ร้านอาหารในอังกฤษเริ่มแบนอะโวคาโด เหตุทำลายสมดุลสิ่งแวดล้อม แถมเป็นแหล่งทุนนักค้ายาเม็กซิกัน

ต่อให้อร่อยดีมีประโยชน์เข้าเทรนด์รักสุขภาพแค่ไหน แต่อะโวคาโดกำลังเริ่มจะถูกแบน โดยสำนักข่าว The Guardian รายงานว่าหลายๆ ภัตตาคารในอังกฤษและไอร์แลนด์ เริ่มยกเลิกเมนูที่ทำจากอะโวคาโดกันแล้ว

เหตุผลก็เพราะเกษตรกรรมอะโวคาโดในแถบละตินอเมริกาไม่ใส่สิ่งแวดล้อม ต้องใช้น้ำมากเกินไป และต้องถางป่าเพื่อปลูกให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ทั้งยังมีรายงานว่าเกษตรกรในเม็กซิโกตะวันตกล้วนมีนายทุนเป็นแกงค์ค้ายา ที่ขายโก่งราคาและกดค่าแรง ทั้งยังเป็นต้นตอของปัญหาความรุนแรงในประเทศ ในแต่ละปี พวกเขาได้เงินกว่า 150 ล้านปอนด์ จากการขายอะโวคาโดให้อังกฤษ

“ผมไม่ใช้อะโวคาโดเพราะผลกระทบที่มันสร้างในประเทศที่ปลูกมัน การตัดไม้ทำลายป่าในชิลี และปัญหาความรุนแรงในเม็กซิโก” เจพี แม็คมาฮอน (JP McMahon) ท็อปเชฟชาวไอริช ผู้เป็นเจ้าของร้านมิชลินสตาร์ถึงสองแห่ง บอกกับสำนักข่าว Irish Independent ทั้งยังเรียกอะโวคาโดว่าเป็น ‘เพชรสีเลือด’ (blood diamond) แห่งเม็กซิโก

แม็คมาฮอนยังเสริมว่า ทางเดียวที่จะลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากความนิยมอะโวคาโด ก็คือผู้บริโภคต้องหยุดให้ความนิยมมัน เขาได้เสนอทางเลือกกับร้านอาหารว่าสามารถใช้อาร์ติโชคทดแทนกันได้ ตัวแทนร้านอาหารอื่นๆ ที่ทำการแบนก็บอกว่าอันที่จริงอะโวคาโดนั่นน่าเบื่อเกินไปแล้ว

อย่างไรก็ตามมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบนอะโวคาโด เช่น แดน ครอสลี่ย์ (Dan Crossley) ประธานมูลนิธิจริยธรรมอาหารอังกฤษ กล่าวว่า “เราไม่ควรจะถูกโน้มน้าวโดยเพียงบางร้านอาหารที่แบนมัน เรายังมีอาหารอื่นๆ ที่มีปัญหาในแง่อุตสาหกรรมการผลิต ตั้งแต่เนื้อวัวยันอัลมอนด์ และการแบนมันก็ไม่ใช่ทางออกที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”

สำหรับดีกรีความนิยมในอะโวคาโดนั้น มีคำกล่าวจากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวออสเตรเลียที่บอกว่า “ถ้าคุณ (ชาวมิลเลนเนียล) อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง คุณควรเลิกซื้ออะโวคาโด” ทั้งในอเมริกาและอังกฤษมีร้านที่มีเมนูอะโวคาโดเป็นไม้เด็ด และตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มีการประท้วงของแรงงานชาวเม็กซิกัน ทำให้อะโวคาโดขาดแคลนและราคาพุ่งสูงปรี๊ด ก็กลายเป็นปัญหาปวดหัวของร้านอาหารในอเมริกาเพราะเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง

ในปีหน้านี้เองกลุ่มผู้ปลูกอะโวคาโดประเทศเปรูก็มีแผนจะโปรโมตอะโวคาโดในประเทศจีนด้วย ส่วนความกังวลที่เหล่าร้านอาหารในอังกฤษมีนั้นจะลามไปถึงที่อื่นด้วยไหม เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

https://www.theguardian.com/food/shortcuts/2018/dec/10/should-you-stop-eating-blood-avocados

https://www.theguardian.com/lifeandstyle/2017/may/15/australian-millionaire-millennials-avocado-toast-house

https://www.freshplaza.com/article/9052461/peru-prohass-will-promote-avocados-in-china-next-year/

https://www.independent.ie/life/food-drink/restaurants-should-stop-serving-avocado-irish-michelin-star-chef-says-theyre-akin-to-battery-chickens-37592513.html

https://www.azcentral.com/story/entertainment/dining/2018/12/11/avocado-shortage-mexico-strike-hurts-phoenix-restaurants/2227573002/

เครดิตภาพ: Arx0nt