ไลฟ์สไตล์

นทท.พาครอบครัวหนีฝุ่น PM2.5 กทม. แต่ตัองมาเผชิญไฟเผาป่าที่เขาค้อ

77kaoded
เผยแพร่ 17 ม.ค. 2563 เวลา 22.30 น. • 77 ข่าวเด็ด

เพชรบูรณ์-นทท.พาครอบครัวหนีฝุ่น PM2.5 กทม. แต่ต้องมาเผชิญไฟเผาป่าที่เขาค้อ ชาวเน็ตถามมอตโตเพชรบูรณ์เมืองแห่งท่องเที่ยวยังใข้ได้หรือไม้ ให้เปลี่ยนเมิองในหมอกควัน

วันที่ 18 ม.ค.62 บนเฟสบุ๊คนักท่องเที่ยวที่ใช้ชื่อ "Pornsan Panjathep" บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่พาครอบครัวหลบออกจากเมืองหลวงของประเทศไทย หนีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขับรถเดินทางมาที่เขาค้อโดยหวังจะดื่มด่ำกับโอโซนที่บริสุทธิ์ แต่ผิดคาดนอจากมาพบภาพการเผาป่าควันโขมงบริเวณสองข้างถนนหลวงแล้ว ยังต้องมาเผชิญกับม่านควันที่ปกคลุมไปทั่วและเหตุการณ์ไฟป่าจนต้องเกลี่ยนที่พัก กระทั่งตัดใจยกธงยอมแพ้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เพ้อกฎหมายไม่มีใครเกรงกลัว อยากเผาก็เผา ไม่มีความร่วมมือ จนชาวโซเชียลแห่คอมเม้นท์กันระรัว ขณะเดียวกันมีบางรายโพาต์แซวแบบเจ็บๆคันๆ โดยตั้งคำถามถึงมอตโต้ "เมืองแห่งการท่องเที่ยว"ยังใช้ได้อยู่หรือไม่ โดยเสนอให้เปลี่ยนเป็น "เพชรบูรณ์เมืองในหมอกควัน"แทนอีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยเนื้อหาที่ "Pornsan Panjathep" ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ฟังระบุว่า "ผมโมโหและโกรธกับเรื่องนี้ชิบหาย"

ฝุ่น PM2.5 ท่วมกรุงเทพฯ ภรรยาเริ่มไอไม่สบาย วันหยุดลูกก็สงสารเพราะออกไปเล่นนอกบ้านไม่ได้ เลยตัดสินใจพาครอบครัวหนีฝุ่นมาเขาค้อ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมืองที่ครอบครัวเรามาเป็นประจำ และคาดว่าอย่างน้อยอากาศก็น่าจะดีกว่ากรุงเทพฯ

ระหว่างทางขับมาสองข้างถนนหลวง เห็นการเผาทุ่งนาควันพวยพุ่งตลอดทาง หรือไม่ก็เห็นพื้นเป็นเถ้าถ่านจากการเผาที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน

ถึงเขาค้อ เห็นควันคลุมทั้งเมือง กังหันลมแทบมองไม่เห็น อากาศที่หายใจรู้สึกได้ว่ามีกลิ่นควันไฟอยู่ในอากาศตลอดเวลา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เอาวะ ทำใจ มาถึงนี่แล้ว ทำอะไรไม่ได้

ออกจากที่พักตอน 4 โมงเย็นเพื่อไปหาข้าวกิน มองไปหน้าที่พักเห็นควันไฟอยู่ไม่ไกล กลิ่นควันไฟในอากาศอีกแล้ว หวังว่าก่อนเข้านอนมันจะดับ

กลับมาถึงที่พักตอนทุ่มครึ่ง เจอกับภาพที่เห็น

ไฟลุกลามไปทั่ว ใกล้ที่พักเข้ามาทุกที กลิ่นควันชัดขึ้นอย่างมาก ทิศทางลมมาทางห้องที่ผมพัก ยังไม่ได้ยินเสียงรถดับเพลิง

ผมประเมินสถานการณ์ว่าอยู่ไม่ได้แน่ ไฟเข้ามาใกล้มาก ควันทิศมาทางนี้อย่างเห็นได้ชัด แนวกั้นไฟมีแค่ถนนในโครงการซึ่งมีแนวเสาไฟฟ้า ผมคาดว่ามีโอกาสสูงมากที่ไฟฟ้าจะดับ และหากควันไฟประจวบเหมาะพอดีมันจะรมควันห้องที่ผมพักแบบโหมเข้าใส่

ตัดสินใจหนีมาหาที่พักใหม่ มีลูกเล็กอยู่ด้วยคือเสี่ยงไม่ได้

ความคิดแรกในหัวหลังจากหาที่พักใหม่ได้คือยอมแล้ว ผมยอมแพ้

ผมตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ด้วยตัวเองมาตลอดเพราะรู้ว่าหวังพึ่งใครไม่ได้ ที่บ้านซื้อเครื่องฟอกอากาศ 3 เครื่อง ติดแอร์เพิ่มเติม ซื้อลู่วิ่ง ลงทุนไปเป็นแสน

มีโอกาสคือพาครอบครัวหนีออกต่างจังหวัด ผมสงสารลูกที่ถ้าอยู่ก็ต้องบังคับให้อยู่แต่ในบ้านเท่านั้น วิ่งเล่นขี่จักรยานอะไรก็ไม่ได้

สิ่งที่เห็นคือการเผาพื้นที่มาตลอดทาง ผิดกฎหมายก็ไม่ได้มีใครเกรงกลัว ไม่ได้มีการร่วมมืออะไร อยากเผากูก็เผา

จนกระทั่งมันใกล้ชีวิตผมส่งผลกระทบขนาดนี้ ผมสรุปว่าผมยอมแพ้แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนทำอะไรอีกแล้ว

ไม่ต้องไปไหน ผมจะอยู่บ้าน เปิดเครื่องฟอกอากาศ ร้อนมากก็เปิดแอร์ ค่าไฟแม่งจ่ายกันเข้าไป

ผมไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้วกับเรื่องพื้นฐานในการดำรงชีวิต แค่เรื่องขอให้มีคุณภาพอากาศที่ดีให้เราได้หายใจ

คือแม่งยอมแพ้จริงๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 3
  • Art UT
    เผากันเข้าไป เสร็จแล้วก็แล้งหนักๆ จะได้ไม่มีน้ำแล้วก็เลิกปลูกไปเลย ชดใช้กรรมที่ก่อไว้ครับ
    18 ม.ค. 2563 เวลา 02.08 น.
  • PhanaSonics
    ประเทศไทยเรา ถ้าไม่มีพวกอมนุษย์มักง่าย ไม่ยอมเข้าใจโลกสักที ป่านนี้เจริญไปนานแล้ว
    18 ม.ค. 2563 เวลา 03.13 น.
  • Pagorn Suebwong
    ชาวไทยหรือเปล่า???
    18 ม.ค. 2563 เวลา 01.31 น.
ดูทั้งหมด