อีกไม่กี่อึดใจแฟนบอลจะได้หายเหงา พรีเมียร์ลีก ลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดลีกหนึ่งของโลกจะกลับมาเปิดฤดูกาฃฟาดแข้งกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามล่าสุด พรีเมียร์ลีก มีการประกาศกฎใหม่ออกมา โดยนำ เฮด-ทู-เฮด เข้ามาใช้ในการตัดสินเพิ่มเติม วันนี้ขอบสนามรวบรวมเรื่องใหม่ที่จะเกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 ไว้ให้ผู้อ่านที่นี่แล้ว มีอะไรบ้างติดตามได้เลย
1. ลูกฟุตบอลโฉมใหม่
ลูกฟุตบอลรุ่นใหม่ ยังคงใช้ชื่อว่า 'เมอร์ลิน' เหมือนฤดูกาลก่อน แต่มีการออกแบบ และพัฒนามาใหม่ เพื่อฤดูกาล 2019/2020 ไนกี้ ระบุว่า เมอร์ลิน รุ่นนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากทั้งวัฒนธรรม และความเป็นเมืองของอังกฤษ และพรีเมียร์ ลีก ด้วย เนื่องในวาระฉลองครบ 20 ปีของการเป็นพาร์ตเนอร์กับ พรีเมียร์ ลีก ต่อจาก ไมเตอร์ ตั้งแต่ฤดูกาล 2000/2001 เป็นต้นมา ด้วยดีไซน์ที่เน้นให้ดูเตะตาและสีแบบนี้ จะทำให้นักเตะและแฟนบอล มองเห็นลูกฟุตบอลได้ชัด ง่ายขึ้นไปอีก เมื่อมองเห็นลูกฟุตบอลได้ดีขึ้น เห็นตำแหน่งลูกฟุตบอลชัดขึ้น ก็จะมีผลต่อการจัดวางท่าร่างกายในการส่ง หรือยิงด้วย นอกจากนี้ ไนกี้ ยังได้ขยายจุดสัมผัส หรือที่เรียกกันว่า สวีต สปอต พื้นที่สัมผัส ที่เรียบบนลูกฟุตบอล บนลูกฟุตบอลให้ใหญ่กว่าเดิม สิ่งที่นักเตะจะได้รับ คือ ประสิทธิภาพ เกี่ยวกับส่งบอล และ ยิงบอล เพิ่มความเสถียรในการลอยตัวที่มากขึ้น ลูกฟุตบอลจะส่ายน้อยลง และพุ่งไปยังเป้าหมายเร็วกว่าเดิม
2. ผู้ตัดสินมีสิทธิ์แจกใบเหลืองหรือแดงให้กุนซือหัวร้อน
จริง ๆ มีการปรับใช้ในฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแต่ในฤดูกาลนี้ได้เพิ่มรายละเอียดบางส่วนเพิ่มเติมเล็กน้อย ผู้จัดการทีมหรือสต๊าฟฟ์โค้ชในทีมใดที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ผู้ตัดสินสามารถแจกใบเหลือง หรือใบแดง ให้สงบสติอารมณ์ได้ และหากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนที่ไม่อาจจับตัวคนทำผิดได้ ผู้ตัดสินมีสิทธิ์แจกใบเหลืองหรือแดงให้กับ ผู้จัดการทีมหรือกุนซือในตำแหน่งสูงสุดที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทีมในตอนนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่บานปลาย ซึ่งเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายและมีประโยชน์ต่อผู้ตัดสินอายุน้อยที่ต้องรับมือกับกุนซืออายุมากกว่าอีกด้วย
3. VAR มาช่วยในการตัดสิน
พรีเมียร์ลีก จะมีการนำ VAR หรือ วิดีโอภาพช้าเข้ามาช่วยในเกมการตัดสินของผู้ตัดสินในจังหวะปัญหาต่าง ๆ ในฤดูกาลเป็นต้นไปเพื่อความยุติธรรม หลังจากที่ผ่านมา ความผิดพลาดของผู้ตัดสินในพรีเมียร์ลีก กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมีส่วนกับจังหวะสำคัญของเกมและเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ในพริบตา ซึ่งหลังจากการทดลองใช้ VAR ในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ๆ พร้อมกับลีกดัง ๆ ลีกอื่นในยุโรป ผู้ชมเริ่มที่จะชินกับการมี VAR เข้ามาช่วยมากขึ้น รวมถึงทีมในพรีเมียร์ลีก ยอมรับที่จะให้ VAR เข้ามามีบทบาทในการช่วยผู้ตัดสิน ทั้งนี้การใช้ VAR ก็จะมีข้อกำหนดในการใช้ไม่ได้สามารถใช้พร่ำเพื่อได้ ดังนั้นในอนาคตไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาการล้ำหน้าหรือการได้มาของประตูที่ไม่เป็นธรรมอีกต่อไป
4. กฎการยิงจุดโทษ
แม้ว่าจะไม่มีการใช้ VAR มาคอยจับผิดว่าผู้รักษาประตูนั้นยืนจะต้องอยู่บนเส้นหน้าปากประตูขณะเซฟจุดโทษหรือไม่ จากกกรณีที่บอลโลกหญิงมีการใช้ VAR และส่งผลให้เกิดการยิงจุดโทษใหม่ ทางพรีเมียร์ลีกจะให้อำนาจสิทธิ์ขาดแก่ผู้ตัดสินที่ 1 เพียงคนเดียวคอยใช้ดุลยพินิจชี้ขาดด้วยตัวเองว่า ผู้รักษาประตูต้องเหยียบเท้าอย่างน้อยหนึ่งข้างบนเส้นประตูในขณะที่ลูกบอลถูกเตะ ไม่สามารถยืนหลังเส้นได้ กฎข้อนี้ช่วยให้เห็นว่าผู้รักษาประตูยืนอยู่ตรงเส้นประตูจริงหรือไม่ เพราะผู้รักษาประตูบางคนอาจกระโดดออกมาเกินเส้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้รักษาประตูเตรียมตัวป้องกันได้ดีขึ้นเพราะฝ่ายตรงข้ามอาจมีการหยุดชะงักหลอก ห้ามผู้รักษาประตูแตะเสาประตู คาน หรือตาข่าย นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ทำการปฐมพยาบาลผู้เล่นที่โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษก่อนที่จะรับหน้าที่ยิงจุดโทษ ซึ่งก่อนหน้านี้นักเตะต้องออกไปรับการปฐมพยาบาลข้างสนามและจะหมดสิทธิ์ยิงจุดโทษ
5. เบรคหนีหนาว
โดยก่อนหน้านี้ลีกฟุตบอลสูงสุดของแดนผู้ดี เป็นลีกเดียวในบิ๊กลีกยุโรปที่ไม่มีการหยุดพักหนีหนาว แถมยังเตะถี่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้นักเตะต้องกรำศึกหนัก และเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บได้ง่าย รวมถึงเป็นข้อเสียเปรียบในระยะยาวเวลาลงเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เนื่องจากได้พักน้อยกว่า ทำให้ล่าสุด สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, ฟุตบอลลีกอังกฤษ และ พรีเมียร์ลีก ตกลงร่วมกันให้พรีเมียร์ลีกมีการเบรคหนีหนาวเป็นครั้งแรก ในฤดูกาล 2019/2020 โดยจะเป็นช่วงเดือน กุมภาพันธ์ และจะกินเวลาทั้งสิ้น 2 สัปดาห์ด้วยกัน โดยปรับโปรแกรมใน 2 สัปดาห์แรกของเดือนนั้นใหม่ แบ่งโปรแกรมแข่งเป็นสัปดาห์ละ 5 คู่ ขณะเดียวกัน พวกเขายังขยับโปรแกรม เอฟเอ คัพ รอบ 5 มาแข่งกลางสัปดาห์ และยกเลิกเกมรีเพลย์ในรอบนี้ด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะได้มีโอกาสพักในช่วงเวลานั้น
6. นำ เฮด-ทู-เฮด มาตัดสิน
จากเดิมในกฎเก่าก่อนหน้านี้ สำหรับกฎเก่าของพรีเมียร์ลีก การนับคะแนนจะเป็นแบบนี้หากมี 2 ทีมที่คะแนนเท่ากัน จะไล่ลำดับเงื่อนไขดังนี้ ผลต่างประตูได้-เสีย หากเท่ากันจะไปนับจำนวนประตูที่ยิงได้ และถ้ายังคงเท่ากันต้องดวลด้วยการเพลย์ออฟ แต่ทว่าพรีเมียร์ลีกปรับกฎใหม่ โดยมีการเพิ่มเฮด-ทู-เฮด เข้ามาในการเป็นเกณฑ์วัดการตัดสิน เฉพาะในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ โควต้ายุโรป และกลุ่มตกชั้น โดยมีเกณฑ์วัดดังนี้หากมี 2 ทีมที่คะแนนเท่ากัน ผลต่างประตูได้-เสียเท่ากัน และจำนวนประตูที่ยิงได้เท่ากัน โดยไล่ลำดับเงื่อนไขดังนี้ ผลต่างประตูได้-เสีย, จำนวนประตูที่ยิงได้, เฮด-ทู-เฮด, หาก เฮด-ทู-เฮด เท่ากันใช้กฎยิงประตูทีมเยือน และหากที่กล่าวมายังตัดสินไม่ได้จะจบด้วยการดวลด้วยการเพลย์ออฟ ซึ่งเตะสนามกลาง
- เปี๊ยกบางใหญ่ -
95LAMPANG♾ เงื่อนไขใหม่ๆจะทำลายมนต์ขังของฟุตบอลลงไป
17 ก.ค. 2562 เวลา 02.06 น.
อะไรที่ชัดเจน โปร่งใส จัดไป ไม่ต้องมีข้อครหากันภายหลัง
17 ก.ค. 2562 เวลา 04.15 น.
กริชชัย ธาราเสาวรภย์ เฮด-ทู-เฮด อยู่ในเงื่อนไขเกือบสุดท้าย ดูแล้วก็คงเดิมๆคงไม่ถึงต้องตัดสินด้วยเฮด-ทู-เฮด แน่
17 ก.ค. 2562 เวลา 01.51 น.
LiverPool F.C ชอบกฏการให้ ใบเหลือง แดง กุนซือมากที่สุด
เพราะในอดีตทแค่ไอ่เซอร์ มายืนข้างสนาม กรรมการก้กลัวจนไข่หดแล้ว
ไอ่เซอร์ทำยกมือดูนาฬิกา ก้ทดเวลาไปอีก 3นาที
คือ กรรมการแม้งกลัวอิทธิพล มาก
มีกฏยี้จะทำให้ กรรมการไม่ต้องกลัวหน้าไหนอีก
17 ก.ค. 2562 เวลา 04.13 น.
OB One เฮด-ทู-เฮด ไม่ได้ถูกนำมาใช้สำหรับตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก และถึงแม้จะใช้กับทีมตกชั้นกับลุ้นพื้นนที่ ucl ก็ดูเหมือนมีโอกาสใช้น้อยมาก แทบเป็นศูนย์
17 ก.ค. 2562 เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด