“ผมต้องการรู้ความคิดเขาก่อนที่เขาจะคิด”
เป็นบทพูดในภาพยนต์เรื่อง The Bourne Ultimatum ของ Noah Vosen รองผู้อำนวยการซีไอเอ พูดให้กับทีม CIA ที่กำลังไล่ตาม Jason Bourne บทพูดนี้ได้สะกิดใจผมจึงเป็นที่มาของบทความ “เรากำลังอยู่ในยุค ที่มีคนรู้ว่าเราคิดอะไรก่อนที่เราจะคิด”
หนังสือ Hitler’s Private Library กล่าวไว้ว่า “หนังสือที่เราอ่านสามารถบอกได้ว่าเราเป็นคนอย่างไร” ในหนังสือเล่มนี้พยายามวิเคราะห์ความคิดของ Adolf Hitler ขณะที่กำลังมีชีวิต ผ่านหนังสือกว่า 16,000 เล่ม ที่เขาเป็นเจ้าของ โดยวิเคราะห์ความสนใจ จากทั้งหนังสือนวนิยาย วรรณกรรม หนังสือพิมพ์ หรือแม้กระทั่งหนังสือการ์ตูน ที่เขาได้อ่าน และสะสม
ในปัจจุบันหากมีคนต้องการวิเคราะห์ความคิดของเรา เขาเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องมาบ้านเพื่อดูหนังสือที่เราอ่านแล้ว การเข้ามาของโลกอินเตอร์เนต และการมีตัวตนของ Facebook ทำให้ใครก็ตามสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของเราได้โดย วิเคราะห์ร่องรอยที่เราทิ้งไว้ในโลกออนไลน์ ฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และส่งผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อทิศทางของโลกใบนี้
ในปี 2016 บริษัท Cambridge Analytica ได้รับการว่าจ้างจากทีมหาเสียงของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยเงินอย่างน้อย 6 ล้านเหรียญ หรือกว่า 200 ล้านบาท โดยบริษัท “เคมบริดจ์ อนาลิติกา” นี้ได้รวบรวมข้อมูลจากทั้งสื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลสถิติจากสาธรณะ จนถึงข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และนำข้อมูลเหล่านี้มาคาดการณ์พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางประชากรศาสตร์ประมวลผลจนได้ข้อมูลสำคัญที่จะทำให้มีผลกระตุ้ต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์
ปลายปี 2015 Facebook ตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ใช้งานเฟซบุ๊คกว่า 50 ล้านคนถูกเคมบริดจ์ อนาลิติกานำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเคมบริดจ์ อนาลิติกานำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์พฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สิ่งที่เราสนใจผ่านการกด Like การเช็คอิน สถานที่ รูปภาพ ศาสนา แนวคิดทางการเมือง หรือแม้กระทั่งรายละเอียดของความสัมพันธ์ จนนำมาซึ่งการเรียกสอบสวน มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีให้ข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหล เป็นการละเมิดกฎหมาย
จากคำพูดในภาพยนตร์ The Bourne Ultimatum ในปี 2007 แปดปีให้หลังมีคนที่สามารถทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นจริง และเปลี่ยนแปลงความคิดของเราให้เป็นไปตามที่เขาต้องการได้
หรือในเร็ว ๆ นี้มีข่าวการโฆษณาในหน้า Facebook หรือ Instagram ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสนใจ และเพิ่งจะพูดคุยกับเพื่อนผ่าน Application ทำให้หลายคนกังวลว่าระบบเหล่านี้กำลังละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเราอยู่ สิ่งเหล่านี้คือระบบการคิดของ Artificial Intelligence (A.I.) ที่บริษัทต่างๆ นำมาวิเคราะห์พฤติกรรมของเรา เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปหารายได้ให้กับบริษัทของเขา
มาถึงจุดนี้เรายังคิดกันอยู่มั้ยว่า Application ที่เราใช้ เราได้ใช้ฟรี ๆ ??
ขณะที่อ่านจนถึงตรงนี้หลายคนคงเริ่มกังวลถึงสิทธิส่วนบุคคลของตนเอง จะหยุดใช้ Application เหล่านี้หรือควรทำอย่างไร ผมขออนุญาตบอก *ณ ตรงนี้ว่าเราไม่สามารถฝืนกระแสของโลกใบนี้ได้ *
*“เรากำลังอยู่ในช่วงการเริ่มต้นของการปฏิวัติครั้งใหม่ การปฏิวัติที่จะพลิกวิถีที่เราใช้ชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง การปฏิวัติอุตสาหกรรมในครั้งนี้จะไม่เหมือนสิ่งใด ๆ ที่มนุษย์อย่างเราประสบพบเจอมาก่อน” *
ขอยินดีต้อนรับสู่…การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4
บันทึกการลงทุน ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/valuewaynjr/
