ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร โดยอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร และ ร่างกฎกระทรวงออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลรัษฎากร คือ กำหนดให้ปรับเพิ่มค่าลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไปของผู้มีเงินได้ หรือของสามีหรือภริยาของผู้มีเงินได้ ซึ่งเกิดตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป โดยให้หักลดหย่อนได้เพิ่มอีก 30,000 ต่อคนต่อปีภาษี และให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี 61 ที่ต้องยื่นรายการในปี 62 เป็นต้นไป
ส่วนร่างกฎกระทรวงฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสสามารถนำค่าฝากครรภ์หรือค่าคลอดบุตรไปหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริงสำหรับการตั้งครรภ์แต่ละคราว แต่ไม่เกิน 60,000 บาท สำหรับค่าฝากครรภ์และค่าตลอดบุตรที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม สิทธิการหักลดหย่อนดังกล่าวให้เฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ หรือคลอดบุตรจากแหล่งอื่น ๆ เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ เป็นต้น
มาตรการดังกล่าวเพื่อจูงใจให้คนไทยมีบุตรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้และอยู่ในระบบภาษี และยังเป็นการสนับสนุนให้บุตรได้รับการเลี้ยงดูและเติบโตอย่างมีคุณภาพอันจะทำให้ประเทศไทยมีกำลังแรงงานที่มีคุณภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมทั้งยังเป็นการเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 2,500 ล้านบาท/ปี
ยุ้ย ไม่คิดจะสนับสนุนคนดีที่อุปการะพ่อ-แม่ ให้ได้ลดหย่อนเพิ่มบ้างหรอ ไหนจะค่ายา ค่าอาหาร ค่าหมอ ค่าเลี้ยงดูอื่นๆ
ข้าว-ของก็แพงเอา แพงเอา ผู้สูงอายุเค้าก็เคยเป็นผู้ช่วยขับเคลื่อนประเทศชาติเหมือนกัน ส่วนตัวเราก็ยังช่วยขับเคลื่อนอยู่ มาช่วยเราบ้างดิ
16 ม.ค. 2561 เวลา 15.08 น.
Keng nopdon เลี้ยงลูก1คนกว่าจะเอาตัวรอดได้ 25 เด้อ คุ้มเนอะ
16 ม.ค. 2561 เวลา 16.06 น.
Nut มีลูกให้เป็นคนดีก็น่ามีอยู่ แต่ถ้าจะมีเป็นภาระสังคมก็ลองคิดดูดีๆนะ เลี้ยงลูกไม่ยาก แต่จะเลี้ยงเป็นคนดียากกว่า เลี้ยงยังไงให้เด็กมีคุณภาพ ไม่เป็นขยะสังคมก็พอใจละ
16 ม.ค. 2561 เวลา 15.32 น.
ดูทั้งหมด