ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดเงินลงทุนรอบใหม่และเป็นการปรับฐานการลงทุนไทยอย่างแท้จริง โดยเน้นใน 3 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงหรือเอส-เคิร์ฟ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวี, อิเล็กทรอนิกส์ และการท่องเที่ยว ซึ่งมีเป้าหมายดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ให้ได้ประมาณ 1 ล้านล้านบาท
“ทุกวันนี้ในสายตานักลงทุนต่างประเทศ มองว่าไทยมีศักยภาพที่สูงมากและยังสนใจเข้ามาลงทุนในไทย โดยล่าสุดในปี 64 มียอดการขอรับการส่งเสริมมากกว่า 6.4 แสนล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงเร่งดำเนินการให้ทุกคนรู้ว่าไทยยังเป็นที่หอมหวานของต่างประเทศ แม้ว่าคนไทยเองไม่รู้สึกอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วต่างชาติมองตรงกันข้าม โดยเฉพาะปัญหาการเมือง”
ม.ล.ชโยทิต กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์สันดาปที่ติดอันดับ 1ใน 10 ของโลก หากทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีวีด้วย ก็จะสร้างเงินลงทุนได้อีกไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาท จากการลงทุนปรับเปลี่ยนจากรถสันดาปมาเป็นรถอีวี และหากดึงการลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นต้นน้ำ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เข้ามาได้อย่างน้อย 2 ราย ก็ทำให้เกิดเงินลงทุนแล้วอย่างน้อย 4 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันถ้าสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงที่เกษียณอายุมาอยู่ในไทยให้ได้ตามเป้าหมายที่เชื่อว่าจะมียอดใช้จ่ายอย่างน้อย 1ล้านล้านบาท จากยอด 1 ล้านคน ก็เชื่อมั่นว่าการปรับฐานการลงทุนรอบใหม่จะสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอนและช่วยดันจีดีพีได้อย่างน้อยปีละ 3% ในช่วง 2 ปีจากนี้
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า แค่เพียงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก็สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 50% ของจีดีพีอยู่แล้ว ถ้าไทยไม่ปรับตัว ไม่ผลักดัน ไม่ดึงดูดให้เกิดการลงทุนในไทย ก็จะไม่สามารถแข่งขันหรือตามเพื่อนบ้านได้ทันแน่นอน
อย่างไรก็ตามในเรื่องของแพ็กเกจรถยนต์อีวี ขณะนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วรอเพียงแค่กระบวนการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปรวมและนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อประกาศแผนที่ชัดเจน ยืนยันว่าไทยพร้อมแน่กับการเดินหน้ารถยนต์อีวี เพราะมีความต้องการสูงที่เป็นแรงดึงดูดได้เป็นอย่างดี และมีหลายบริษัทให้ความสนใจเข้ามาลงทุน อย่างกรณีของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ที่ร่วมทุนกับ บมจ.ปตท. เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ที่ถือว่าเป็นผลดีกับไทยอย่างมาก เพราะฟ็อกซ์คอนน์ถือเป็นฐานการผลิตไอโฟน ที่ใหญ่ที่สุดของโลกให้กับแอปเปิ้ล ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกมาก รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกมาก
ส่วนเรื่องของมาตรการดึงดูดต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงหรือเป็นผู้มีทักษะสูง ให้เข้ามาอยู่ในไทยระยะยาว โดยให้ถือวีซ่าระยะยาว 10 ปี และการให้ใบอนุญาตภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดนั้นคาดว่าภายใน 1-2 เดือนจากนี้ น่าจะมีผลบังคับใช้ได้อย่างเป็นทางการ ขณะที่เรื่องของการให้ต่างชาติเป็นเจ้าของหรือเช่าทรัพย์สินได้ นั้น คงต้องรอเวลาที่เหมาะสม ส่วนเรื่องของอุตสาหกรรมยา ยอมรับว่าในขณะนี้ยังถือว่าเป็นเรื่องยาก ที่ยังต้องใช้เวลา ความร่วมมือ และกระบวนการต่าง ๆ ต่อไป.
เสียใจด้วย
25 ม.ค. 2563 เวลา 09.33 น.
Peerawat P. เด็กต่างจังหวัดสมัยนี้ ทำไรแทบจะไม่เป็น พ่อแม่ทำให้ทุกอย่าง ความอดทนอดกลั้นรึ แทบจะไม่มี เอะอะพ่อแม่ เอะอะพ่อแม่ โตจนอายุยี่สิบกว่าแล้วก็ยังทำตัวเป็นเด็ก
25 ม.ค. 2563 เวลา 08.06 น.
June คิดถึงแม่ แล้วจะตายจากแม่ทําไม
25 ม.ค. 2563 เวลา 07.42 น.
??? เลี้ยงโอ๋มากก็แบบนี้แหละจำไว้พ่อแม่ทุกคนอย่าให้ลูกอ้อนมาก/พอไปสู่นอกบ้านเด็กเลยแยกแยะไม่เป็น/ว่าวันนึงก็ต้องอยู่ให้ได้คนเดียว/พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยจนแก่ตาย/โลกทรงกลมก็จริงแต่สังคมรอบตัวมันทรงเหลี่ยม
25 ม.ค. 2563 เวลา 06.50 น.
thola-mong สอบสวนให้กระจ่าง วัยนี้ติดแม่จนกระโดดตึกตายมันฟังยาก
25 ม.ค. 2563 เวลา 06.42 น.
ดูทั้งหมด