เอเอฟพี - เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ ทรงยอมรับวานนี้ (19 ม.ค.) ว่ารู้สึก “เสียพระทัยอย่างยิ่ง” ที่ต้องสละฐานันดรศักดิ์ความเป็นเจ้าชายแห่งอังกฤษตามข้อตกลงกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หลังจากที่พระองค์และ เมแกน มาร์เคิล ได้ออกแถลงการณ์ขอลดบทบาทเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง
อย่างไรก็ดี เจ้าชายแฮร์รีตรัสว่าไม่ทรงเห็นทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากยุติบทบาทความเป็นเจ้า เพื่อแสวงหา “ชีวิตที่สงบสุขยิ่งขึ้น” กับพระชายาชาวอเมริกันและโอรสน้อย อาร์ชี
“ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่มันกลายเป็นเช่นนี้” เจ้าชายแฮร์รีตรัสกับผู้สนับสนุนมูลนิธิในแอฟริกาของพระองค์ที่กรุงลอนดอน นับเป็นครั้งแรกที่ทรงเปิดเผยความรู้สึกในพระทัยหลังจากที่ทรงขอแยกตัวไปใช้ชีวิตอย่างอิสระจนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่สั่นคลอนรากฐานของสถาบันกษัตริย์อังกฤษ
ดยุคแห่งซัสเซกซ์ยังทรงสารภาพว่ารู้สึกกังวลใจอยู่บ้างที่จะต้องยุติการปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะเจ้าชาย และออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีตรัสว่าทรง “พร้อมมานานแล้ว” ที่จะเลิกนำเงินสาธารณะมาซัพพอร์ตการใช้ชีวิตของพระองค์เอง แต่ทรงรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องสละยศทหารและตำแหน่งต่างๆ ที่ทรงได้รับหลังจากที่เสด็จฯ ไปปฏิบัติภารกิจในฐานะนักบินเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ร่วมกับทหารอังกฤษในอัฟกานิสถานมา 2 ครั้ง
เจ้าชายแฮร์รีทรงมีสีพระพักตร์เคร่งเครียดระหว่างที่อ่านพระดำรัสซึ่งถูกเตรียมมาแล้ว ในความพยายามบรรเทาความสับสนและผิดหวังของพสกนิกรชาวอังกฤษซึ่งเคยเห็นอกเห็นใจพระองค์เป็นพิเศษมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
“นี่คือก้าวกระโดดแห่งความศรัทธา ขอขอบคุณทุกท่านที่มอบความกล้าหาญให้แก่ข้าพเจ้าในการก้าวต่อไป” เจ้าชายแฮร์รีตรัส
วิกฤตของราชวงศ์ซึ่งสื่ออังกฤษตั้งฉายาว่า ‘Megxit’ เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีและ เมแกน ทรงออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ว่าจะขอ “เริ่มต้นบทบาทใหม่” ในอเมริกาเหนือ โดยที่ไม่ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก่อน
“ข้าพเจ้าทราบดีว่าไม่ได้ทำถูกต้องไปเสียทั้งหมด แต่สำหรับเรื่องนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ” เจ้าชายแฮร์รี ระบุ
ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีและ เมแกน จะไม่ใช้คำนำหน้า His/Her Royal Highness (HRH) ซึ่งคล้ายกับกรณีของเจ้าหญิงไดอาน่าหลังจากที่ทรงหย่าขาดจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลสในปี 1996 ทว่าจะยังทรงดำรงพระยศดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ต่อไป นอกจากนี้ยังทรงยอมที่จะจ่ายคืนเงินภาษีประชาชน 2.4 ล้านปอนด์ที่ใช้เป็นค่าตบแต่งพระตำหนักฟร็อกมอร์ ซึ่งเป็นวังที่ประทับในเขตพระราชวังวินด์เซอร์
ดิกกี้ อาร์บิเทอร์ อดีตเลขานุการฝ่ายสื่อของราชวงศ์อังกฤษ เขียนลงในหนังสือพิมพ์เดอะซันวานนี้ (19) ว่า “ไม่เคยมีพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ไหนจ่ายคืนเงินภาษีประชาชนมาก่อน นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย”
อย่างไรก็ตาม อาร์บิเทอร์ ชี้ว่าการที่เจ้าชายแฮร์รีทรงสูญเสียความเป็น His Royal Highness ต่างหากที่ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของราชวงศ์โดยแท้จริง
“แม้แต่ตอนที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ทรงสละราชสมบัติ (ในปี 1936) ก็ยังแค่เพียงเปลี่ยนคำนำหน้าพระนามจาก His Majesty the King กลับมาเป็น His Royal Highness ดยุคแห่งวินด์เซอร์เท่านั้น”
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เมแกน ซึ่งเป็นอดีตนักแสดงชาวอเมริกันคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ดัชเชสวัย 38 ปีเคยให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสถานีโทรทัศน์อังกฤษเมื่อเดือน ต.ค. ว่าเธอ “พยายามเต็มที่ที่จะสงบปากสงบคำแบบชาวอังกฤษ… แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต”
เจ้าชายแฮร์รีเองก็ทรงยอมรับว่า เหตุการณ์ที่พระมารดาถูกพวกปาปารัสซี่ไล่ตามจนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์สิ้นพระชนม์ในกรุงปารีสเมื่อปี 1997 ยังคงเป็นบาดแผลในใจพระองค์เรื่อยมา
ทั้งสองพระองค์ได้ยื่นฟ้องเอาผิดกับสื่อแท็บลอยด์อังกฤษหลายสำนักในเดือน ต.ค. รวมถึง ‘เมล์ ออน ซันเดย์’ ซึ่งได้นำข้อความบางส่วนในจดหมายที่ เมแกน เขียนถึงบิดา โทมัส มาร์เคิล มาตีพิมพ์ หลังจากที่เธอเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รีเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2018
โทมัส มาร์เคิล ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Channel 5 อังกฤษเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การที่ เมแกน ตัดสินใจทิ้งบทบาทสมาชิกราชวงศ์เป็นเรื่องที่ “น่าอับอายขายหน้า”
“ผมว่าทั้งสองคนกำลังกลายเป็นวิญญาณหลงทาง (lost souls) ไปเสียแล้ว” เขากล่าว
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในกระบวนการทางกฎหมายซึ่งไม่ใช่น้อยๆ รวมถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าชายแฮร์รีและ เมแกน จะต้องรับผิดชอบค่ารักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยตัวเอง ก่อให้เกิดคำถามว่าทั้งสองจะแสวงหารายได้มาจากไหน แต่ก็มีรายงานจากเดอะเดลีเทเลกราฟวันนี้ (20) ว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลสซึ่งเป็นพระบิดาอาจจะพระราชทานเงินรายได้ส่วนพระองค์เพื่อสนับสนุนพระโอรสไปตลอดช่วงปีหน้า
T. Noppawan ทางสายเก่าที่ท่านเคยเดินตั้งแต่เล็กจนโต ท่านไม่เลือกเอง
ท่านไปเลือกเดินทางสายใหม่เอง ซึ่งท่านเองก็ไม่รู้ว่าจะราบเรียบ หรือเจออุปสรรคใดๆ บ้าง
เลือกไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจ
ใครบอกก็ไม่เชื่อ ต้องลองเดินเอง
จะโชคร้าย หรือโชคดี แล้วแต่ชะตากรรม ที่ตัวเองกำหนดเอง
20 ม.ค. 2563 เวลา 05.46 น.
น้องเลือกเพียงครอบครัว ส่วนคนเป็นพี่เลือกทั้งครอบครัวและหน้าที่
20 ม.ค. 2563 เวลา 07.03 น.
Bunthan Khunthong เพราะผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้
20 ม.ค. 2563 เวลา 05.57 น.
NTP เมียกดดันก็แบบนี้แหละ นี่ะถ้าไม่มีลูกด้วยกัน ผลอาจออกมาอีกแบบ
20 ม.ค. 2563 เวลา 06.02 น.
P a n d o r a นายแน่มาก แฮรี่ ยับถือในความเด็ดเดี่ยว
20 ม.ค. 2563 เวลา 06.00 น.
ดูทั้งหมด