัดใช้ความร้อนแบบธรรมชาติ
เตาอั้งโล่ มีรูปทรงคล้ายถัง ปากกลมผายออกเล็กน้อย มีความหนาประมาณ 2 นิ้ว มีการเจาะช่องเป็นรูสี่เหลี่ยมให้อากาศเข้าหรือใช้พัดโบกให้ลมเข้าไปเพื่อเร่งความแรงของไฟ ด้านบนทำเป็นจมูกเตาสำหรับวางก้นหม้อ 3 ปุ่มสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อยกก้นภาชนะ ภายในมีรังผึ้งหรือตะกรับทำจากดินเผาเป็นแผ่นกลม เจาะรูเรียงกันเป็นวงเหมือนรังผึ้งเพื่อให้ขี้เถ้าร่วงลงไปยังก้นเตาและทำให้อากาศถ่ายเทด้วย
เชื่อกันเป็นไอเท็มที่มาจากประเทศจีน เพราะคำว่า ‘อั้งโล่’ นั้นมาจากภาษาแต้จิ๋ว แปลว่า ‘เตาสีแดง’ ซึ่งเป็นสีของดินเผา ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการนำมาใช้เมืองไทยแต่เมื่อไหร่ มีแต่การตั้งสันนิษฐานว่าอาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อราว 100 ปีมาแล้ว เนื่องจากมีการค้าขายเริ่มแรกระหว่างประเทศไทย-จีน หรืออาจจะมีการนำเข้ามาเมื่อครั้งที่ชาวจีนอพยพเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหนีจากสงครามกลางเมืองในช่วงราว 100 ปีมาแล้ว
ในส่วนของวิธีการใช้เตาอั้งโล่นั้น หากคิดว่าแค่โยนถ่านลงไปแล้วจุดไฟ ขอบอกว่าคิดผิดอย่างมาก เพราะในการจะจุดเตาแต่ละครั้งนั้นอย่างน้อยๆ สิ่งที่ต้องมีคือ..
* ถ่านก้อนขนาดพอประมาณ (ใหญ่ไปจะจุดไฟติดยาก)
* ไม้ขีดไฟ หรือ ไฟแช็ค
* กระดาษทิชชู่ หรือ เศษกระดาษ (แห้งๆ)
* น้ำมันพืชใช้แล้ว (ใช้เป็นเชื้อเพลิง)
และมาถึงข้อสงสัย เป็นที่ข้องใจของหลายๆ คนว่าการหัน(กลับ)มาใช้เตาถ่านเตาอั้งโล่นั้นจะช่วยประหยัดได้จริงหรือไม่ ซึ่งก่อนที่จะไปถึงเรื่องของเตาที่กำลังอยู่ในกระแสโซเชียล เรามาพูดกันถึงข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของเตาถ่านกับเตาแก๊สกันก่อน การใช้พลังงานความร้อนจากเตาทั้งสองนี้ยังคงมีให้เห็น เด่นชัดที่สุดก็คือบรรดาร้านปิ้งย่างที่ส่วนใหญ่ใช้ถ่าน อาจเป็นข้อสันนิษฐานได้ว่าการใช้ถ่านนั้นยังใช้ต้นทุนน้อยกว่าการใช้แก๊ส (แม้ว่าในตอนนี้ราคาของถ่านจะค่อยๆขยับขึ้นเรื่อยๆก็ตาม) และนอกจากนี้เตาถ่านยังให้ความร้อนได้นาน แต่ก็ต้องใช้เวลาในการสะสมความร้อนก่อนจะใช้งานได้ ไม่เหมือนเตาแก๊สที่เปิดปุ๊บติดปั๊บ และอีกหนึ่งข้อเสียเปรียบของถ่านก็คือมักก่อให้เกิดควันและขี้เถ้าในขณะที่เตาแก๊สไม่มีการทิ้งเขม่าฝุ่น แต่หากมองในมุมของความปลอดภัยแก๊สก็อาจรั่วหรือระเบิดได้ ในขณะที่ถ่านไม่มีพิษภัยหากไม่มีไฟสุม
แล้วก็มาว่ากันด้วยเรื่องของ ‘เตามหาเศรษฐี’ ที่ทางพพ. (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน) ซึ่งกำลังดังในตอนนี้กันบ้าง เจ้าเตานี้เขาเคลมว่าให้ร้อนสูง ประหยัดถ่าน ทนทาน ช่วยประหยัดเงิน เป็น เตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง หรือ เตาซุปเปอร์อั้งโล่ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาทดแทน เตาอั้งโล่ตามท้องตลาดทั่วไป ว่ากันว่ามีประสิทธิภาพเชิงความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดถึง 29% จึงช่วยประหยัดไม้ ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือน
สรุปคุณสมบัติเด่นๆ ของ ‘เตามหาเศรษฐี’
- มีความเพรียวและน้ำหนักเบากว่า
- ให้ความร้อนสูง อุณหภูมิกลางเตาประมาณ 1,000 – 1,200 องศาเซลเซียส
- ประหยัดถ่านกว่าเตาอั้งโล่ท้องตลาด 30 – 40%
- วางภาชนะหุงต้ม(หม้อ) ได้ 9 ขนาด ตั้งแต่เบอร์ 16-32
- ขณะหุงต้มไม่มีควันและก๊าซพิษเกิดขึ้นเนื่องจากเผาไหม้สมบูรณ์
- อายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี
การจะสรุปว่าเตานี้คุ้มหรือไม่คุ้มนั้นควรต้องตัดสินจากปัจจัยหลายๆ อย่างของแต่ละบุคคล และในตอนนี้เริ่มมีการทำรีวิวเปรียบเทียบระหว่างเตามหาเศรษฐีกับเตาอั้งโล่ธรรมดาทั่วไปให้ศึกษาข้อมูลกันบ้างแล้ว ยังไงก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ลองศึกษาข้อมูลและความเหมาะสมของแต่ละบ้านกันก่อนนะ
ที่มาข้อมูล :
ฐานข้อมูลเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน
truid.net
เอกสารเผยแพร่ พลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเพื่อเศรษฐกิจที่พอเพียง
🫧 จะประหยัดได้จริงๆ
ยุบกรมที่คิดเรื่องนี้ ทิ้งไป
ประเทศชาติ จะประหยัดค่าเงินเดือน เสียข้าวสุกปีนึงอาจจะเป็นร้อยล้าน
22 มิ.ย. 2565 เวลา 00.23 น.
ตุ้ย ถามกลับ.คนที่คิดเรื่องนี้
ที่บ้านใช้ไหม.ถามตัวเองก่อน
22 มิ.ย. 2565 เวลา 02.59 น.
หนุ่มสตาร์519 กระทรวงนี้มันแปลกๆ สมองคิดโครงการแต่ละอย่าง มันใช้ส่วนไหนคิด
22 มิ.ย. 2565 เวลา 03.27 น.
อากู๋ เอาไว้ให้อธิบดีรมควันฆ่าตัวตายในรถประจำตำแหน่ง
22 มิ.ย. 2565 เวลา 03.31 น.
พงศ์พันธ์ นวกรรมแห่งศตวรรษ สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ธรรมดาจะได้ประโยชน์ นำพาประเทศชาติผ่านวิกฤษที่เลวร้ายไปได้ สมควรที่จะเทิดทูนให้เป็นกรมที่ดีที่สุดของเหล่ามวลมนุษยชาติในโลกนี้
22 มิ.ย. 2565 เวลา 03.34 น.
ดูทั้งหมด