‘อย่าฝากชีวิตไว้ที่ใคร..แม้จะรักกันมากแค่ไหนก็ตาม’
ภาพจำของการแต่งงานก็คือการเป็นคนที่อีกฝ่ายฝากชีวิตไว้ด้วยได้ แต่ความจริง..ไม่มีใครควรฝากชีวิต ฝากความสุขของตัวเองไว้กับคนอื่น คนทุกคนควรพึ่งพาตัวเอง ช่วยตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่เอาแต่หวังพึ่งคนอื่นไปหมดทุกเรื่อง แม้แต่คนที่เป็นสามี-ภรรยากันก็ตาม
จริงอยู่ความรักทำให้คนสองคนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แต่ความรักไม่ใช่การเอาชีวิตฝากไว้ที่อีกคน ไม่ใช่การโยนทุกสิ่งทุกอย่างให้อีกคนรับผิดชอบโดยไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ ถ้าแบบนั้น..ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการหาใครสักคนมารับผิดชอบปัญหาที่มันเกิดขึ้นมากกว่า
การไม่ฝากชีวิตไว้ที่ใคร ไม่ได้หมายความว่าพอมีปัญหา มีเรื่องเดือดร้อน เราต้องจัดการด้วยตัวคนเดียวหรือพึ่งพาตัวเองเสมอไป ข้อดีของความรักมันอยู่ที่ตรงนี้ ตรงที่เวลาเจอปัญหา เรายังมีอีกคนคอยอยู่ข้าง ๆ คอยปรึกษา คอยห่วงใย ให้กำลังใจ จับมือกันแน่น ๆ แล้วผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน ดังนั้นมีความรักแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้ที่คนรัก เพราะนี่คือ 6 เหตุผลที่ทำให้รู้ว่าคนเราไม่ควรจะฝากชีวิตไว้ที่ใครทั้งนั้น
1. อัตตา หิ อัตตโน นาโถ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นพุทธพจน์ที่บอกให้คนเราเพียรพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ให้เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น
ในขณะที่ธรรมชาติของคน เวลามีความรักก็มักจะอยากพึ่งพาคนรัก อยากให้คนรักช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราพึ่งพาเค้ามาก ๆ จนไม่ได้พึ่งพาตัวเองเลย ก็เหมือนกับการฝากทั้งชีวิตและจิตใจไว้ที่อีกคน สุดท้ายเราจะลืมว่าวิธีการพึ่งพาตัวเอง และอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจากอีกคน
การมีความรักไม่ได้แปลว่าเราต้องพึ่งพาคนที่เรารัก เพราะแม้กระทั่งคนรักกันก็รับประกันไม่ได้ว่าเค้าจะอยู่กับเราไปตลอด การที่ต่างคนต่างพึ่งพาตัวเองให้ได้ ก็เป็นการลดปัญหาในการใช้ชีวิตไปส่วนหนึ่ง ยังไงสุดท้ายแล้วคนที่พึ่งพาและฝากชีวิตไว้ได้ก็มีแค่ตัวเราเองเท่านั้น
2. พึ่งพาคนอื่นให้น้อย ความสุขก็จะมีมากขึ้น
คนทุกคนคาดหวังที่จะมีความสุข แต่ยิ่งคาดหวังก็มักจะยิ่งผิดหวัง..
ไม่แปลกที่พอมีความรักแล้ว คนเราจะคาดหวังให้รักมีแต่ความสุข แต่เรื่องจริงก็คือเป็นไปไม่ได้เลยที่พอรักแล้วจะมีแต่ความสุข เพราะแค่เริ่มต้นคาดหวัง ความทุกข์ก็รออยู่ตรงหน้าแล้ว
โดยเฉพาะการหวังแต่จะพึ่งพาคนรักตลอดเวลาในแบบที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรด้วยตัวเองเลย การคาดหวังแบบนี้มีแต่จะทำให้ทุกข์ ทำให้ทั้งเราและเขาไม่มีความสุข เพราะความรักคือการพึ่งพากันและกัน ไม่ใช่การหวังแต่จะพึ่งใครคนใดคนหนึ่ง
3. เราต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเราเอง
การมีความรักกลายเป็นภาพจำที่ทำให้รู้ว่า เราจะไม่ต้องอยู่คนเดียว ดังนั้นหลายคนจึงโหยหาความรักเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว แต่ความรักกับการอยู่คนเดียวแทบจะเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะแม้จะมีความรัก มีคนรัก แต่คนทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว และพึ่งพาตัวเองให้ได้
ความรักเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่ทุกอย่าง ถึงจะไม่มีความรัก แต่เราทุกคนอยู่ได้ ใช้ชีวิตได้โดยไม่มีผลกระทบอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นให้ความรักแค่มาแต่งแต้มสีสันในชีวิต อย่าถึงกับให้ความรักมานำทางชีวิต เพราะสุดท้ายถึงจะมีหรือไม่มีความรัก เราก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเรา เพราะไม่มีใครรักเรา เท่ากับตัวเราเอง
>>7 เรื่องจริงของความโสด ที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจซะใหม่<<
4. เราไม่ควรต้องรับผิดชอบชีวิตใคร ยกเว้นตัวเราเอง
ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง สามีก็ทำหน้าที่สามี ภรรยาก็ทำหน้าที่ภรรยา แม้หน้าที่จะมาพร้อมความรับผิดชอบ แต่ไม่มีใครในโลกนี้ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตเรา นอกจากตัวเราเอง
การมีความรักไม่ได้แปลว่าเราทั้งคู่จะต้องรับผิดชอบชีวิตของกันและกัน แต่เป็นการที่คนสองคนดูแลกันทั้งตอนทุกข์และตอนมีความสุข ถึงจะเรียกว่าเป็นความรักที่ใคร ๆ ก็ต้องการ
5. การไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใคร กลับกลายเป็นวิธีที่ทำให้รักยืนยาว
จริงอยู่ว่าความรักต้องอาศัยทั้งความเข้าใจ ความไว้ใจ ความซื่อสัตย์ต่อกันถึงจะเป็นรักที่ยืนยาว แต่นอกจากนั้นแล้ว การที่คนสองคนรักกันแบบสบายใจ ไม่กดดัน ไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตของใคร แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้รักยืนยาวได้เหมือนกัน
แม้ความรักต้องอาศัยความรับผิดชอบ แต่การไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตของใครไม่ได้หมายความว่าจะรักกันไม่ได้ เพราะถ้าต่างคนต่างก็รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ฝากชีวิตไว้กับตัวเอง อย่างน้อยปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะน้อยลง
6. ทุกคนมีอิสระที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง
การฝากชีวิตไว้ที่ใคร ก็เหมือนการเอาของมีค่าของเราไปฝากไว้ที่เค้า เราจะรู้สึกกังวลตลอดเวลา ไม่เป็นตัวของตัวเอง กังวลว่าเค้าจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เราฝากไว้ กลัวว่าเค้าจะรักษาของ ๆ เราไว้ไม่ได้ เป็นความระแวง ความไม่มั่นใจที่เกิดขึ้นเสมอเมื่อเอาของรักของหวงไปฝากไว้ที่คนอื่น
ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องมาทำให้เรามีความสุข ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องมารับผิดชอบชีวิตของเรา คนทุกคนควรต้องมีอิสระที่จะคิด ที่จะใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง รวมทั้งตัวเราเองด้วย ดังนั้นชีวิตของเรา ความสุขของเรา เราต้องดูแลมันด้วยตัวเอง
>>3 สิ่งเปล่าประโยชน์ที่คนมีความรักไม่จำเป็นต้องใช้<<
ถ้าเราฝากความหวัง ความสุข ความมั่นคงของชีวิตไว้กับใคร
เราก็ต้องทุกข์กับความไม่แน่นอนของคน ๆ นั้น
พระอาจารย์ชยสาโร
Jum Vachiraporn🎀 ความรัก ไม่ได้เปนตัวกำหนดอะไร หรือมีแล้ว จะต้องไปฝากชีวิตไว้กับใคร และไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จะต้องไปลงเอยกับใครง่ายๆดั่งใจคิด ทุกอย่างมีเหตุมีผล และเปนกรรมของแต่ละบุคคล ว่าได้สร้างมาอย่างไร แล้วทุกคนอย่าคิดที่จะไปฝากชีวิตไว้กับใคร แม้กระทั่งคู่ชีวิตเรา การพึ่งพิงใครจะได้หรือไม่ ก็ต้อง เชื่อเรื่องกรรมอีกนั้นแหละ สังเกตุ ทุกคนในโลก ต่างมีชีวิตคู่ แตกต่างกันไป บางคู่ เขาก็ดูแลกันดีจนแก่ตาย บางคนก็แย่ บางคนก็รวย บางคนก็จน นี่แหละ กรรม นำพาทั้งนั้น ไม่ใครอยากเปนในสิ่งที่ไม่ดี หรือเลวกันทุกคนหรอก
09 พ.ค. 2563 เวลา 23.53 น.
กุเกลียดมึงคนไม่ดี ถูกเพราะบางทีเราทำไรไม่มีคุณค่ากับเค้าๆจะรู้สึกว่าเค้าป่วยได้คนเดียวคนที่ดูแลป่วยไม่ได้ห้ามหยุดใส่ใจเค้าเราจะเหนื่อยใจกายรักตัวเองเยอะๆเราจะได้ดูแลคนที่เรารักจริงคือพ่อแม่เรานี่ละ
09 เม.ย. 2563 เวลา 06.21 น.
NONAME ชอบจังเลยคำสอนของท่านมันให้ข้อคิดที่ดีมากๆตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
09 เม.ย. 2563 เวลา 02.29 น.
SUPADON ความรักไม่เคยทำร้ายคน คนต่างหากที่ทำร้ายความรัก
08 เม.ย. 2563 เวลา 05.55 น.
นก_ศศินันท์ ชีวิตนี้ฟ้าลิขิตไว้แล้ว.สุดท้ายก็ต้องตายจากกันสักวัน.เป็นกำลังใจให้กันและกันไว้ยามมีลมหายใจดีที่สุดแล้วค่ะ
07 เม.ย. 2563 เวลา 23.38 น.
ดูทั้งหมด