ค่ำคืนนี้ได้ทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย ยูโร 2024 ทีเดียวถึง 3 ชาติ ฝรั่งเศสฉลุยหลังบุกเชือดเนเธอร์แลนด์ ส่วนเบลเยียมและโปรตุเกสชนะคู่แข่งทำให้ลิ่วเช่นกัน
การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม กลุ่มบี “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ เปิดสนามโยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “ตราไก่”ฝรั่งเศส
เกมนี้เจ้าบ้านจัด เวาต์ เว็กฮอร์สต์, ชาวี ซิโมนส์, ติยานี ไรน์เดอร์ส ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนถ้าชนะแมตช์นี้จะลอยลำเข้ารอบสุดท้ายทันที ตัวจริงนำโดย ร็องดัล โคโล มูอานี, คีลิยัน เอ็มบัปเป, อ็องตวน กรีซมันน์
เริ่มเกมมา 7 นาที อ็องตวน กรีซมันน์ เคาะบอลออกด้านขวาให้ โฌนาต็อง โกลสส์ เปิดเข้ากลางไปหา คีลิยัน เอ็มบัปเป ตวัดยิงวอลเลย์เข้าไป ฝรั่งเศสออกนำ 1-0
นาที 26 เดนเซล ดุมฟรีส์ ทำชิ่งกับเพื่อนจนได้หลุดมาทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ โยอี เฟียร์มัน ยิงแบบไม่มีใครขวางทัน บอลลอยข้ามคานเหลือเชื่อ เนเธอร์แลนด์ตีเสมอไม่สำเร็จ
นาที 36 แนวรับฝรั่งเศสสกัดบอลมาเข้าเท้า เวาต์ เว็กฮอร์สต์ แปะต่อให้ ชาวี ซิโมนส์ ยิงจากระยะประมาณ 20 หลา บอลพุ่งเรียดตรงกรอบ ไมก์ เมนญอง ต้องพุ่งปัดทิ้ง เนเธอร์แลนด์ชวดได้ประตูไปอีกครั้ง
นาที 45 เนเธอร์แลนด์มีลุ้นอีกหน กิลินด์ชี ฮาร์ตมัน รับบอลจากเพื่อนแล้วสับไกด้วยซ้ายจากบริเวณหน้าเขตโทษ ไมก์ เมนญอง ต้องกระโดดปัดในจังหวะแรกก่อนตามไปรับไว้ได้ จบครึ่งแรกฝรั่งเศสยังคงนำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 53 คีลิยัน เอ็มบัปเป ขยับไปเล่นทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนทำชิ่งกับ อาเดรียง ราบิโอต์ บอลเข้ากลางเปิดโอกาสให้เอ็มบัปเปปั่นจากบริเวณหน้าเขตโทษลอยผ่านมือนายทวารเสียบใต้คาน ฝรั่งเศสนำห่าง 2-0
นาที 55 นาธาน อาเก หลุดเข้าไปรับลูกจ่ายจากเพื่อนทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ ดอนเยลล์ มาเลน ยิงไม่เหลือซาก แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะที่อาเกเล่นแล้ว เนเธอร์แลนด์ยังตีไข่แตกไม่สำเร็จ
นาที 83 เนเธอร์แลนด์เจาะตาข่ายสำเร็จจนได้ กิลินด์ชี ฮาร์ตมัน ทำชิ่งกับ สตีเฟน เบิร์กไวน์ จนทำให้ฮาร์ตมันหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงยัดเสาแรกเข้าไป เจ้าบ้านไล่มาเป็น 1-2
นาที 86 คีลียัน เอ็มบัปเป รับบอลจากเพื่อนแล้วโยกหลอกคู่แข่ง ก่อนจะสบช่องยิงจากบริเวณเส้นหน้าเขตโทษ บอลพุ่งสูงผ่านมือนายทวารไปชนคานเต็มๆ ฝรั่งเศสชวดโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม
หลังจากนั้นไม่มีฝั่งไหนยิงเพิ่มได้อีก จบเกมฝรั่งเศสบุกชนะ 2-1 ยังรักษาสถิติชนะรวดในรอบคัดเลือกหนนี้ต่อไป พร้อมการันตีคว้าตั๋วสู่รอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว
ผลอีกคู่ ไอร์แลนด์ แพ้ กรีซ 0-2
อันดับบนตารางคะแนน 1. ฝรั่งเศส (ลงสนาม 6 นัด : 18 คะแนน), 2. กรีซ (ลงสนาม 6 นัด : 12 คะแนน), 3. เนเธอร์แลนด์ (ลงสนาม 5 นัด : 9 คะแนน), 4. ไอร์แลนด์ (ลงสนาม 6 นัด : 3 คะแนน), 5. ยิบรอลตาร์ (ลงสนาม 5 นัด : 0 คะแนน)
ด้านกลุ่มเอฟ ออสเตรียเปิดบ้านแพ้ต่อ “ปีศาจแดง”เบลเยียม 2-3 ส่งผลให้เบลเยียมคว้าตั๋วสู่รอบสุดท้ายอีกทีม
เกมนี้เจ้าบ้านได้ประตูจาก คอนราด ไลเมอร์ นาที 72, มาร์เซล ซาบิตเซอร์ นาที 84 (จุดโทษ) ส่วนทีมเยือนได้จาก โดดี ลุกบาคิโอ นาที 12 และ 55, โรเมลู ลูกากู นาที 58 โดยทีมเยือนต้องเหลือ 10 คน อมาดู โอนานา ถูกไล่ออกนาที 78
ผลอีกคู่ เอสโตเนีย แพ้ อาเซอร์ไบจาน 0-2
อันดับบนตารางคะแนน 1. เบลเยียม (ลงสนาม 6 นัด : 16 คะแนน), 2. ออสเตรีย (ลงสนาม 6 นัด : 13 คะแนน), 3. สวีเดน (ลงสนาม 5 นัด : 6 คะแนน), 4. อาเซอร์ไบจาน (ลงสนาม 5 นัด : 4 คะแนน), 5. เอสโตเนีย (ลงสนาม 6 นัด : 1 คะแนน)
กลุ่มเจ “ฝอยทอง”โปรตุเกส เปิดบ้านชนะสโลวะเกีย 3-2 โปรตุเกสยังชนะรวดในรอบคัดเลือกหนนี้ และการันตีเข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย
เกมนี้เจ้าบ้านได้ประตูจาก กอนซาโล รามอส นาที 18, คริสเตียโน โรนัลโด นาที 29 (จุดโทษ) และ 72 ส่วนทีมเยือนได้จาก ดาวิด ฮันก์โก นาที 69, สตานิสลาฟ โลบ็อตกา นาที 80
ผลคู่อื่น ไอซ์แลนด์ เสมอ ลักเซมเบิร์ก 1-1, ลิกเตนสไตน์ แพ้ บอสเนีย 0-2
อันดับบนตารางคะแนนหลังผ่าน 7 นัดเท่ากัน 1. โปรตุเกส (21 คะแนน), 2. สโลวะเกีย (13 คะแนน), 3. ลักเซมเบิร์ก (11 คะแนน), 4. บอสเนีย (9 คะแนน), 5. ไอซ์แลนด์ (7 คะแนน), 6. ลิกเตนสไตน์ (0 คะแนน)