วันที่ 8 ธ.ค. 62 นายเสถียร อำไพ อายุ 47 ปี เปิดเผยว่า ตนเองตกเป็นผู้เสียหายถูกเซลส์ขายรถยี่ห้อดังย่านลาดพร้าว นัดให้เซ็นเอกสารและจ่ายเงินจองรถ จนกระทั่งให้มีการโอนเงินดาวน์ล่วงหน้า จากนั้นไม่สามารถออกรถได้ เนื่องจากเอกสารที่เซ็นทั้งหมดเป็นเอกสารปลอม โดยสูญเงินไปกว่า 1.3 แสนบาท
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ตนเองเดินทางเข้าไปที่โชว์รูมรถยี่ห้อหนึ่งสาขาลาดพร้าว เพื่อที่จะดาวน์รถยนต์ โดยได้วางเงินมัดจำจำนวน 5,000 บาท และได้เอกสารการจองกลับมา จากนั้นวันที่ 1 ต.ค. เซลส์ติดต่อมาขอให้ตนโอนเงินดาวน์ให้ 15,000 บาท ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปที่โชว์รูมเพื่อไปโอนเงิน เพราะคิดว่าเข้าไปที่โชว์รูมน่าจะมีความปลอดภัยมากกว่า ตนจึงโอนไปในวันนั้นอีก 15,000 บาท
ต่อมาวันที่ 4 ต.ค. ขอให้โอนเงินดาวน์ให้อีก 50,000 บาท ตนก็เดินทางไปที่โชว์รูมเพื่อไปโอนเงินเช่นเดิม โดยวันนั้นโชว์รูมบอกว่าไม่มีรถสีดำตามที่ตนเองชอบ จึงต้องโอนเงินดาวน์เพิ่มเพื่อที่จะไปซื้อรถจากโชว์รูมอื่นมาแต่งให้ โดยให้โอนเพิ่มอีก 60,000 ในวันที่ 21 ต.ค. รวมทั้งสิ้นโอนไป 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 130,000 บาท แต่แล้วหลังจากวันนั้นมีไฟแนนซ์โทรศัพท์มาหาตนเองว่าเครดิตตนเองไม่ผ่าน ตนก็ตกใจ จึงติดต่อไปถามเซลส์ เพราะก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าไฟแนนซ์ของตนผ่านแล้ว ซึ่งเซลส์ก็บอกว่าจะไปคุยกับไฟแนนซ์ให้
จากนั้นเซลส์ติดต่อกลับมา อ้างว่าคนที่ค้ำประกันให้ตนมีอายุน้อย ตนก็สงสัยว่าจะอายุน้อยได้อย่างไร เพราะน้องชายตนที่เป็นคนค้ำประกันอายุ 40 กว่าปีแล้ว ตนจึงเข้าไปที่โชว์รูมสาขาลาดพร้าวเพื่อจะทำเรื่องขอคืนเงิน ซึ่งแจ้งกลับมาว่าจะคืนเงินให้ตนในวันที่ 5 ธ.ค. จำนวน 70,000 บาท และวันที่ 25 ธ.ค. อีก 60,000 บาท ตนก็ถามกลับว่าทำไมไม่คืนเงินเป็นก้อน เขาก็อ้างว่าเป็นขั้นตอนของบริษัท
กระทั่งวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับเงินคืนมาเพียงแค่ 20,000 บาท จึงเดินทางไปเช็กที่สาขารัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ดูแลสาขาลาดพร้าวอีกทอดหนึ่ง จึงได้ทราบความจริงว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม เนื่องจากสาขารัตนาธิเบศร์บอกว่าไม่ได้รับโอนเงินเข้ามาที่บริษัทแต่อย่างใด จากเหตุการณ์นี้ตนจึงอยากได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่แค่ปลดพนักงาน และปัดปัญหาไปเช่นนี้
ด้านนายทัศน์ เซลส์หนุ่มที่ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนเองได้คุยกับผู้เสียหายแล้ว ซึ่งผู้เสียหายก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่สำคัญไม่มีการนัดหมายให้ไปเจอ แต่เหตุผลทั้งหมดตนเองขอไม่ตอบ เพราะขออนุญาตคุยกับลูกค้าเท่านั้น
เช่นเดียวกับนายเอก หัวหน้าทีมเซลส์ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้โชว์รูมรถได้ให้พนักงานเซลส์คนดังกล่าวพ้นสภาพไปแล้ว ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดภายในทีมที่เซลส์หนุ่มคนดังกล่าว ได้ทำเอกสารปลอม โดยเป็นเอกสารที่มีการยกเลิกใช้งานไปแล้วนำไปใช้ในการเซ็นเพื่อจองรถ จึงไม่สามารถใช้งานได้จริง อีกทั้งเงินที่จ่ายหรือรับมาจากลูกค้าก็ไม่ได้นำส่งให้กับบริษัท เพราะเป็นการโอนเข้าบัญชีส่วนตัว และทราบว่าเซลส์ที่ก่อเหตุนำเงินไปใช้ส่วนตัว แต่ตนเองในฐานะหัวหน้าทีมเซลส์ก็ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีข้อตกลงว่าเซลส์หนุ่มจะต้องจ่ายเงินจนครบตามจำนวน แล้วตัวเองในฐานะหัวหน้าทีมจึงร่วมแสดงความรับผิดชอบด้วยการติดตามทวงถามจำนวนเงินดังกล่าว และรอการพิจารณาโทษในฐานะทีมเซลส์ ซึ่งหากบริษัทแจ้งว่ามีความผิด ตนเองก็พร้อมรับ ยืนยันว่าตนเองไม่รู้เห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของเซลส์รายนี้
https://youtu.be/r4q4vvfLPPU
Papada Promrin มีงี้ด้วย ขนาดไปทำสัญญาที่โชว์รูม ยังเป็นเอกสารปลอม มาถึงจุดนี้แล้วหรือประเทศไทย
08 ธ.ค. 2562 เวลา 18.39 น.
£ak"Anu$orn พูดแบบนี้เท่ากับให้รอเงินคืนจากไอ้คนที่เอาไปสถานเดียวอะดิ ถ้ามันไม่มีจ่ายก็ต้องรอ บริษัทห่วยจนไม่ทีมาตรการเยียวยาลูกค้าเลยหรอ
08 ธ.ค. 2562 เวลา 17.37 น.
บัวบูชา น่าจะบอกว่าบริษัทรถชื่ออะไร คนจะได้ระวังตัวไม่ซื้อรถ ปิดเพื่ออะไร
08 ธ.ค. 2562 เวลา 17.34 น.
Khunkea999 น่ากลัวว่ะ
ทำสัญญาในโชว์รูม
จ่ายเงินที่นั่น เอกสารออกจากในนั้น
บอกเอกสารปลอม
แล้วจะได้เงินคืนยังไง??
เราว่ามันละลายไปหมดล่ะ
08 ธ.ค. 2562 เวลา 20.15 น.
ความโลภ ในทางที่ผิด ไม่เคยทำให้ใครได้ดี เดี๋ยวปัญหาอื่น ๆ ที่ต้องตามแก้ ตามล้างเช็ด ตามมาอีกเยอะ
08 ธ.ค. 2562 เวลา 20.31 น.
ดูทั้งหมด