4 สถานีถัดไปที่คาดว่า จาดอน ชานโช่ จะย้ายไปร่วมทีม

ถ้าจะเอ่ยถึงแข้งวัยหนุ่มที่กำลังเนื้อหอมในโลกฟุตบอลในตอนนี้ชื่อของ จาดอน ชานโช่ คงกระโดดขึ้นมารั้งอยู่อันดับต้นๆ อย่างแน่นอน ภายหลังจากที่ฟอร์มการเล่นของเขากับ โบรุสเซีย ดอร์ทุมนด์ กำลังอยู่ในช่วงที่กระฉูดแตกทั้งยิง ทั้งจ่าย เรียกได้ว่าครบเครื่องมากที่สุดคนนึงเลย

ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เขาจะถูกพูดถึง และเชื่อมโยงกับหลายๆ ทีมโดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดินแดนบ้านเกิดของเขาเอง 

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราเลยทำได้วิเคราะห์ว่าอนาคตของเจ้าหนู จาดอน ชานโช่ ถ้าจะย้ายทีมจริงตามที่สื่อคาดการณ์ในช่วงซัมเมอร์ 2020 นี้ สถานีสโมสรไหนบ้างที่เขามีโอกาสไปสวมเสื้อไล่ล่าประตูให้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ย้อนกลับไปตั้งแต่เมื่อช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา "ปีศาจแดง" มีข่าวเชื่อมโยงกับเจ้าหนู ชานโช่ มากที่สุดแล้ว ส่วนนึงเป็นเพราะตำแหน่งการเล่นของเจ้าตัวงถนัดอยู่ทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหาจิ๊กซอว์ตรงนี้มาแสนนาน 

และถ้าสมมุติ ชานโช่ ย้ายมาร่วมทีมจริงต้องบอกว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย ด้วยวิธีการเล่นของเขา บวกกับไตล์การเล่นมาผสมผสานกับทีมในตอนนี้ที่ขาดหายไม่ว่าจะเป็นการจบสกอร์ หรือจังหวะจ่ายแอสซิสต์ที่เฉียบคม น่าจะเพิ่มมิติในแนวรุกให้กับทีมได้ไม่น้อย ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยคือถ้าสมมุติ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงได้เป็นนายใหญ่ของ "ปีศาจแดง" อยู่ ก็จะเข้าคอนเช็ปใช้เด็กลงเล่นในทีนที

เพราะขุมกำลังส่วนใหญ๋ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ล้วนแล้วแต่อายุยังน้อยทั้งนั้น นอกจากนั้นยังเป็นชาวอังกฤษเช่นกันไม่ว่าจะเป็น อารอน วาน-บิสซาก้า, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ หรือมาร์คัส แรชฟอร์ด 

แต่… ท้ายที่สุดปัจจัยสำคัญคงเป็นเรื่องของตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะด้วยความเป็นดาวรุ่ง และอยากโชว์ของลงเล่นในเวทียุโรป จึงเป็นสิ่งที่ทีมควรไขว่คว้าเอามาครอบครองให้ได้เพื่อมัดใจเด็กคนมาสู่ทีม

เชลซี

เชลซี พึ่งปิดดีลคว้า ฮาคิม ซีเย็ค จาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญาล่วงหน้าสำหรับฤดูกาลหน้า เท่ากับว่ามันเป็นการส่งสัญญาณว่าซัมเมอร์นี้พวกเขาพร้อมทุ่มอย่างเต็มที ส่วนนึงเพราะที่ผ่านมาทัพ "สิงห์บลู" ไม่ได้ใช้เงินไปสักกะปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา รวมไปถึงตลาดนักเตะเดือนมกราคม ก็ไม่ได้ใครเข้ามาเสริมทัพ ทำให้สื่อต่างคาดการกันว่าบอร์ดบริหารของทีมคงจะทุ่มหนักจัดเต็มในช่วงซัมเมอร์ 2020 นี่แหละ และมันก็เริ่มต้นขึ้นมาให้เห็นแล้ว

และชื่อของ ชานโช่ บวกกับค่าตัวที่อาจเลย 100 ล้านปอนด์ ทำให้ เชลซี กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่สโมสรที่มีกำลังเงินในการซื้อมากพอ ซึ่งถ้าดีลนี้มันบรรลุข้อตกลงกันจริง ชานโช่ จะเข้ามาเพิ่มแข็งแกร่งให้กับ เชลซี ได้มากพอสมควร เพราะสิ่งที่เราเห็นกันคือปัญหาของพวกเขานั้นอยู่ที่การจบสกอร์ รวมไปถึงแข้งความเร็วสูง ที่ไปกับบอลไปดี ทรงคล้ายๆ กับ เอแด็น อาซาร์ ซึ่งนี่แหละจะเป็นการตอบโจทย์ชั้นยอดของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

และเมื่อนำขุมกำลังที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียน พูลิซิช, คาลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, เมสัน เมาท์ หรือว่า แทมมี่ อบราฮัม มันยิ่งทวีความน่ากลัวต่อคู่แข่งอีกหลายตีนถีบเลยทีเดียว

ลิเวอร์พูล

ถึงแม้ 3 ประสานแนวรุกของ "หงส์แดง" ในตอนนี้จะโคตรแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ถ้าการได้นักเตะที่ยอดเยี่ยมอย่าง ชานโช่ มาเสริมทัพคงเป็นเรื่องที่ไร้เทียมทานเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเหมาะเจาะกับล่าสุดที่มีข่าวออกมาว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ตั้งเป้าว่าแข้งคนนี้คือเป้าหมายอันดับ 1 ของสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้

ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของการเงินต้องบอกเลยว่า ลิเวอร์พูล พร้อมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าทาง "เสือเหลือง" จะตั้งค่าตัวไว้ที่เท่าไหร่ก็ตาม เพราะทาง "หงส์แเดง" พึ่งได้รับเงินก้อนโตจากการเซ็นสัญญากับ ไนกี้ ทำให้ปัญหานี้ถูกปรับตกลงไป 

และเมื่อพูดถึงการจัดทัพตัวของ ชานโช่ เองสามารถถอยต่ำลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหลังกองหน้าได้ หรือถ้าตำแหน่งถนัดอย่างปีกด้านข้างทั้งซ้าย และขวา ทีมก็สามารถถอย ฟีร์มีโน่ ลงมาเล่นในบทบาทหมายเลข 10 พร้อมขยับ ซาลาห์ ไปเล่นเป็นหน้าเป้าก็ย่อมได้ และเมื่อมองจากหมากบนหน้ากระดานแบบนี้แล้ว มันน่าสนใจไม่น้อยว่า "หงส์แดง" ในรูปโฉมแบบนี้จะน่ากลัวมากขนาดไหน

เรอัล มาดริด

อาจจะเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้ยากที่สุดแต่ทว่าด้วยชื่อชั้นของ "ราชันชุดขาว" แล้วยังไงก็ไม่อาจมองข้ามพวกเขาได้ และยิ่งถ้าบอร์ดบริหารอยากจะได้ตัว ชานโช่ ไปทีมร่วมทีมจริงก็พร้อมทุ่มแหลกอยู่เหมือนกัน เพราะถึงตรงนี้ต้องยอมรับทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ยังคงขาดนักเตะจำพวกสปีดต้นเร็วจัด และมีความทะลุทะลวงอย่างดุเดือดแบบนี้อยู่พอดี ถึงแม้ว่าช่วงซัมเมอรที่ผ่านมาพวกเขาจะทุ่มควักเงินก้อนใหญ่จ่ายค่าตัวของ เอแด็น อาซาร์ มาก็ตาม

ซึ่งถ้า ชานโช่ ได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของ เรอัล มาดริด จริง คงต้องบอกเป็นอะไรที่น่าติดตามไม่ใช่น้อยว่าการออกไปผจญภัยอีกครั้งของเขาจะประสบความสำเร็จเหมือนกับการเก็บกระเป๋าไปสร้างชื่อที่เมืองเบียร์หรือเปล่า