"อนงนาฏ วิลาจันทร์" หรือ "ปุ๊ก" เล่าเรื่องราวชีวิต หลังเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองโตไว ระดับ 4 ระยะสุดท้ายตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะเธอไม่สามารถเปลี่ยนสิทธิรักษาโรคจากประกันสังคม เป็นสิทธิเบิกตรงข้าราชการของสามีที่รับราชการทหารได้
เธอย้อนเล่าว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา แพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตรวจพบว่าเธอมีเนื้องอกขนาด 7 เซนติเมตร ต้องผ่าตัดเร่งด่วนทันทีในวันต่อมา ตอนนั้นใช้สิทธิเบิกตรงข้าราชการของสามี แต่ผ่านมา 1 อาทิตย์ แพทย์ระบุว่า เธอป่วยเป็นมะเร็งสมองโตไว ต้องรักษาด้วยคีโม แต่จ่ายยาให้ไม่ได้ เพราะระบบเปลี่ยนสิทธิของเธอเป็นผู้ป่วยประกันสังคม หลังได้งานประจำเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา และต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเพชรเวช ซึ่งยาราคาสูงเกือบหลักแสน ซึ่งสิทธิประกันสังคมไม่ครอบคลุม เท่ากับว่าชีวิตของเธอคล้ายกับแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะล่าสุดแพทย์วินิจฉัยว่า เธออยู่ได้อีกเพียง 2 เดือน หากไม่ได้รับการรักษา แต่ในทางปฏิบัติต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ในการลาออกจากการเป็นผู้ประกันตน เพื่อขอให้สวัสดิการข้าราชการเช่นเดิม
ระเบียบของสำนักงานประกันสังคม ประกาศเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2556 ว่ารักษาโรคมะเร็งทั้งหมดเพียง 10 ชนิด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งโพรงจมูก มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งหากนอกเหนือจากมะเร็ง 10 ชนิดนี้ สิทธิประกันสังคมจะครอบคลุม ค่าใช้จ่ายในการรักษาจากการให้เคมีบำบัดหรือฉายแสงให้ปีละไม่เกิน 15,000 บาท
K_GUNNER ถ้าเบิกจากสามีได้ผมว่าควรให้สิทธิ์กับผู้ป่วยในการเลือกใช้สวัสดิการ ปล.ประกันสังคมควรพัฒนาขึ้นกว่านี้
11 เม.ย. 2560 เวลา 14.14 น.
มิตร ประกันสังคมเหมือนประกันเข้าไปทุกทีล่ะ เบี้ยน้อยอะไรๆก็น้อยตามไปด้วย
11 เม.ย. 2560 เวลา 13.49 น.
Wilawan Disawat 15000 ต่อปีจะพอที่ไหนเนี่ย
11 เม.ย. 2560 เวลา 13.38 น.
ผัวทหารยังไม่รอด นายเอาตังไปถอยรถถังใหม่
11 เม.ย. 2560 เวลา 14.05 น.
Den ซื้อรถถังง่ายจังจ่ายยากว่าวะกูงงๆๆๆให้ตายก่อนเหรอ
11 เม.ย. 2560 เวลา 13.58 น.
ดูทั้งหมด