แจ้งจับส.ส.สาวคนเดียว บก.ปทส.ขออำนาจสอบ ส่วน ‘ทวี’ เจอคดีที่สวนผึ้ง
เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำป้ายประกาศตรวจยึดพื้นที่ฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ของ “ปารีณา” ไปติดตั้งแล้วโดยนำไปติดทั้งหมด 4 จุด เพื่อให้รู้ว่าที่ดินทำผิดกฎหมาย ห้ามเข้าไปในพื้นที่ ส่วนการดำเนินคดียืนยันดำเนินคดีกับ “ปารีณา” เพียงคนเดียว ส่วน “ทวี” ผู้พ่อไม่ได้ถูกดำเนินคดี ส่วนคดีที่ “ทวี” บุกรุกที่ “ลุงเสี้ยว” ถูกแจ้งความแล้ว หลังป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบที่ทำกินถูกฮุบจริง
ภายหลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณ ฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และพบว่าพื้นที่บริเวณฟาร์มไก่บุกรุกพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จำนวนเนื้อที่ 41-1-59 ไร่ และป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 จำนวนเนื้อที่ 4-3-81 ไร่ รวมจำนวนเนื้อที่ 46-1-40 ไร่ และได้แจ้งความกับ บก.ปทส.เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณาแล้วนั้น
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายวัชระ ละอออ่อน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1 จอมบึง นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าติดตั้งป้ายในบริเวณฟาร์มไก่ที่ถูกดำเนินคดีเพื่อประกาศให้เป็นพื้นที่ที่ถูกตรวจยึดโดยบริเวณดังกล่าวมีโรงเรือนที่เคยใช้เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ จำนวน 5 โรงเรือน ห้ามผู้ใดเข้าทำกิจการในบริเวณนี้
ข้อความในป้ายเขียนว่า “พื้นที่ตรวจยึดบริเวณนี้ปรากฏการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า เข้ายึดถือและครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตและความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐานเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขต ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จำนวนเนื้อที่ 41-1-59 ไร่”
ข้อความระบุอีกว่า “และป่าตามพระราชบัญญัติ ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 จำนวนเนื้อที่ 4-3-81 ไร่ รวมจำนวนเนื้อที่ 46-1-40 ไร่ ตาม ปจว.ข้อ 4 ลงวันที่ 2 ธ.ค.62 เวลา 17.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจยึดโดยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1 (จอมบึง) หน่วยป้องกันและพัฒนา ป่าไม้จอมบึง สังกัดศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กรมป่าไม้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ปิดประกาศ ณ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2562” ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ติดตั้งป้ายประกาศทั้งหมด 4 จุดในบริเวณรอบๆ พื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้และไม่ให้บุคคลเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
นายธวัชชัย ลัดกลูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเขาสนฟาร์ม จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณากล่าวถึงกรณีการร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.ปารีณาข้อหาบุกรุกป่าและครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตว่า กรมป่าไม้ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพียงคนเดียว ไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายทวี ไกรคุปต์ด้วย ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมนายทวี จึงไปมอบตัวกับ บก.ปทส. และเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรมป่าไม้ได้แถลงชัดเจนว่าดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ใน 4 ข้อกฎหมาย คือ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97
ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบก.ปทส.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกรมป่าไม้แจ้งความเอาผิด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ สร้างฟาร์มไก่เขาสนฐานบุกรุกเขตป่าไม้และป่าสงวนกว่า 46 ไร่ ว่า ทำรายงานเสนอไปยัง บช.ก.เพื่อขอให้ บก.ปทส.มีอำนาจในการสอบสวนคดี ขณะนี้เร่งตรวจสอบเอกสารการรังวัดที่ดินที่กรมป่าไม้แจ้งมาและจะทยอยเรียกสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารที่ดิน ส่วนผู้กระทำผิดที่กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีมี น.ส.ปารีณาเพียงรายเดียว ส่วนนายทวี ไกรคุปต์ บิดานั้นไม่ได้ถูกแจ้งความเอาผิดด้วย
ส่วนกรณีนายเสี้ยว นำพา อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พร้อม น.ส.ปราณี นำพา และ น.ส.อำไพ นำพา ลูกสาวเข้าร้องเรียนว่าถูกนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม พ่อของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 ราชบุรีบุกรุกที่ดินโดยล้อมรั้ว ปลูกต้นมะพร้าวทำให้ที่ดินที่ถือครองทำกินเลี้ยงครอบครัวนานกว่า 50 ปี หายไปกว่า 30 ไร่ กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตรวจสอบวัดแนวเขตที่ดินที่เกิดข้อพิพาทพร้อมสอบสวนนายเสี้ยวพร้อมลูกสาวและชาวบ้านที่เป็นพยานด้วยนั้น
ต่อมาสายวันที่ 5 ธ.ค. น.ส.ปราณี กับ น.ส.อำไพ นำพา ลูกสาวนายเสี้ยวได้นำเอกสารบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมเอกสารตารางค่าพิกัดอย่างละเอียดและแผนที่แสดงพื้นที่ตรวจสอบเข้าแจ้ง พ.ต.ต.จักราวุธ กลางคาร สว. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ ฐานบุกรุกที่ดินตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.62 โดย น.ส.ปราณี เปิดเผยว่าหลังจากได้เอกสารการตรวจรังวัดจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้วได้นำมอบเป็นหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ ต่อไป
“ฉันและครอบครัว ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอดและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กอ.รมน. หน่วยงานต่างๆ และสื่อมวลชนที่ทำให้ทุกอย่างกระจ่าง เพราะตอนแรกที่ถูกบุกรุก นายเสี้ยวผู้เป็นพ่อและฉันพยายามร้องทุกข์ต่อหน่วยงานหลายแห่งแต่เรื่องเงียบไม่คืบหน้าใดๆ คาดว่าเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ คงไม่มีปัญญาไปสู้อะไรกับเขาหรอก จนพวกเราแทบหมดกำลังใจแล้ว แต่วันนี้ทุกอย่างชัดเจน ต่อไปก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย” น.ส.ปราณีกล่าว
ด้าน พ.ต.ต.จักราวุธ กลางคาร สว. (สอบสวน) เจ้าของคดี กล่าวว่าผู้เสียหายได้มามอบเอกสารการตรวจวัดยืนยันแล้วว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุกเป็นที่ดินในความถือครองของเขา พนักงานสอบสวนมีหลักฐานแล้วจะได้เรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาแต่คดีนี้เป็นความผิดที่ยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเจรจาจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา 2 ครั้ง ถ้าไม่มาจะออกหมายจับตามกฎหมายต่อไป
ส่วนนายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กล่าวว่าข้อพิพาทในเรื่องนี้ทางป่าไม้ได้ทำการสำรวจแล้ว พื้นที่ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้เข้าไปแก้ไขปัญหาที่ทำกิน และเป็นพื้นที่ที่ให้สิทธินายเสี้ยวซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อลูกสาวครอบครองเพื่อทำกิน เมื่อเกิดข้อพิพาทเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชน ทางป่าไม้ได้ส่งเรื่องให้ทางศูนย์ดำรงธรรม อ.สวนผึ้ง ดำเนินการซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมให้ทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเพื่อยุติปัญหา ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
วีระ ประไวย์ รอจนเขาขนย้ายทรัพย์สินแะเครื่องจักรออกไปให้ได้มากที่สุดถึงจะเข้ายึด หยวนๆนะครับ ต่างจากชาวบ้าน รถเข็นลากจูงคันละไม่กี่บาทยังยึดไปเป็นขยะ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 23.59 น.
มหาสมุทร ภูศรีฤทธิ์ ขี้ไก่ขายหมดแล้วสิถึงเอาป้ายไปติด
05 ธ.ค. 2562 เวลา 23.46 น.
ชื่นชมที่นำเอาสมบัติของส่วนรวมของชาติคืนมา
ยังมีอีกมากพวกขี้โกงในคราบผู้ดีมีอำนาจ
ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ดีสู้ๆ
05 ธ.ค. 2562 เวลา 23.06 น.
prasong รีบจับมันก่อนที่มันจะหนีออกนอกประเทศไป
05 ธ.ค. 2562 เวลา 23.03 น.
Somchai เป็นข้าราชการต้องยึดกฎหมายเป็นหลักกู้ศักดิ์ศรีเอาไว้
06 ธ.ค. 2562 เวลา 00.19 น.
ดูทั้งหมด